แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังคงอยู่ในฟอร์มที่ขัดใจแฟนบอลไม่สร่าง เล่นในบ้านตัวเองแต่กลับเล่นบอลติ๊ดชึ่งไม่สามารถเจาะแนวรับของเบอร์มิงแฮมเพื่อเข้าไปทำประตูได้ ทำให้จบเกมเสมอกันไป 0-0 แบบจืดชืด
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2553
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0 : 0 เบอร์มิงแฮม
ประตู :
ครึ่งแรก
เกมยังทรงๆ
เกมช่วง 10 นาทีแรกถือว่าไม่ได้มีจังหวะอะไรให้ลุ้น แม้ทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้จะครองบอลได้ซะมาก แต่เหมือนเครื่องยังไม่ร้อน เจาะแนวรับของเบอร์มิงแฮมเข้าไปลุ้นประตูยังไม่ได้
ลูกโลกเริ่มทำได้ดีขึ้น
เกมนัดนี้ยังกั๊กๆเพราะผ่านเข้าสู่นาทีที่ 20 แล้วแต่ไม่ได้มีเหตุการณ์ให้ลุ้นอะไรมากมาย นอกจากจังหวะการทำเกมของเบอร์มิงแฮมที่ทำได้ดีขึ้นกว่าในช่วงแรก และก็มีจังหวะบุกขึ้นไปถึงกรอบเขตโทษของแมนฯซิตี้บ้าง แต่จังหวะยิงยังไม่มี
ส่วนทางด้านแมนฯซิตี้ดูจะอืดๆไปหน่อย แม้จะครองบอลได้ แต่พอเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายก็ดูเหมือนตัน คิดไม่ออกว่าจะเจาะแนวรับของทีมเยือนยังไง
ยังเหมือนเดิม
แม้จะผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของเกมแล้วก็ตาม แต่สถานการณ์ของทั้งสองทีมก็ยังทรงเดิม คือแมนฯซิตี้ครองบอลไ้ด้มากกว่าแต่ยังหาจังหวะเจาะไม่ได้ และเบอร์มิงแฮมก็ได้สวนเปาะแปะบ้าง
เตฟทำประตูได้แต่ผู้ตัดสินไม่ให้
นาทีที่ 40 เกมที่ไม่มีอะไรก็ได้ตื่นเต้นกันขึ้นมาบ้าง จากจังหวะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ทำเกมบุกหยอดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะโหม่งชงกลับคืนมาให้กับคาร์ลอส เตเบซตรงกลางประตูและเหมือนจะใช้ต้นขาพักบอลก่อนจิ้มสวนเบน ฟอสเตอร์ที่พุ่งออกมาเข้าประตูไป
แต่ผู้ตัดสินไม่ให้จังหวะนี้เป็นประตู ซึ่งยังไม่เคลียร์ว่าเป็นเพราะล้ำหน้า หรือว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลกันแน่
AJ ยิงหลุดเสา
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก คาร์ลอส เตเบซโยนบอลยาวสาดขึ้นไปข้างหน้าประตูของเบอร์มิงแฮม แล้วลาร์สสันดันไปหวดวืด บอลหลุดไปถึงอดัม จอห์นสันที่ได้ยิงด้วยขวาหนีบล็อกของกองหลัง แต่ก็หลุดเสาไกลออกไป
จังหวะนี้เบน ฟอสเตอร์ถึงกับควันออกหูตะโกนด่าเพื่อนไม่หยุดปาก ปล่อยให้โดนส่องได้อย่างไร
ผู้ตัดสินพ่นนกหวีดจบ 45 นาทีแรกพร้อมกับเสียงโห่ของแฟนบอลในสนาม เพราะเกมนี้มันสนุกมาก เสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง
มิลเนอร์ได้โอกาสอย่างไว
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียงอึดใจเดียว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็เกือบจะทำประตูขึ้นนำได้อย่างว่องไว จากจังหวะที่เจมส์ มิลเนอร์หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แม้ทางเบน ฟอสเตอร์จะออกมาสกัดได้ แต่ไม่พ้น ทำให้มิลเนอร์มีโอกาสตวัดยิงเหน่งๆ แต่ไปติดสตีเฟ่น คาร์ที่ไปยืนคุมเส้น ช่วยเซฟชีวิตทีมเยือนได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด
