Members

ไม่รู้ว่า เป็นเพราะตัวนำโชคอย่างทีมชาติไทยและคณะผู้สื่อข่าวเดินทางกลับ มาจากแมนเชสเตอร์หรือเปล่า ทำให้ทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปราชัยต่อทอตแนม ฮอตสเปอร์ ในศึกลีกคัพ รอบ 8 ทีม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ผมและเพื่อนสื่อมวลชนจากหลายฉบับเพิ่งเดินทางกลับจากอังกฤษ หลังได้รับเชิญ จากมูลนิธิไทยคมและสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไปชมการฝึกซ้อม ของทีมชาติไทยที่สโมสรแมนฯซิตี้ โดยมีคุณบพิธ โกมลภิส ผู้จัดการมูลนิธิไทยคมเป็นหัวหน้าคณะ

การไปเยือนแมนฯซิตี้ครั้งนี้ ได้รู้ ได้เห็นการทำงานอย่างมืออาชีพมากมาย

ขณะที่นักเตะไทยและสตาฟฟ์โค้ช ก็ได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนาบอลไทยในอนาคตเช่นกัน

ผมมีโอกาสได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประธานสโมสรผู้สร้างประวัติศาสตร์ เป็นคนไทย คนแรกที่เป็นเจ้าของทีมบอลในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกที่ได้รับความนิยม มากที่สุดในโลก

พ.ต.ท.ทักษิณ หรือ แฟรงค์ ชินวัตรา ที่แฟนบอลเรือใบสีฟ้ารู้จักกันดี เล่าให้ฟังว่า เป็นเรื่อง บังเอิญไม่น้อยที่ได้สเวน โกรัน อีริกสัน มาคุมทีม เพราะเป้าหมายอันดับ 1 คือ เคลาดิโอ รานิเอรี อดีตกุนซือเชลซี

แต่บังเอิญช่วงนั้นมีความล่าช้าในการเทกโอเวอร์ ขณะที่รานิเอรีได้รับการติดต่อจาก “ม้าลาย” ยูเวนตุส

กุนซือชาวอิตาเลียนรอแมนฯซิตี้ไม่ไหว จึงตกลงรับงานกับทีมยักษ์ใหญ่อย่างยูเวนตุส

เมื่อเป็นเช่นนี้ แมนฯซิตี้จึงต้องเร่งหาผู้จัดการทีมคนใหม่ ทีมงานชาวอังกฤษของ พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอชื่ออีริกสันมาให้พิจารณา

“ทีมงานถามผมว่า ข่าวคราวในด้านลบเกี่ยวกับสเวนที่ถูกสื่ออังกฤษขุดคุ้ย โดยเฉพาะเรื่องชู้สาว จะส่งผลต่อการตัดสินใจของผมหรือไม่ ผมบอกว่า ไม่มีปัญหา เพราะแสดงว่าสเวน เป็นผู้ชายเต็มตัว และเขาก็เป็นโค้ชที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้วย นับว่าเราโชคดีมาก ที่ได้เขามาร่วมงาน” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวติดตลก

ผมถามว่า ใช้เวลาบริหารงานสโมสรอย่างไรในฐานะประธานสโมสร พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า มีอยู่ 2 โอกาสที่จะได้มาที่แมนฯซิตี้

นั่นก็คือ การประชุมบอร์ด และการมาชมเกมเหย้าที่สนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ส่วนงานบริหารแบบวันต่อวัน มีตัวแทนคอยดูแลให้

“สิ่งแรกที่ผมบอกต่อบอร์ดบริหารหลังจากเข้ามาเป็นเจ้าของทีมเต็มตัวก็คือ พรีเมียร์ลีก เป็นลีกระดับโลก คนอังกฤษเองจะมองว่าเป็นแค่ลีกท้องถิ่นไม่ได้ ต้องทำทีมให้ไปถึงระดับโลก ไม่เช่นนั้นขาดทุน ต้องหนีตกชั้นทุกปี”

ด้วยเหตุนี้ความสำเร็จของทีมชุดใหญ่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แม้แต่การกู้เงินธนาคาร ถ้าทีมมีผลงานดี มีชื่อเสียง ก็กู้ได้สบายมาก

