น้าฮามันไม่ได้ลง เบี่ยงคี่ทำดี ไอร์แลนด์เล่นพิเรนท์ เลยโดนไก่จิก 2-1
สเปอร์ส 2 - แมนฯซิตี้ 1
"ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เปิดรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน รับมือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ งานนี้แม้ว่าฟอร์มโดยรวมของเจ้าถิ่นจะย่ำแย่กว่า แต่ก็ต้องถือว่ายังเป็นต่ออยู่
ฆวนเด้ รามอส ไม่มี ร็อบบี้ คีน กองหน้าตัวเก่งที่ติดโทษแบน ดังนั้น ดาร์เรน เบนท์ จึงได้ยืนคู่กับ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ
ฝั่งทีมเยือน ดีทมาร์ ฮามันน์ กองกลางจอมเก๋าติดโทษแบน งานนี้จึงเป็น เควิล อีตูฮู กลางผิวสีที่ได้ลงสนามแทน ส่วนแดนหน้ามี ดาริอุส วาสเซลล์ ที่ได้เป็นตัวเป้า
ออกสตาร์ตเพียงแค่นาทีแรกทีมเยือนได้ลุ้นก่อนเมื่อ เปตรอฟ โยนบอลจากด้านขวาให้ ไมเคิ่ล จอห์นสัน โหม่งทำท่าจะเข้า แต่ พอล โรบินสัน ปัดออกไปได้
เจ้าถิ่นตั้งเกมได้และเริ่มบุกได้มากกว่า น.8 ดาร์เรน เบนท์ หลุดไปยิงทางซ้ายน่ากลัว แต่ว่า อันเดรส อิซัคส์สัน ล้มตัวบล็อกเอาไว้ได้หวุดหวิด
อีกครั้งที่ สเปอร์ส ได้ลุ้น น.16 เมื่อ ดาร์เรน เบนท์ หลุดไปยิงมุมแคบทางขวาระยะสิบหลา แต่หักมากเกินไปบอลผ่านเสาสองไปนิดเดียว
ถึงกลางครึ่งแรก แมนฯซิตี้ ได้ลุ้นทำประตูเมื่อ อีตูฮู หลุดไปซัดทางขวา แต่เป็น พอล โรบินสัน ที่ปัดบอลจากเสาแรกออกไปได้
ทั้งคู่เล่นกันได้สูสีแต่จังหวะทำประตูมีไม่มากนัก น.36 สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ลองซัดไกลบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปแบบมีลุ้น
ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียวเป็นเจ้าถิ่นทีได้ประตูขึ้นนำเมื่อได้ฟรีคิกทางซ้าย จีนัส เตะเรียดไปให้ เบอร์บาตอฟ ดีดยิงในเขตวิถีไปทาง ปาสกาล ชิมบงด้า ที่ดูเหมือนจะล้ำหน้าบอล โดนสีข้าง ชิมบงด้า ตุงตาข่าย สเปอร์ศ นำ 1-0 จนครบ 45 นาที
ครึ่งหลังทั้งสองทีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวเพิ่มเติม ออกสตาร์ตใหม่เกมเป็นไปอย่างสูสีกัน เล่นไปได้ราว 10 นาทีเจ้าถิ่นเกือบได้เม็ดที่ 2 จาก เบอร์บาตอฟ ที่ได้ซัดทางขวา แต่ อีซัคส์สัน ไม่พลาดปัดออกหลังไปได้
ทีมเยือนตามตีเสมอได้สำเร็จเมื่อเกมถึง น.61 จากลูกเตะมุม มาริยัน เปตรอฟ โยนไปให้ โรลันโด้ เบียงคี่ ตัวสำรองโหม่งในกรอบ 6 หลาตุงตาข่ายเปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1
ไก่เสียศูนย์โดน แมนฯซิตี้ บุกหนัก แต่ยังยันเอาไว้ได้ น.67 ฆวนเด้ รามอส ต้องส่ง เควิน พรินซ์ บัวเต็ง ลงไปแทน อารอน เลนน่อน
เจ้าถิ่นน่าได้เม็ดที่ 2 อย่างที่สุดเมื่อพาบอลขึ้นมาทางซ้าย ก่อนที่ เบอร์บาตอฟ จะดีดส้นให้ เจอร์เมน จีนาส ยิงเน้นๆ 20 หลาข้ามคานไปนิดเดียว จากนั้นไม่นาน ไก่ เปลี่ยนตัวโดยเป็น เจอร์เมน เดโฟ ที่ได้แทน ดาร์เรน เบนท์
ทีมเยือนต้องเหลือแค่ 10 คนใน น.81 เมื่อ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ โดนใบแดงแบบไดเร็คจากการทำฟาวล์ ลี ยอง-เพียว โดยเปิดปุ่มสองเท้าเข้าเสียบอย่างน่าเกลียดที่สุด ชอตนี้ไก่ได้ฟรีคิกก่อนจะเกิดการเล่นต่อเนื่องทำให้ สตีด มาลบร็องก์ ได้กึ่งยิงกึ่งผ่านจากทางซ้ายบอลโดนเสากระดอนมาเข้าทาง เดโฟ ที่จับแล้วซัดด้วยขวาเหน่งๆไม่ถึงสิบหลาบอลลอดขากองหลัง แมนฯซิตี้ ตุงตาข่ายสุดสวย สเปอร์ส นำ 2-1
