แข้งไทยกระอักหักด่านซามูไร 6 ก.พ.นี้ เจอปัญหาป่วนทีมหลังฟีฟ่ายื่นหนังสือแบน สุรีย์ และดัสกร สะสมใบเหลืองครบ 2 ใบ "บิ๊กโต้ง" ผจก.ทีมส่งหนังสือยื่นประท้วงต่อเอเอฟซี ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ขณะที่ "โค้ชหรั่ง" ถามผ่านสื่อญี่ปุ่นว่ายุติธรรมหรือไม่ที่ไทยโดนแบบนี้ พร้อมประกาศจะสร้างเซอร์ไพรซ์เก็บแต้มให้ได้ ด้าน โอกาดะ กุนซือญี่ปุ่น มั่นใจเอาชนะได้แน่แม้ยอมรับไม่ใช่งานง่าย


ความเคลื่อนไหวฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 หรือรอบ 20 ทีมสุดท้าย กลุ่ม 2 ในช่วงเย็นวันที่ 6 ก.พ. นี้ ระหว่างเจ้าถิ่น "ซามูไร" ญี่ปุ่น ที่จะเปิดสนามไซตามะ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของทีมชาติไทย เวลา 17.20 น. ตามเวลาเมืองไทย โดยช่อง 7 สีจะทำการถ่ายทอดสดให้แฟนบอลได้ชมกันทั่วประเทศ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 51 ที่ผ่านมา ช่วงเช้านักเตะไทยได้ออกไปเดินยืดเส้นยืดสายบริเวณสวนสาธารณะที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม ในช่วงเวลา 8 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น ใช้เวลาเดิน 1 ชั่วโมงก่อนเข้ามารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมริก้า รอยัล โฮเต็ล ซึ่งเป็นที่พัก ก่อนจะขึ้นไปพักผ่อนและลงมารับประทานอาหารเที่ยง จากนั้นจึงพักยาว

ในช่วงเย็นได้ลงมานั่งดูเทปของ ญี่ปุ่น กับ บอสเนีย ที่เป็นเกมอุ่นเครื่องล่าสุด และเดินทางไปยังสนามไซตามะ ที่ใช้เป็นสังเวียนฟาดแข้งเพื่อซ้อมทดสอบกับสนามจริง ในเวลาแข่งจริงคือ 19.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมชาติญี่ปุ่นได้ลงทำการฝึกซ้อมก่อนในเวลา 18.00 น. โดยแต่ละทีมใช้เวลาซ้อม 1 ชั่วโมง เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนถ่ายรูปทำข่าวได้แค่ 15 นาที ก่อนจะปิดสนามซ้อมทั้งสองทีม ซึ่งสภาพอากาศในช่วงที่ทีมไทยซ้อมค่อนข้างจะหนาวเย็นและมีลมพัดเป็นระยะ

อย่างไรก็ดี ข่าวที่ไม่สู้ดีนักของทีมไทยเกิดขึ้นในช่วงการประชุมผจก.ทีมช่วงเย็นวันเดียวกัน เมื่อ "บิ๊กโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผจก.ทีมชาติไทย และ นายเศรษฐา ทวีสิน ผช.ผจก.ทีมได้เดินทางไปร่วมประชุมผจก.ทีมและได้รับแจ้งข่าวร้าย เมื่อทาง ฟีฟ่า ได้ส่งหนังสือมาแจ้งกับทีมไทยในที่ประชุมผจก.ทีมว่า 2 แข้งไทย คือ สุรีย์ สุขะ และ ดัสกร ทองเหลา เจอใบเหลืองสะสม 2 ใบจากนัดเจอ เยเมน ในรอบที่สอง หมดสิทธิ์ลงเล่นเกมนัดนี้ทั้ง 2 คน

ซึ่งทาง "บิ๊กโต้ง" ต้องออกมาชี้แจงว่า ทำไมฟีฟ่าถึงเพิ่งจะแจ้งเรื่องนี้ให้ไทยในวันประชุมผจก.ทีม ไม่มีการส่งจดหมายแจ้งล่วงหน้าอย่างที่เคยปฏิบัติ และได้ยื่นหนังสือประท้วงต่อผู้แทนเอเอฟซี ในที่ประชุม ซึ่งทางตัวแทนเอเอฟซีได้รับหนังสือและขอข้อเท็จจริงจากทางฟีฟ่า ก่อนจะให้คำตอบกับทีมไทยว่า ฟีฟ่า ยืนยันว่า 2 ผู้เล่นไทยจะไม่ได้ลงเล่นในเกมนัดนี้อย่างที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้

ผจก.ทีมชาติไทย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไมฟีฟ่า จึงไม่ส่งหนังสือแจ้งเตือนเรื่องนี้กับไทยก่อนถือเป็นการกระทำที่ไม่ยุติธรรม ญี่ปุ่นพยายามที่จะเอาเปรียบไทยทุกวิถีทางสำหรับเกมนัดนี้ แต่เราก็จะสู้เต็มที่แน่นอน