การทำทีมบอลต้องกัดฟันสู้ อย่าคิดแบบ “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย” หรือ “ฆ่าควายอย่าเสียดายเกลือ”

ฟุตบอลไม่ใช่แค่กีฬา แต่เป็นเรื่องของบันเทิงหรือเอนเตอร์เทนด้วย

คนทั้งโลกดูพรีเมียร์ลีก 1,300 ล้านคน แถมมีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้องอีกต่างหาก ถ้าบริหารทีมเหมือนที่ผ่านๆมามีแต่ขาดทุน

“เฉพาะค่าเหนื่อยนักเตะเดือนหนึ่งตกหลักล้านปอนด์ ขณะที่ค่าตั๋วเข้าชมเกมในบ้านเก็บได้นัดละ 700,000 ปอนด์ ฤดูกาลหนึ่งได้ค่าลิขสิทธิ์ทีวีปีละ 40 ล้านปอนด์ ยังมีค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และสถานที่อีกมากมาย เงินเหล่านี้ไม่พอแน่นอน นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมเจ้าของทีมพรีเมียร์ลีก จึงตัดสินใจขายทีมทิ้งมากมาย”

ในเมื่อทำทีมบอลมีค่าใช้จ่ายมหาศาลขนาดนี้ เสี่ยงต่อการขาดทุนมาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีวิสัยทัศน์อย่างไรในการนำทีมเรือใบแล่นฉิว พรุ่งนี้มาว่ากันต่อครับ.

ต่อ.....

เมื่อวานผมค้างไว้ที่บทสัมภาษณ์ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ประธานสโมสร “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่า การทำทีมบอลในพรีเมียร์ลีกมีค่าใช้จ่ายมหาศาล ถ้าไม่ปรับตัวมีแต่จะขาดทุน เป็นเหตุให้เจ้าของทีมดั้งเดิมต้องตัดใจขายสโมสร

สำหรับการบริหารงานแมนฯซิตี้ บิ๊กแม้วบอกว่า ที่ผ่านมาเจ้าของทีมในพรีเมียร์ลีกใช้วิธีควักเงินเติมเข้าไป เมื่อหมดเงินก็มีปัญหา ต้องขายนักเตะดีๆ ออกไป สุดท้ายก็ตกชั้น

ถ้าจะทำให้ทีมให้รอดต้องกัดฟัน ยอมทุ่มเงินซื้อนักเตะในช่วงแรกเพื่อให้ทีมแข็งแกร่ง ประสบความสำเร็จระยะสั้น มีชื่อเสียงขึ้นมา

ส่วนระยะยาวต้องฝากความหวังไว้ที่อคาเดมี หรือศูนย์ฝึกนักเตะของสโมสร ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการซื้อนักเตะราคาแพง

แมนฯซิตี้เปิดอคาเดมีมา 12 ปี ใช้เงินไปแค่ 12 ล้านปอนด์ สร้างนักเตะขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ได้ถึง 25 คน

ที่ขายออกไปก็ได้ราคาดี อย่างฌอน ไรท์ฟิลลิปส์ ขายให้เชลซีได้เงินมา 21 ล้านปอนด์ โจอี้ บาร์ตัน ที่ไปอยู่กับนิวคาสเซิลก็ขายได้ 5 ล้านปอนด์

ส่วนดาวรุ่งตัวหลักของทีมในปัจจุบัน เช่น ไมคาห์ ริชาร์ดส์, สตีเฟน ไอร์แลนด์, ไมเคิล จอห์นสัน, แคสเปอร์ ชไมเคิล หรือ เคลวิน เอตูฮู นักเตะวัย 19 ปี ที่ยิงได้ในเกมชนะโบลตัน ล้วนเติบโตมาจากอคาเดมีทั้งสิ้น

แฟรงค์ ชินวัตรา ของกองเชียร์เรือใบ เผยความลับให้ฟังอีกว่า มีทีมยักษ์ใหญ่ยื่นข้อเสนอขอซื้อไมคาห์ ริชาร์ดส์ กองหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษถึง 25 ล้านปอนด์ แต่ตอบปฏิเสธไปแล้ว