สเวน โกรัน อีริคส์สัน เปลี่ยนตัวทันทีโดยส่ง โจวานนี่ ลงแทน ดาริอุส วาสเซลล์ เวลาที่เหลือ แมนฯซิตี้ พยายามเอาคืนแต่ไม่สำเร็จ จบเกม สเปอร์ส ชนะ 2-1 เก็บ 3 แต้มเต็มได้หวุดหวิด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สเปอร์ส : พอล โรบินสัน, ปาสกาล ชิมบงด้า, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, ยูเนส กาบุล, ลี ยอง-เพียว, อารอน เลนน่อน, เจอร์เมน จีนัส, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, สตีฟ มาลบร็องก์, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ, ดาร์เรน เบนท์
สำรอง : ราเด็ค แซร์นี่, ตีมู เตนิโอ, เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง, เจอร์เมน เดโฟ, เจมี่ โอ ฮาร่า
แมนฯซิตี้ : อันเดรส อิซัคส์สัน, เวดรัน คอร์ลูก้า, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, ริชาร์ด ดันน์, ฮาเบียร์ การ์ริโด้, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ไมเคิ่ล จอห์นสัน, เควิล อีตูฮู, เฟร์นานเดส เกลสัน, มาร์ติน เปตรอฟ, ดาริโอ วาเซลล์
สำรอง : โจ ฮาร์ท, เดแบร์สัน โจวานนี่, โรแลนโด้ เบียงคี่, ซุน จีไห่, เนดุม โอนูโอฮา
ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซี่ย์
"ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เปิดรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน รับมือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ งานนี้แม้ว่าฟอร์มโดยรวมของเจ้าถิ่นจะย่ำแย่กว่า แต่ก็ต้องถือว่ายังเป็นต่ออยู่
ฆวนเด้ รามอส ไม่มี ร็อบบี้ คีน กองหน้าตัวเก่งที่ติดโทษแบน ดังนั้น ดาร์เรน เบนท์ จึงได้ยืนคู่กับ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ
ฝั่งทีมเยือน ดีทมาร์ ฮามันน์ กองกลางจอมเก๋าติดโทษแบน งานนี้จึงเป็น เควิล อีตูฮู กลางผิวสีที่ได้ลงสนามแทน ส่วนแดนหน้ามี ดาริอุส วาสเซลล์ ที่ได้เป็นตัวเป้า
ออกสตาร์ตเพียงแค่นาทีแรกทีมเยือนได้ลุ้นก่อนเมื่อ เปตรอฟ โยนบอลจากด้านขวาให้ ไมเคิ่ล จอห์นสัน โหม่งทำท่าจะเข้า แต่ พอล โรบินสัน ปัดออกไปได้
เจ้าถิ่นตั้งเกมได้และเริ่มบุกได้มากกว่า น.8 ดาร์เรน เบนท์ หลุดไปยิงทางซ้ายน่ากลัว แต่ว่า อันเดรส อิซัคส์สัน ล้มตัวบล็อกเอาไว้ได้หวุดหวิด
อีกครั้งที่ สเปอร์ส ได้ลุ้น น.16 เมื่อ ดาร์เรน เบนท์ หลุดไปยิงมุมแคบทางขวาระยะสิบหลา แต่หักมากเกินไปบอลผ่านเสาสองไปนิดเดียว
ถึงกลางครึ่งแรก แมนฯซิตี้ ได้ลุ้นทำประตูเมื่อ อีตูฮู หลุดไปซัดทางขวา แต่เป็น พอล โรบินสัน ที่ปัดบอลจากเสาแรกออกไปได้
ทั้งคู่เล่นกันได้สูสีแต่จังหวะทำประตูมีไม่มากนัก น.36 สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ลองซัดไกลบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปแบบมีลุ้น
ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียวเป็นเจ้าถิ่นทีได้ประตูขึ้นนำเมื่อได้ฟรีคิกทางซ้าย จีนัส เตะเรียดไปให้ เบอร์บาตอฟ ดีดยิงในเขตวิถีไปทาง ปาสกาล ชิมบงด้า ที่ดูเหมือนจะล้ำหน้าบอล โดนสีข้าง ชิมบงด้า ตุงตาข่าย สเปอร์ศ นำ 1-0 จนครบ 45 นาที