เรือทำได้ดีขึ้น
ผ่านเข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมงเต็ม เกมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ถือว่ากระเตื้องขึ้นมากกว่าในช่วงครึ่งแรก ต่อบอล ผ่านบอลกันได้อย่างไหลลื่น และมีโอกาสลุ้นมากขึ้น แต่ไอ้เหน่งๆน่ะยัง
AJ ยิงติดเพื่อนซะงั้น
นาทีที่ 62 เจมส์ มิลเนอร์เหมือนจะอยู่ผิดที่ผิดทางไปหน่อย เพราะดันไปขวางลูกยิงของอดัม จอห์นสันที่อุตส่าล็อกบอลตัดเข้ากลางแล้วอัดด้วยขวาเน้น ๆ ทำให้บอลหลุดออกหลังไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
เตฟหลุดไปยิงออก
นาทีที่ 67 คาร์ลอส เตเบซพลาดโอกาสทำประตูขึ้นนำให้กับทีม หลังมีโอกาสหลุดเข้าไปซัดเหน่งๆคนเดียวหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งหลุดเสาไกลออกไป
ลูกโลกได้ลุ้นบ้าง
อีก 3 นาทีต่อมา ทางเบอร์มิงแฮมก็ได้โอกาสลุ้นประตูบ้างจากลูกยิงของคีธ ฟาเฮย์ที่ได้กดเน้นๆ บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ไม่ผ่านมือของโจ ฮาร์ทที่เหนียวหนึบเสมอ
เรือเร่งจัด
เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายแล้ว ยิ่งเวลาเหลือน้อยเท่าไรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็ยิ่งพยายามเร่งเกมเพื่อที่จะทำประตูให้ได้ เพราะผลเสมอคงไม่ดีอย่างแน่นอน แต่ก็ยังหาโอกาสเจาะเข้าไปยิงเหน่งๆไม่ได้สักที
เตฟออก-แบร์รี่ลง?????????
นาทีที่ 83 แฟนบอลทั่วทั้งสนามส่งเสียงโห่พร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เพราะโรแบร์โต้ มันชินี่ไม่รู้ว่าคิดอะไรเปลี่ยนคาร์ลอส เตเบซที่ดูจะหวังพึ่งได้มากที่สุดออก แล้วส่งแกเร็ธ แบร์รี่ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ตัวรับลงสนามไปซะอย่างงั้น!
เด ยองยิงแหล่ม-เบนเซฟหนึบ
อีก 2 นาทีต่อมา แมนฯซิตี้เกือบได้เฮจากลูกยิงไกลของไนเจล เด ยองซึ่งบอลพุ่งกำลังจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้ว แต่เบน ฟอสเตอร์ก็เหินไปคว้าหมับอยู่มือไม่มีกระฉอกได้อย่างสวยงาม
จบ 90 นาทีแมนเชสเตอร์ ซิตี้เล่นได้น่าผิดหวังเสมอกับเบอร์มิงแฮมไป 0-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท,แวนซองต์ กอมปานี,โคโล่ ตูเร่,อเล็คซานดาร์ โคลารอฟ,เฌอโรม บัวเต็ง,ไนเจล เด ยอง,เจมส์ มิลเนอร์,ยาย่า ตูเร่,ดาวิด ซิลบา,คาร์ลอส เตเบซ,อดัม จอห์นสัน
เบอร์มิงแฮม : เบน ฟอสเตอร์,สก็อตต์ แดนน์,โรเจอร์ จอห์นสัน,เลียม ริดจ์เวลล์,สตีเฟ่น คาร์,เคร็ก การ์ดเนอร์,แบร์รี่ เฟอร์กูสัน,คีธ ฟาเฮย์,เซบาสเตียน ลาร์สสัน,นิโกล่า ซิกิซ,คาเมร่อน เจอโรม
Tags:
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by