สัญญาฉบับใหม่ของริชาร์ดส์ไม่มีปัญหา จะได้รับค่าเหนื่อย 50,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ลงเล่นแต่ละนัดยังได้เงินอีก 5,000 ปอนด์

เร็วๆนี้อาจจะมีนักเตะอิรักมาร่วมทีม 1 คน และมีบุคคลระดับสูงของประเทศหนึ่งในเอเชียอยากส่ง

นักเตะมาฝึกกับแมนฯซิตี้ นั่งเครื่องบินเจตส่วนตัวมาเลย

แสดงให้เห็นว่า เรือใบสีฟ้าไม่ธรรมดาในสายตาต่างชาติ และชาติที่จะส่งนักเตะมาฝึกก็มีความเอาจริงเอาจังด้วย

“การทำทีมบอลต้องทำจริงจัง มีแผนงานระยะยาว ไม่ใช่ทำตามกระแส พอกระแสหมดแล้วก็เลิกทำ” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

สาเหตุที่ตัดสินใจเทกโอเวอร์แมนฯซิตี้ก็เพราะ เป็นทีมยักษ์หลับ เคยยิ่งใหญ่มาก่อน

เป็นสโมสรที่มีฐานกองเชียร์เหนียวแน่น คนส่วนใหญ่ในเมืองแมนเชสเตอร์เป็นแฟนแมนฯซิตี้ ต่างจากแมนฯย ที่มีกองเชียร์ในเมืองน้อยกว่า แต่ได้ แฟนจากที่อื่นๆรวมทั้งต่างประเทศ

นอกจากนี้ เรือใบสีฟ้ายังมีสตาฟฟ์โค้ชที่ดี แมวมองตาแหลม คุยกับสเวน โกรัน อีริกสัน แล้วว่า ให้หานักเตะเพิ่ม

ถ้าจบซีซั่นติดอันดับสูงๆ การดึงผู้เล่นฝีเท้าดีมาร่วมทีมก็เป็นเรื่องง่าย เพราะโค้ชมีบารมี นักเตะ ก็อยากมาอยู่ด้วย

แผนงานในอนาคตคือการสร้างอคาเดมีทั่วโลก ในย่านอาเซียนจะใช้ไทยเป็นศูนย์กลาง และจะสร้างทีมบอลในประเทศต่างๆ โดยใช้ชื่อ แมนซิตี้ (ไม่ใช่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

เช่น แมนซิตี้ เจแปน, แมนซิตี้ไชน่า, แมนซิตี้ ยูเอสเอ เป็นต้น ทีมเหล่านี้จะเป็นพันธมิตรกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อังกฤษ

“เด็กไทยหรือเด็กจากแอฟริกา, ยุโรปตะวันออก ใครมีแววดีก็เอามาเข้าอคาเดมี อายุ 16 ปีก็เซ็นสัญญากันได้แล้ว ฟุตบอลไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์ เป็นเรื่องของการฝึกฝนด้วยวิธีที่ถูกต้อง ถ้าเรามีอคาเดมีในเมืองไทย จะให้มืออาชีพช่วยอบรมวิธีการฝึกสอนให้โค้ชไทยด้วย เพื่อนำไปสอนเด็กของเราต่อไป”

เนื้อที่หมดแล้ว ตะลุยบอลโลกวันต่อไป ยังมีเรื่องราว แนวคิดการพัฒนาฟุตบอลทั้งแมนฯซิตี้และวงการลูกหนังไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาฝากกันอีกครับ.