ครึ่งหลังทั้งสองทีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวเพิ่มเติม ออกสตาร์ตใหม่เกมเป็นไปอย่างสูสีกัน เล่นไปได้ราว 10 นาทีเจ้าถิ่นเกือบได้เม็ดที่ 2 จาก เบอร์บาตอฟ ที่ได้ซัดทางขวา แต่ อีซัคส์สัน ไม่พลาดปัดออกหลังไปได้
ทีมเยือนตามตีเสมอได้สำเร็จเมื่อเกมถึง น.61 จากลูกเตะมุม มาริยัน เปตรอฟ โยนไปให้ โรลันโด้ เบียงคี่ ตัวสำรองโหม่งในกรอบ 6 หลาตุงตาข่ายเปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1
ไก่เสียศูนย์โดน แมนฯซิตี้ บุกหนัก แต่ยังยันเอาไว้ได้ น.67 ฆวนเด้ รามอส ต้องส่ง เควิน พรินซ์ บัวเต็ง ลงไปแทน อารอน เลนน่อน
เจ้าถิ่นน่าได้เม็ดที่ 2 อย่างที่สุดเมื่อพาบอลขึ้นมาทางซ้าย ก่อนที่ เบอร์บาตอฟ จะดีดส้นให้ เจอร์เมน จีนาส ยิงเน้นๆ 20 หลาข้ามคานไปนิดเดียว จากนั้นไม่นาน ไก่ เปลี่ยนตัวโดยเป็น เจอร์เมน เดโฟ ที่ได้แทน ดาร์เรน เบนท์
ทีมเยือนต้องเหลือแค่ 10 คนใน น.81 เมื่อ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ โดนใบแดงแบบไดเร็คจากการทำฟาวล์ ลี ยอง-เพียว โดยเปิดปุ่มสองเท้าเข้าเสียบอย่างน่าเกลียดที่สุด ชอตนี้ไก่ได้ฟรีคิกก่อนจะเกิดการเล่นต่อเนื่องทำให้ สตีด มาลบร็องก์ ได้กึ่งยิงกึ่งผ่านจากทางซ้ายบอลโดนเสากระดอนมาเข้าทาง เดโฟ ที่จับแล้วซัดด้วยขวาเหน่งๆไม่ถึงสิบหลาบอลลอดขากองหลัง แมนฯซิตี้ ตุงตาข่ายสุดสวย สเปอร์ส นำ 2-1
สเวน โกรัน อีริคส์สัน เปลี่ยนตัวทันทีโดยส่ง โจวานนี่ ลงแทน ดาริอุส วาสเซลล์ เวลาที่เหลือ แมนฯซิตี้ พยายามเอาคืนแต่ไม่สำเร็จ จบเกม สเปอร์ส ชนะ 2-1 เก็บ 3 แต้มเต็มได้หวุดหวิด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สเปอร์ส : พอล โรบินสัน, ปาสกาล ชิมบงด้า, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, ยูเนส กาบุล, ลี ยอง-เพียว, อารอน เลนน่อน, เจอร์เมน จีนัส, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, สตีฟ มาลบร็องก์, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ, ดาร์เรน เบนท์
สำรอง : ราเด็ค แซร์นี่, ตีมู เตนิโอ, เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง, เจอร์เมน เดโฟ, เจมี่ โอ ฮาร่า
แมนฯซิตี้ : อันเดรส อิซัคส์สัน, เวดรัน คอร์ลูก้า, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, ริชาร์ด ดันน์, ฮาเบียร์ การ์ริโด้, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ไมเคิ่ล จอห์นสัน, เควิล อีตูฮู, เฟร์นานเดส เกลสัน, มาร์ติน เปตรอฟ, ดาริโอ วาเซลล์
สำรอง : โจ ฮาร์ท, เดแบร์สัน โจวานนี่, โรแลนโด้ เบียงคี่, ซุน จีไห่, เนดุม โอนูโอฮา
ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซี่ย์
Replies to This Discussion
-
Permalink Reply by khomchan on
-
เบียงคี่เล่นดีมากภาพรวมแมนซิแพ้แต่เล่นประทับใจโดยเฉพาะเบียงคี่ได้แจ้งเกิดแล้วครับ พี่น้อง
-
Permalink Reply by oum on
-
เบี่ยงคี่คือสุดยอดกองหน้าครับ แต่ยังไม่เข้าระบบของทีม ถ้าเล่นเข้าขากับกองกลางได้เมื่อไหร่ ดาวซัลโวก็คงไม่พ้นเขาเป็นแน่แท้
-
Permalink Reply by ลุงเล็ก on
