"ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ตีตั๋วไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่บุกไปเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ถึงถิ่น 1-0 ในขณะที่ ฟูแล่ม เล่นในรังตัวเองพ่าย สโต๊ค ซิตี้ 0-1
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนทีผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี้ 0 - 1 สเปอร์ส

สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์

ศึกชิงตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ แมนฯ ซิตี้ได้แกเร็ธ แบร์รี่กองกลางหายเจ็บกลับมาลงสนามตามคาด ขณะที่นายทวารยังส่งมาร์ตัน ฟูล็อปที่ยืมมาจากซันเดอร์แลนด์เฝ้าเสาอีกนัด
 

ส่วนสเปอร์สซึ่งจะได้อันดับสี่ทันทีหากชนะเกมนี้มีกัปตันปราการ หลังเล็ดลีย์ คิงกับนายทวารเอเรลโญ่ โกเมซเช็คฟิตผ่านทั้งคู่ ด้านหัวหอกเปลี่ยนมาใช้ปีเตอร์ เคราช์ก่อนหน้าโรมัน พาฟลิวเชนโก้
อีกทั้งอาร่อน เลนน่อนก็ได้เล่นเป็นตัวจริงหนแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.
 

แมนฯ ซิตี้ออกสตาร์ตได้อย่างวูบวาบกว่า และเกือบได้เฮตั้งแต่นาทีที่ 7 จากการโต้เร็วแถวกลางสนามที่คาร์ลอส เตเวซอาศัยความทุ่มเทกระชากบอลลุยขึ้นไปคนเดียวจนหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้าย
พร้อมทั้งเตะหลบเบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้เข้าไปเข่นมุมแคบ
แต่โกเมซบล็อคทิ้งได้
 

ถัดมาอีกสองนาที กองหน้าเลือดฟ้าขาวก็สร้างปัญหาให้แนวรับตราไก่อีก คราวนี้ลุยขึ้นฝั่งซ้ายไปลากแหวกผ่านสองตัวประกบทะลุเข้าเขตโทษได้
แต่จังหวะสับไกมีไมเคิ่ล ดอว์สันแหย่ขาสกัดได้ทัน
 

นับจากนั้น สเปอร์สก็เริ่มตั้งลำได้ และนาทีที่ 18 ก็มาได้ลูกฟรีคิกแถวมุมธงด้านขวาจากจังหวะที่เวย์น บริดจ์ทำฟาวล์ยูเนส กาบูล แกเร็ธ เบลจึงโยนยาวไปเสาไกลให้เคราช์โถมโขกเผาขน แต่บอลชนเสา
 

ขยับมาอีกสามนาที ทีมตราไก่ก็มาได้ลูกเตะมุมฝั่งขวา แล้วคิงได้โขกระยะหกหลาตุงตาข่าย แต่ถูกผู้ตัดสินเป่าฟาวล์โทษฐานกดไหล่แบร์รี่
 

ทีมตราเรือใบรวมรวมสมาธิโจมตีผู้มาเยือนกันใหม่ และเกือบขึ้นนำในนาทีที่ 27 จากลูกเตะมุมด้านซ้ายที่ถูกทีมตราไก่เคลียร์ออกมาหน้าเขตโทษเข้าทางปืนให้
อดัม จอห์นสันตะบันเต็มๆจาก 25 หลา
ทว่าโกเมซโชว์เหนียวปัดทิ้งได้เหลือเชื่อ
 

ผ่านมาถึงนาทีที่ 30 กาบูลก็มีใบเหลืองติดตัวข้อหาฉุดเคร็ก เบลลามี่ไม่ให้กระชากบอลหนี และอีกสี่นาทีต่อมาแบร์รี่ก็ตักบอลจากแถวสองเข้าเขตโทษด้านขวาแฉลบขาเบลที่
สกัดผิดเหลี่ยมจนเกือบตุงตาข่าย
ดีที่ว่าโกเมซกระโจนมาปัดได้อย่างเฉียดฉิวที่โคนเสา
 

จากลูกเตะมุม แมนฯ ซิตี้ทิ้งโอกาสทองไปอีกหนเมื่อโคโล่ ตูเร่กัปตันทีมได้โหม่งระยะ 10 หลากดไม่ลง บอลโด่งออกไปอย่างน่าเสียดาย
 

สเปอร์สไม่ยอมปล่อยให้ถูกกดดันฝ่ายเดียว และน่าจะพังประตูได้อย่างยิ่งในนาทีที่ 39 โดยเลนน่อนพลิ้วขึ้นกราบขวาไปตักบอลจากเส้นหลังเข้าหาเสาไกล
เคราช์จึงโขกชงย้อนกลับมาให้เบลวอลเลย์ระยะ 12
หลาเบียดเสาออกไปแค่เส้นยาแดงผ่าแปด
 

