แม้ว่า "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเร่งเสริมความแข็งแกร่ง ด้วยการซื้อตัวนักเตะฝีเท้าดีหลายราย มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ ส่งผลให้นักเตะเก่าที่มีอยู่หลายรายส่อแววจะไม่ได้ลงสนามในฤดูกาลใหม่ที่ใกล้จะเปิดขึ้นในอีกไม่ช้า แต่ในรายของ โจลีออน เลสค็อตต์ เซนเตอร์ฮาล์ฟชาวอังกฤษ ก็ออกมาประกาศชัดว่า ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย บอกจะสู้เต็มที่เพื่อยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมให้จงได้ โดยมีเป้าหมายพาทีมติดอันดับ 1 ใน 4 หลังจบฤดูกาลหน้า พร้อมคว้าโควตาไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ ในท้ายที่สุด

เลสค็อตต์ ซึ่งย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน มาเป็นนักเตะใหม่ในถิ่น ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์ (ราว 1,152 ล้านบาท) ได้กล่าวว่า "มันเป็นช่วงซัมเมอร์ที่ยาวนาน และมันก็เป็นเรื่องที่ทำใจลำบากมากสำหรับผม เนื่องจากผมมีความปรารถนาที่จะไปเล่นฟุตบอลโลก แต่เมื่อมีอาการบาดเจ็บ นั่นก็หมายความว่า คุณไม่สามารถที่จะไปได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะรับได้เลย"
 

"แต่ผมก็พยายามที่จะกลับมาให้ได้อีกครั้งในเวลานี้ ด้วยการฝึกซ้อมอย่างหนัก เมื่อฤดูกาลก่อนมันน่าผิดหวังจริงๆ ผมพยายามอย่างหนักแล้ว แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ทำได้ดีอย่างที่ควรจะต้องทำได้ เห็นได้ชัดกับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น แต่เวลานี้ผมมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์แล้ว และก็เชื่อว่าผมสามารถที่จะทำหน้าที่ตอบแทนสโมสรได้หากผมได้รับโอกาส"
 

"ผมเริ่มฝึกซ้อมมาตลอดมาตั้งแต่ช่วงปิดฤดูกาล และก็ทำมาตลอดซัมเมอร์เพื่อทำให้ร่างการแข็งแกร่งขึ้น ผมได้ดูเกมฟุตบอลโลกบางนัด ในขณะที่ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและเพื่อนฝูง แต่เป้าหมายหลักของผมก็คือการเล็งไปที่การกลับมาสมบูรณ์ให้จงได้ และมันก็เป็นเพราะอาการบาดเจ็บนี่เองที่เป็นประเด็นหลักทำให้ผมไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลก" ดาวเตะผิวสี กล่าว
 

พร้อมกันนั้น กองหลังชาวเมืองผู้ดีวัย 27 ปี ยังเชื่อว่า ตนเองมีดีพอจะแย่งตำแหน่งตัวจริงของทีมได้ แม้ในช่วงที่ผ่านมา ต้นสังกัดจะดึงนักเตะในแดนหลังฝีเท้าดีหลายรายมาเสริมทีม ไม่ว่าจะเป็น เยโรม บัวเต็ง หรือ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ก็ตามที โดยระบุว่า "ผมคิดว่ามันคงมีการเปลี่ยนแปลงหลายต่อหลายอย่าง แม้ในกรณีที่เราได้อันดับ 4 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ไม่มีใครในทีมที่จะมาหัวเสียกับเรื่องนี้ เนื่องจากเราต่างมุ่งมั่นที่จะชิงชัยคว้าตำแหน่งตัวจริงของสโมสรแห่งนี้ให้จงได้"
 

"ทุกคนต่างต้องการเล่นในสุดยอดทีม และได้ร่วมงานกับสุดยอดนักเตะ ซึ่งไม่ต่างกับ (แมนเชสเตอร์) ซิตี้ ในเวลานี้ พวกเขาต่างต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตการค้าแข้ง ดังนั้นเพื่อที่จะให้ได้สิ่งนั้นมา พวกเขาก็เลยจำเป็นต้องซื้อยอดนักเตะมาร่วมทีม ผมไม่คิดว่าจะมีนักเตะรายใดเข้าไปหาผู้จัดการทีมเพื่อให้รับประกันตำแหน่ง แต่หากคุณเชื่อว่าตัวเองทำผลงานได้ดีพอในการซ้อม รวมทั้งสามารถโชว์ฝีเท้าได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว กลับไม่ได้รับโอกาสให้ลงเล่น นั่นก็อาจจะทำให้คุณต้องเข้าไปพูดคุยกับเขา"
 

"จนถึงตอนนี้เราได้เล่นเกมอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลไป 2-3 นัด เรายังคงฝึกซ้อมกันอยู่ และนักเตะส่วนใหญ่ก็ยังไม่กลับมาที่ทีมเลย ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้จัดการทีม เนื่องจากเขาไม่สามารถกำหนดรูปร่างหน้าตาของทีมให้ออกมาอย่างที่เขาต้องการได้" 
 

"เป้าหมายเมื่อฤดูกาลก่อนก็คือ การเข้าไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และเราก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง ในฤดูกาลนี้เป้าหมายของเราก็เหมือนเดิม นั่นก็คือการได้ไปเล่นในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่หากเราสามารถจบฤดูกาลด้วยการเป็นอันดับที่สูงกว่าที่ 4 มันก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีมากเลยทีเดียว" อดีตนักเตะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" กล่าว
 

นอกจากนั้น เจ้าตัวยังเชื่อมั่นว่า การมีความเหนียวแน่นในเกมรับมากกว่าเดิม หลังเติมเต็มด้วยการเสริมนักเตะหลายราย ไม่ว่าจะเป็น เยโรม บัวเต็ง แบ็กซ้ายทีมชาติเยอรมัน และ ยาย่า ตูเร่ มิดฟิลด์เกมรับไอวอรี่ โคสต์ คือกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จ โดยชี้ว่า "มันไม่ใช่สิ่งที่ไม่มีทางเป็นจริง แน่นอนว่า เราคิดว่า เราสามารถคว้าแชมป์ลีกได้ แต่มันจะเป็นเรื่องยาก เราไม่ได้มีนักเตะแตกต่างไปจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และ เชลซี มีอยู่ และเราก็คิดว่า พวกเราสามารถประสบความสำเร็จในบางสิ่งได้"
 

"บางทีเราจำเป็นต้องมีความสม่ำเสมอตลอดซีซั่นมากกว่านี้อีกหน่อย ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า เราจำเป็นต้องแพ้ให้ยากกว่าเดิม เรามีทางเลือกในแนวรุกมากมาย แต่เราจำเป็นต้องแพ้ให้ยากกว่าเดิมด้วย เมื่อคุณเล่นด้วยกันนานยิ่งขึ้น มันก็ย่อมมีความเข้าใจกันมากขึ้น เมื่อคุณเล่นเกมบุก มันก็เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้ามากกว่า แต่เมื่อคุณเล่นเกมรับ คุณจำเป็นต้องทำความคุ้นเคยกันและกัน และดูว่า ใครมีจุดแข็งจุดอ่อนตรงไหนบ้าง" ปราการหลังสารพัดประโยชน์ ร่ายยาว

.

.

ขอบคุณข่าวจาก - http://www.siamsport.co.th