แมนเชสเตอร์ซิตี้ต่ออายุการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ออกไปอีกครั้งหลังเปิดบ้านเฉือนเอาชนะโบลตันหวุดหวิดในเกมที่โคลารอฟแบ็กซ้ายต้องถูกไล่ออกแต่มาได้ฝีเกือกของคาร์ลอส เตเวซหัวหอกกัปตันทีมที่ยิงนำเร็วเลยพาทีมชนะ 1-0

บาร์เคลย์ส พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม 2553

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 : 0 โบลตัน วันเดอเรอร์ส

ประตู : คาร์ลอส เตเวซ น.4

เกมที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ เจ้าบ้านอยู่ในชุดฟูลทีมหลังจากได้ซาบาเลต้ากลับมาจากโทษแบนขณะที่ยาย่า ตูเร่ก็หายจากอาการปวดศีรษะกลับมาลงสนามได้แนวรุกเป็นโอกาสของมาริโอ บาโลเตลลี่ที่ฟอร์มกำลังฮ็อตยิง 5 ประตูจากการเล่นตัวจริง 4 เกมลงมาช่วยดาบิด ซิลบาและคาร์ลอส เตเวซไล่ล่าประตู

ฝั่งโบลตันของกุนซือโอเว่น คอยล์ก็ทำผลงานได้ดีหลังไม่แพ้ใครมา 5 เกมติดและผู้เล่นก็ยังเป็นชุดเก่งมีโยฮัน เอลมานเดอร์ที่เพิ่งรับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำเดือนลงมายืนจับคู่กับเควิน เดวิสแผงหลังก็มีแกรี่ เคฮิลล์คุมอยู่แต่ไฮไลท์จริงๆน่าจะอยู่ที่มาร์ติน เปตรอฟซึ่งได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าอีกครั้ง

ครึ่งแรก

เปิดฉากโบลตันแค่ขู่แต่เรือเอาจริงขึ้นนำ 1-0
เปิดฉากมาสิบกว่าวินาทีทีมเยือนก็ได้ทักทายก่อนเมื่ออี ชุง-ยองดาวเตะเกาหลีใต้ได้โอกาสลากตัดเข้าในแล้วสับไกยิงจากนอกกรอบเขตโทษข้ามคานออกไปก่อนที่อีกสามนาทีถัดมาคาร์ลอส เตเวซได้บอลจากการจ่ายทะลุช่องของยาย่า ตูเร่ก่อนจะหลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้ายาสเคไลเน่นแล้วยิงผ่านมือเบียดเสาเข้าไปให้"เรือใบสีฟ้า"ออกนำโบลตัน 1-0

เรือใบได้เสียว-ซิลบาฟ้องเอาจุดโทษ
หลังจากที่ได้ประตูขึ้นนำเรือใบก็ไล่บี้จะเอาประตูที่สองอย่างต่อเนื่องจนมาถึงนาที 14 จากการต่อบอลหลายจังหวะหน้ากรอบเขตโทษแล้วลูกไปอยู่ที่เท้าของแบร์รี่ทางฝั่งซ้ายก่อนจะจ่ายเข้ามาให้ซิลบายิงด้วยซ้ายข้างถนัดไปติดบล็อกกองหลังลูกนี้เล่นเอาปีกทีมชาติสเปนถึงกับร้องขอจุดโทษกันเลยทีเดียวแต่กรรมการก็ไม่ให้และจากภาพช้าก็โชว์ให้เห็นว่าลูกบอลพุ่งเข้าไปชนที่หน้าอก

เปตรอฟขอยิง
นาที 17 โบลตันมาได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษและก็เป็นเปตรอฟอดีตเด็กเก่าเรือใบที่ได้ยิงไปแฉลบบาโลเตลลี่ลูกพุ่งเฉียดเสาไปแบบได้ลุ้น

ครึ่งทางโบลตันดีขึ้น
เกมผ่านมาถึงครึ่งทางของครึ่งแรก รูปเกมฝั่ง"เดอะ ทร็อตเตอร์"เริ่มดีขึ้นแม้เปอร์เซนต์การครองบอลจะมีอยู่แค่ 42% ก็ตามทีเพราะมีโอกาสโต้กลับสวยๆหลายครั้งแต่ก็ถูกแมนฯซิตี้ต้านทานเอาไว้ได้

