บราซิล 3-1 ไอวอรี่โคสต์

สนาม : ซอคเกอร์ ซิตี้ สเตเดี้ยม,?โยฮันเนสเบิร์ก

ประตู :

1-0 ฟาเบียโน่ 25

2-0 ฟาเบียโน่ 50

3-0 เอลาโน่ 62

3-1 ดร็อกบา 80

เกมเปิดมาแค่นาทีเดียว บราซิล ก็ได้โอกาสครั้งแรกทันทีโดยเป็นจังหวะการโต้กลับเร็ว โรบินโญ่ ควบพาบอลขึ้นมาก่อนจะเหลือบเห็นผู้รักษาประตูขยับออกมานอกเส้นจึงพยายามชิพบ
อลกะให้ข้ามหัวเสียบสามเหลี่ยมแต่น้ำหนักบอลเกินไปทำให้หลุดกรอบ

แต่หลังจากนั้นเกมเป็นทาง ไอวอรี่โคสต์ ที่ยันสู้ได้อย่างสนุกเท้า มีจังหวะโต้ตอบกลับมาให้หวาดเสียวเล่นเป็นระยะ โดยมี ดร็อกบา เป็นกำลังสำคัญที่คอยค้ำอยู่ในแดนหน้า ซึ่งดร็อกบา
ก็ได้ง้างเท้าจากลูกฟรีคิกระยะไกลกว่า 35 หลาแต่เหินข้ามคานออกไปเยอะ

ดร็อกบา ยังเรียกฟาวล์ให้ทีมได้บริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย โดยเป็น เอบูเอ้ ที่เปิดยัดเข้าไปกลางประตูแต่ว่าโดน เซซาร์ ชกบอลออกไปได้หวุดหวิด

เกมดำเนินมาเรื่อยๆโดยที่ บราซิล ก็ยังเล่นหนืดๆช้าๆ แต่มาถึงนาทีที่ 23 ก็กลับมาได้ประตูขึ้นนำแบบไม่มีใครคาดคิดเมื่อ บราซิล ขึ้นเกมมาเป็น กาก้า ที่แทงบอลต่อให้ หลุยส์ ฟาเบียโน่
หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษก่อนจะยิงยัดอัดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม บราซิลนำ
1-0

ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรก บราซิล ก็ยันไอวอรีี่โคสต์ เอาไว้ได้แบบไม่ถึงกับเหนื่อยนัก ก่อนจะกลับมาเล่นกันใหม่ในครึ่งหลังได้แค่ 5 นาที บราซิล ก็มาหนีเป็น 2-0 โดยเป็นการโชว์ของ หลุยส์ ฟาเบียโน่
ที่ได้บอลเปิดมาก่อนจะชิงจังหวะกระดกบอลข้ามกองหลังก่อนจะซัดด้วยซ้ายบอล
เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้นสุดๆ

ไอวอรี่โคสต์ เกือบจะตีไข่แตกได้เหมือนกัน เมื่อ ดร็อกบา ได้โขกเน้นๆเต็มหัวในเขตโทษแต่ว่ากดไม่ลงทำให้บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย แต่ บราซิล ก็ดูเริ่มเข้าที่เข้าทางและเกือบจะยิงหนีห่างออกไปอีก เมื่อ
กาก้า ประสานงานกับโรบินโญ่ ก่อนจะซัดแต่โดนเซฟได้

อย่างไรก็ดี มาถึงนาทีที่ 62 บราซิล ก็หนีเป็น 3-0 จนได้ โดยเป็นการขึ้นเกมของ กาก้า ทางซ้ายที่กระชากบอลไปสุดเส้นหลังก่อนจะตบเข้ากลางมาให้ เอลาโน่
ปรี่มาเข้าฮอสเข้าไปสบายๆ

แต่พอยิงได้ไม่นาน เอลาโน่ ก็โชคร้ายโดนยันเข้าที่หน้าแข้งจนต้องโดนหามออกจากสนามและเล่นต่อไม่ไหว เป็น ดาเนี่ยล อัลเวส ลงมาแทน ด้าน ไอวอรี่โคสต์ ก็มีการแก้เกมส่งเกเดอร์
เกต้า ลงมาแทน ซาโลมง กาลู

เกมหลังจากนั้นทั้งสองทีมยังแลกกันสนุก แต่เกมก็หนักมากมีจังหวะปะทะแรงๆหลายครั้งโดย บราซิล ก็น่วมเหมือนกัน แต่ว่าก็ยังพยายามใช้ความเก๋าประคับประคองตัวเองไปเรื่อยๆ

แต่มาถึงนาทีที่ 80 หลังจากที่พยายามอยู่นานโดยเฉพาะ เกร์วินโญ่ ที่ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เซซาร์ แต่ไม่ผ่าน ไอวอรี่โคสต์ ก็มาตีไข่แตกได้สำเร็จ โดยเป็นจังหวะการเปิดบอลเข้ามา ดร็อกบา
วิ่งสอดมาโขกบอลหน้าปากประตูเข้าไปให้สกอร์กลับมาเป็น 3-1

ช่วง 10 นาทีที่เหลือ ไอวอรี่โคสต์ พยายามจะเอาคืนให้ได้อีก และเล่นเกมหนักมาก ก่อนจะมีเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดเมื่อ กาก้า โดนใบเหลือง 2 ใบในระยะเวลาห่างกันแค่ 2 นาที
เป็นใบเหลืองแดงโดนไล่ออกจากสนาม
ซึ่งจังหวะใบเหลืองที่สองเป็นจังหวะปัญหาเพราะ เกต้า เดินมาชนตัวกาก้าเอง

จากนั้นบราซิล ก็มีป่วนเหมือนกัน และเกือบจะโดน ดร็อกบา ส่องไกลแต่เซซาร์ ก็เซฟช่วยทีมเอาไว้ได้ ก่อนจะต้องออกแรงเซฟอีกครั้งในจังหวะที่ เกต้า
ได้บอลเปิดมาที่เสาไกลในเขตโทษและพยายามจะเปิดกลับไปให้ ดร็อกบา แต่เซซาร์
ก็บินไปปัดได้อีก ก่อนที่เกมจะจบลงอย่างดุเดือดด้วยสกอร์ 3-1
และได้ผ่านเข้ารอบสองแน่นอนแล้ว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บราซิล : เซซาร์, ไมคอน, ลูซิโอ, ฌวน, มิเชล บาสตอส, เฟลิเป้ เมโล่, เอลาโน่ (อัลเวส 67), ซิลวา, กาก้า, ฟาเบียโน่, โรบินโญ่

ไอวอรี่โคสต์ : โคป้า, โคโล ตูเร่, ทิเอเน่, เดเมล, เอบูเอ้ (ราเมริช 72), โซโกร่า, ติโอเต้, ยายา ตูเร่, กาลู (เกอิต้า 68), ดร็อกบา, ดินดาน (เกร์วินโญ่ 54)

ผู้ตัดสิน : ลานนอย