-
สเวนโอดเรือใบโชคร้าย.........แฟนคลับในเมืองไทยเห็นใจ
สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือสมองเพชร แมนฯ ซิตี้ โอดครวญบอก "เรือใบสีฟ้า" โชคร้ายจากการเสียประตูแรกอย่างน่ากังขาในเกมบุกพ่าย สเปอร์ส 1-2 แต่รับ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ปีกเจ้าอารมณ์ สมควรโดนไล่ออกแล้วหลังไปอัดผู้เล่นเจ้าถิ่นอย่างน่าเกลียด
สเวน โกรัน อีริคส์สัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พลพรรค "เรือใบสีฟ้า" โชคร้ายที่เสียประตูแรกอย่างน่ากังขาในเกม พรีเมียร์ลีก นัดบุกไปพ่าย "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หวุดหวิด 1-2 ที่สนามไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ปาสกาล ชิมบงด้า แบ็กขวาทีมชาติฝรั่งเศส เป็นผู้ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายให้ สเปอร์ส เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 45 แต่ก่อนหน้านั้นดูเหมือนว่า ลูกบอลจะไปสัมผัสกับมือของเขาก่อน แถมยังก้ำกึ่งว่า จะเป็นจังหวะล้ำหน้าอีกด้วย ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ ตามมาตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จจาก โรลันโด้ เบียงคี่ กองหน้าตัวสำรอง ในนาทีที่ 61 ก่อนที่ เจอร์เมน เดโฟ ซึ่งถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองเช่นกันนั้น จะมาซัดประตูชัยให้ เจ้าถิ่น เฉือนไปอย่างเฉียดฉิว 2-1 ในนาทีที่ 83
อีริคส์สัน กล่าวว่า "หลายครั้งเมื่อคุณเห็นปฎิกิริยาของผู้เล่น มันเป็นการแสดงให้เห็นว่า บางอย่างที่ไม่ควรเกิดขึ้นได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ผู้ตัดสินในประเทศแห่งนี้เป็นผู้ตัดสินที่ดีมาก ๆ และพวกเขาก็ซื่อมาก ๆ บางครั้งคุณก็โชคไม่ดีกับการตัดสิน และบางครั้งคุณก็โชคดี นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอล"
สำหรับการถูกไล่ออกจากสนามของ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ปีกตัวเก่ง ของ แมนฯ ซิตี้ จากการพุ่งเข้าไปเสียบสองเท้าใส่ อี ยอง เพียว นั้น "สเวนนิส" มองว่า ผู้ตัดสิน มาร์ค ฮัลซี่ย์ ตัดสินได้อย่างถูกต้องแล้ว
"เมื่อมองจากม้านั่งสำรองผมคิดว่า มันเป็นการตัดสินที่รุนแรงเกินไป แต่เมื่อย้อนมาดูเหตุการณ์ซ้ำหลังจากนั้น ผมเห็นว่า มันเป็นการตัดสินที่ถูกต้องของผู้ตัดสิน และไม่มีอะไรที่จะต้องไปตำหนิ การเล่น 10 ต่อ 11 เป็นเรื่องยากกว่าเดิม แต่มันไม่ใช่ความผิดของผู้ตัดสิน มันเป็นความผิดของเราเอง" "เฮียเถิก" กล่าวในที่สุด
-
Permalink Reply by ManCityEagle on
-
การขาด "เอลาโน" เพลย์เมกเกอร์จอมเทคนิค ทำให้เกมรุกขาดความดุดันลงไปเยอะ
"ฮามันน์" ถึงจะอายุมากแต่ก็เก๋าเกม การขาดตัวตัดเกมและควบคุมเกมในแดนกลาง ทำให้สเปอร์สเล่นง่ายขึ้น
"เบียงคี่" เล่นได้ดีต้องให้โอกาสสัมผัสเกมให้มากกว่านี้ จะช่วยปรับตัวให้เข้าระบบของทีมและเรียกความมั่นใจได้เร็วขึ้น
"เปตรอฟ" ระยะนี้ดูเหมือนฟอร์มแผ่วไป เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานไม่ได้สร้างปัญหาให้คู่แข่งเหมือนเคย
© 2024 Created by thaiMCFC.
Powered by