เรือใบเกือบนำห่างแต่ล้ำหน้าก่อน
นาที 30 เรือใบน่าได้ประตูที่ 2 เหลือเกินแต่กรรมการไม่ให้เป็นประตูเมื่อเตเวซได้บอลที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนจะจ่ายคิลเลอร์พาสไปให้ซิลบาหลุดเข้าไปยิงประตูทางฝั่งซ้ายทว่าจังหวะนี้ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าเพราะมีแบร์รี่ยืนล้ำอยู่แม้จะไม่โดนบอลแต่ดันไปแสดงอาการที่จะวิ่งไปเล่นเลยทำให้เรือใบต้องอดนำห่างไปอย่างน่าเสียดายซึ่งหลังจากนั้น 2 นาทีแมนฯซิตี้ต้องเปลี่ยนตัวเป็นครั้งแรกเมื่อโคโล่ ตูเร่มีอาการบาดเจ็บต้องส่งโจลีออน เลสค็อตต์ลงมาบู๊แทน

ฮาร์ทโชว์เหวอ
อีก 5 นาทีถัดมาอนาคตผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติอังกฤษระยะยาวอย่างโจ ฮาร์ทก็เกือบพลาดท่าจากลูกสาดยาวของยาสเคไลเน่นที่เจ้าตัวพุ่งออกไปจะตัดบอลที่บริเวณเืกือบนอกกรอบเขตโทษแต่ดันออกไปคว้าพลาดเพราะถูกกองหน้าโบลตันพุ่งเข้ามากดดันยังดีที่ลูกไปกระทบหน้าอกของเขาออกหลังไป

ซาบานายทำบ้าอะไร?
ซาบาเลต้าได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้ายแต่มัวเงอะงะคิดไม่ตกว่ากูจะเอายังไงดีกับชีวิตว่าต้องจ่ายหรือยิงสุดท้ายก็โดนกองหลังเข้ามาสกัดได้ก่อนแต่บอลยังไม่ขาดเพราะไปเข้าเท้าเตเวซเลยได้ลองยิงไกลเต็มตีนเตี่ยจากนอกกรอบแต่ลูกบอลดันพุ่งเฉียดเสาประตูออกไปอย่างหน้าเสียดาย

ก่อนจบครึ่งเกมเริ่มตื้อ
รูปเกมก่อนจบครึ่งแรกทั้งสองฝ่ายก็ยังทำเกมสู้กันสนุกแต่ยังไม่มีจังหวะเข้าทำที่จะแจ้งมากนักสุดท้ายเกมก็จบลงที 1-0 จากผลงานการยิงของกัปตันเรือเตเวซ

ครึ่งหลัง

เดวิสวอลเล่ย์เต็มTeen
เริ่มครึ่งหลังมาสองนาทีซามูเอล ริกเก็ตต์แบ็กขวาของทีมเยือนได้แตะบอลอ้อมตัวโคลารอฟทางริมเส้นด้านขวาก่อนกระชากหนีแล้วครอสเข้าไปในกรอบเขตโทษและก็เป็นเควิน เดวิสที่เข้ามาวอลเลย์ด้วยอีขวาข้างถนัดเหินข้างคานไปแบบซี๊ดอูย!!! เหมือนเป็นการส่งคำเตือนให้ทางเจ้าบ้านว่าโบลตันยังเอานะ

ซาบาควบมายิง
จังหวะที่ซิลบาจ่ายบอลจากริมเขตโทษด้านซ้ายเข้าไปตรงกลางให้ยาย่า ตูเร่ก่อนที่ดาวเตะร่างโย่งจะดึงจังหวะไหลต่อไปทางฝั่งชวาที่ซาบาเลต้าวิ่งควบขึ้นมาอัดเต็มข้อด้วยเท้าขวาแต่ลูกไปติดเซฟของยาสเคไลเน่น

บาโลเตลลี่เืกือบหล่อหลังยิงชนเสา
นาที 57 เป็นซิลบาอีกแล้วที่จ่ายบอลทะลุช่องให้เตเวซโฉบเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่โดนกองหลังทีมเยือนเข้ามาเบียดก่อนที่ลูกจะไปเข้าเท้าของบาโลเตลลี่แล้วเด็กมีปัญหาจากอิตาลีก็ได้สับไปไปชนโคนเสาเด้งออกหลังไปแบบไม่น่าเชื่อ