โต้ บ้านแหลม

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

Views: 252

Reply to This

Replies to This Discussion

"ขอเปิดใจในฐานะสาวกเรือใบ"
อ่านและวาดฝันไปกับความคิดและโครงการที่ท่านประธานสโมสรพูด
ทำให้อดภูมิใจไม่ได้ว่าคิดไม่ผิดที่มาเป็นสาวกของ "เรือใบสีฟ้า"
ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก็เป็นสาวกของทีมระดับ "บิ๊กโฟร์" มาถึง 30 กว่าปี
แต่ก็ยังไม่เคยได้ปันใจให้แบบสุดหัวใจเช่นนี้มาก่อน ไม่ใช่รักอย่างเดียวถึงกับหลงเลยทีเดียว
อาจเป็นเพราะผมรักเจ้าของที่ชื่อ "พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร" เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงรักทุกสิ่งที่ท่านทำ
ท้ายที่สุดทำให้ผมคิดว่าได้พบทีมในดวงใจแล้วคือ "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" และจะเป็นทีมที่อยู่ใน "ดวงใจ" ของผมไปตลอดกาล
เห็นด้วยครับ ผู้มีวิสัยทัศน์ ก็เป็นอย่างนี้ละครับ ขอชมเชยและเอาใจช่วยครับ
ชื่นใจ
สุดยอด ของวิชัน เลยคะ
อ้อ ลืมคะ พปช. ได้เยอะสุด
แตขอให้ทำใจคะ
แค่ตลาดในจีน ก็ คุ้มแล้วคะ
PPP.ดีใจ ไชโย
ทุกสิ่งที่อ่านมาทั้งหมดนี่แหล่ะคือ สิ่งที่ผลคนหนึ่งและอีกหลายๆคนที่ยอมเปลี่ยนจากเชียร์แมนยูฯ มาเชียร์แมนซิฯ เนื่อจาก ท่านทักษินของเรา
เป็นคนที่มีวิศัยทัศมอกการไกลกว่าคนอื่น ในด้านการบริหารจัดการ และเพิ่ม รายได้ ทำให้หลายคนชอบท่านและเชื่อว่าท่านทำได้แน่นอน เพราะเราเคยเห็นการทำงานระดับประเทศและระดับโลกซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก แล้วแค่ทีมแมนซิตี้ฯ ทำไมคนอย่างท่าน ทักษินจะทำไม่ได้
ใช่ไม่ล่ะ.............
คาร์ลิ่งคัพ พวกทีมชั้นนำ ถึงต้องเอาเด็ก ๆ ลง ถึงได้ถ้วยนี้มาก็ไม่ภูมิใจ เข้ารอบลึก ๆ ทำให้มีแมทการแข่งขันเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ
ถ้าทุกทีมเล่นกันเต็มที่ เอานักเตะตัวจริงลงทุกแมท ถ้วยนี้จึงจะมีความหมาย เพราะฉะนั้นแนะนำว่า ถ้วยนี้ถ้าไม่จำเป็น เอาเด็กใหม่ ๆ ลงไปเล่น ดีกว่า ถึงตกรอบก็ไม่เป็นไร
อยากให้ ปรับแผนการเล่นนอกบ้าน ในพรีเมียร์ลีก เพราะจากสถิติ เสมอเป็นส่วนใหญ่ ถึงแพ้ก็น้อย ยกเว้นแมทเชลซี อันนั้นสุดวิสัย
ถ้าปรับแผนจากเสมอเป็นชนะได้สัก 50 เปอร์เซ็น อันดับน่าจะอยู่ หนึ่งในสาม ยังไงอาเฮีย ช่วยประชุมหารือหน่อยนะคับ
ใจเย็นๆคับ อย่าเพิ่งหวังผลสำเร็จทุกๆอย่างภายในปีเดียวคับ ขอเพิ่งใจร้อน
ภายในปีแรก ถ้วยรางวัล อันดับบิ๊กโฟร์ หรือความสำเร็จต่างๆ คงจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งหมดภายในปีเดียว
ของการเริ่มต้น หากแต่ต้องมีการวางรากฐานที่มั่นคงเสียก่อน ตอนนี้พวกเรากำลังชื่นชมกับความสำเร็จ
ที่เกิดจากการใช้เม็ดเงินลงทุนเพียงอย่างเดียวครับ แต่อย่าลืมถึงเรื่องรากฐาน และการพัฒนานักเตะในสังกัดด้วย
อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งจะทำให้เราประสบความสำเร็จไปตลอด ให้มองดูถึงอาร์เซน่อล เป็นตัวอย่างครับ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.