จวบจนนาทีที่ 42 ทีมมหาเศรษฐีก็ได้ลูกเตะมุมด้านขวาอีกครั้ง แต่ตูเร่โหม่งไม่มีน้ำหนัก ทำให้โกเมซกระโดดคว้าเอาไว้ จบครึ่งแรกทั้งสองฝ่ายจึงเสมอกันไปแบบสนุกแม้จะไม่มีประตู
 

ครึ่งหลัง เรือใบสีฟ้าเปิดฉากบุกเข้าหาก่อนตามแรงเชียร์ แต่ถึงนาทีที่ 54 แบร์รี่ก็เจ็บซ้ำจนได้ และเล่นต่อไม่ไหวต้องเดินกระเผลกออกไปโดยมีปาทริค วิเอร่าลงไปแทน
 

ให้หลังอีกสองนาที สเปอร์สหวิดได้กระต๊ากอีกเมื่อลูก้า โมดริชกระดกบอลจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้เดโฟปรี่เข้ายิงดีดด้วยเท้าซ้าย แต่ฟูล็อปงัดซูเปอร์เซฟออกมาช่วยเจ้าบ้านได้อย่างสุดยอด
 

จากนั้นในนาทีที่ 59 ทอม ฮัดเดิลสตันก็โดนจดชื่อจนได้เมื่อเจตนาย่ำใส่ไนเจล เดอ ย็องก์ แม้จะไม่โดนคู่กรณี แต่ก็เป็นพฤติกรรมที่ผู้ตัดสินจำต้องลงดาบ
 

ล่วงมาถึงนาทีที่ 66 เอก็อตโต้ไปยกแขนปัดบอลเลยได้ใบเหลืองไปอีกราย แต่นาทีที่ 71 ทีมเยือนเกือบได้ไชโยจากจังหวะที่เอก็อตโต้ลุยขึ้นทางซ้ายไปจ่ายบอลเรียด
เข้าหาปากประตู แต่ทั้งเดโฟ และเคราช์เข้าฮอสช้าไปแค่เสี้ยววินาทีทั้งคู่
 

จากนั้นทีมเมืองกรุงก็ส่งเดวิด เบนท์ลีย์ลงไปแทนเลนน่อน ขณะที่แมนฯ ซิตี้ใช้งานฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์แทนจอห์นสัน
 

ช่วงท้าย ทีมตราเรือใบโหมสุดกำลัง แต่ก็พังตาข่ายอาคันตุกะไม่สำเร็จ แถมเกือบโดนน็อคในนาทีที่ 77 อีกต่างหากจากลูกโขกระยะ 10 หลาของเคราช์ที่เบลโยนมาให้จากกราบซ้าย
แต่ฟูล็อปเซฟได้เฉียดฉิว 
 

"ไก่เดือยทอง" มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ ยูเนส กาบูล เปิดบอลจากริมกรอบเขตโทษด้านขวา มาร์ตัน ฟูล็อป นายทวารเจ้าถิ่นปัดบอลมาเข้าหัว ปีเตอร์ เคร้าช์ โขกเข้าไปให้ทีมเยือนออกนำ
1-0
 

ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เจ้าถิ่นบุกหนักหวังตีเสมอให้ได้ แต่ทำไม่สำเร็จ ทำให้จบเกม สเปอร์ส บุกมาเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ตีตั๋วไปเล่นฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แมนฯ ซิตี้ : มาร์ตัน ฟูล็อป - ปาโบล ซาบาเลต้า, โคโล่ ตูเร่, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เวย์น บริดจ์ - อดัม จอห์นสัน, ไนเจล เดอ ยอง, แกเร็ธ แบร์รี่, เคร็ก เบลลามี่ - คาร์ลอส เตเวซ,
เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

สำรอง : กุนนาร์ นีลเซ่น (ผู้รักษาประตู) - ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, เนดุม โอนูโอฮา, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, โรเก้ ซานตา ครูซ, ซิลวินโญ่, ปาทริค วิเอร่า
 

สเปอร์ส : เอเรลโญ่ โกเมส - ยูเนส กาบูล, ไมเคิล ดอว์สัน, เล็ดลี่ย์ คิง (กัปตันทีม), เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ - อารอน เลนน่อน, ทอม ฮัดเดิลสตัน, ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ
เบล - ปีเตอร์ เคร้าช์, เจอร์เมน เดโฟ

สำรอง: เบน อัลนิค (ผู้รักษาประตู) - เซบาสเตียง บาสซง, เดวิด เบนท์ลี่ย์, เจอร์เมน จีนัส, โรมัน พาฟลิวเชนโก้, วิลสัน ปาลาซิออส, ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น,
 

ผู้ตัดสิน : สตีฟ เบนเน็ตต์