ซิลบาอัดชนคาน
อีก 3 นาทีถัดมาซิลบาก็ได้เกี่ยวบอลพลิกหนีกองหลังโบลตันเข้ามาในกรอบเขตโทษนิดนึงแล้วกดด้วยเท้าซ้ายส่งบอลพุ่งไปชนคานอีกเรียกได้ว่าครึ่งหลังเกมของเรือใบมาอยู่ที่ดาวเตะสเปนคนนี้เยอะจริงๆ

โจ ฮาร์ทเกือบใจแป้ว
นาที 71 ชักยังไงแล้วสิสำหรับผู้รักษาประตูโจ ฮาร์ทที่วันนี้มีช็อตพลาดเล้กๆน้อยๆให้แฟนๆได้เสียวตลอดจังหวะนี้ก็ออกมากระโดดรับบอลแถวจุดโทษแล้วชนเลสค็อตต์จนทำให้หลุดมือลุกไหลไปที่ปากประตูจะข้ามเส้นแล้วแต่ยังมีก็องปานีมาช่วยเคลียร์ได้ทันงานนี้รักษาทั้งประตูและหน้าตาของฮาร์ทไปด้วย

โคลารอฟหลุดไปยิง
นาที 76 เป็นจังหวะที่ก็องปานีเติมเกมขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษแล้วไปโชว์สเต็ปตอกลูกส้นให้โคลารอฟแบ็กซ้ายชาวเซิร์บหลุดเข้าไปล่อยาสเคไลเน่นทางฝั่งซ้าย

เรือใบเหลือ 10 คน
ถัดจากนั้นชั่วอึดใจไม่รู้ว่าโคลารอฟหงุดหงิดที่ยิงไม่เข้าหรือเปล่าเลยไประบายอารมณ์ด้วยการพุ่งเข้าไปยันสองเท้าใส่ผู้เล่นโบลตันทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกต้องควักใบเหลืองที่สองออกมานำแล้วตามด้วยใบแดงส่งอดีตกองหลังลาซโอไปอาบน้ำก่อนใครเพื่อน

มันชินี่งานเข้าเตเวซทำหน้าบ้าใส่
เกมผ่านมาถึงนาที 90 มันชินี่ต้องปรับแท็กติกเพื่อปิดเกมด้วยการถิดเตเวซออกแล้วให้เจมส์ มิลเนอร์ลงไปไล่บอลแดนกลางแทนแต่จังหวะที่ออกมาดูเหมือนว่าเตเวซจะไม่ค่อยสบอารมณ์เลยไปมีปากเสียงกับมันชินี่คิดว่าแบบนี้จบเกมคงต้องเคลี่ยนร์กันอีกรอบสำหรับคู่นี้

จบเกม"เรือใบสีฟ้า"รอดตัวชนะหวุดหวิด
หลังจากโดนโบลตันบุกเข้ากดดันอย่างหนักสุดท้ายแมนฯซิตี้ก็สามารถรักษารูปเกมและสกอร์ไว้ได้สุดท้ายก็คว้า 3 คะแนนในบ้านตัวเองได้สำเร็จจากฝีเท้าของคาร์ลอส เตเวซ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 5.5, ปาโบล ซาบาเลต้า 6.5, โคโล่ ตูเร่ 6 (โจลีออน เลสค็อตต์ น. 32, 6.5), แว็งซ็องต์ ก็องปานี7 , อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ 5.5 , ไนเจล เด ยองก์ 6.5, ยาย่า ตูเร่ 7.5, แกเร็ธ แบร์รี่ 6, ดาบิด ซิลบา 8** (ไมก้า ริชาร์ดส์ น.84, N/A), คาร์ลอส เตเวซ 7 (เจมส์ มิลเนอร์ น.90, N/A), มาริโอ บาโลเตลลี่ 7

โบลตัน วันเดอเรอร์ส : ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น 6.5, ซามูเอล ริคเก็ตต์ส 6, แกรี่ เคฮิลล์ 5.5, แซ็ต ไนท์ 6, พอล โรบินสัน 6, อี ชุง-ยอง 6(โรดริโก้ น.82, 6), ฟาบริซ มูอัมบา 6.5, มาร์ค เดวิส 5.5, มาร์ติน เปตรอฟ 6(แม็ทธิว เทย์เลอร์ น.63, 5.5), เควิน เดวิส 6 , โยฮัน เอลมานเดอร์ 5.5(อีวาน คลาสนิช น.77, 6)

















 
www.soccersuck.com