ขณะที่ "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน เฮ้ดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวต่อการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนญี่ปุ่นในสนามไซตามะ หลังซ้อมเสร็จว่า "ยอมรับไทยเป็นรองญี่ปุ่นในทุกด้าน ทั้งอากาศ, ผู้เล่น และทีมเวิร์ค เพราะญี่ปุ่นเป็นทีมระดับแนวหน้าของเอเชีย ตอนนี้ไทยพร้อมจะพิสูจน์การเล่นกับทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งในเอเชีย และจะมีเซอร์ไพรส์ในวันพรุ่งนี้ หลายครั้งที่ตนทำทีมฟุตบอลก็เป็นรองมาตลอด เหมือนอย่างตอนนำทีม ธ.กสิกรไทย คว้าแชมป์สโมสรเอเชีย 2 ครั้ง เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้อาจจะมีเซอร์ไพรส์ก็ได้ ฟุตบอลเป็นเกมกีฬาที่มีชนะ เสมอ แพ้ เราจะทำให้ดีที่สุดและรับได้ในทุกผลการแข่งขัน"

ผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นได้ถามถึงการขาดหายของ ตะวัน ศรีปาน กับ นิเวส ศิริวงศ์ ที่เป็นกำลังหลักทำไมจึงไม่ได้ร่วมทีมมาด้วย เรื่องนี้ "โค้ชหรั่ง" กล่าวว่า "ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บเล่นไม่ได้ และพรุ่งนี้เราก็ต้องเสียกำลังหลักเพิ่มอีก 2 คน คือ สุรีย์ สุขะ ที่เพิ่งเซ็นสัญญากับ แมนฯ ซิตี้ และ ดัสกร ทองเหลา ที่ติดโทษแบน 2 ใบเหลือง เพราะเพิ่งจะได้รับแจ้งจากทางฟีฟ่า ในการประชุมผจก.ทีมในวันนี้เอง"

"ก่อนหน้านี้เราไม่เคยรับแจ้งมาก่อนทั้งจากฟีฟ่าและเอเอฟซี จู่ๆ ก็มาแจ้งเอาตอนนี้ โดยหลักการถ้าผมรู้ก็คงไม่เอามาอยู่แล้ว เรียนว่าไม่ทราบจริงๆ เราส่งรายชื่อผู้เล่นให้กับทางเอเอฟซี ล่วงหน้ามาเป็นเดือน แต่ก็ไม่แจ้งให้เราทราบเลย ผมว่ากฏกติกาไม่เคลียร์เลย เราเข้าใจว่ากฏฟีฟ่าไม่นับรวมใบเหลืองที่สะสมจากรอบคัดเลือกรอบแรก และรอบสองมา ซึ่งมาเป็นแบบนี้ถือว่าไม่ยุติธรรมเพราะญี่ปุ่นได้เปรียบที่เป็นทีมวางไม่ต้องลงเตะรอบคัดเลือก ส่วนไทยลงเตะถึง 2 รอบ แต่นับใบเหลืองสะสมก่อนหน้านี้มันยุติธรรมไหม ผมอยากฝากถามสื่อมวลชนอย่างพวกคุณว่า มันยุติธรรมไหม ถ้าจะลงโทษทำไมถึงไม่บอกตั้งแต่แรก นี่เป็นฟุตบอลหรือการเมืองกันแน่ ฝากถามสื่อมวลชนทุกคนด้วย" "โค้ชหรั่ง" กล่าวถามสื่อมวลชนญี่ปุ่นกว่าครึ่งร้อยที่มาทำข่าว ก่อนที่จะเลิกแถลงข่าว

หลังจากนั้น กุนซือทีมชาติไทย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวไทยว่า "เมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้ก็ต้องให้ดำเนินไป เราจะสู้เต็มที่ โดยแบ็คขวาจะเอา อภิเชษฐ์ พุฒตาล แทน สุรีย์ สุขะ และกองกลางจะเอา สุเชาว์ นุชนุ่ม ลงแทน ดัสกร ทองเหลา ส่วนเซนเตอร์ฯ คู่กลางก็จะเป็น ณัฐพร พันฤทธิ์ กับ ปฏิภาณ เพ็ชรพูล ขณะที่ประตูเป็น โกสินทร์ หทัยรัตนกุล ส่วนกองกลางเป็น สุธี สุขสมกิจ, ณรงค์ชัย วชิรบาล, นิรุจน์ สุระเสียง และ สุเชาว์ นุชนุ่ม กองหน้าคู่เป็น ธีรเทพ วิโนทัย และ ศรายุทธ ชัยคำดี โดยยืนระบบ 4-4-2 และต้องระวังลูกเซตเพลย์ของญี่ปุ่นที่เขาเน้นเป็นพิเศษ รวมถึงการเติมขึ้นมาของกองกลางที่เป็นหน้าตัวที่ 3 อย่าง นากามูระ หรือ เอนโดะ ซึ่งจะให้ นิรุจน์ เป็นตัวคอยหยุดกองกลางที่เติมเกมรุกขึ้นมา"

"ตอนนี้เราขาดตัวหลักไปเยอะมาก แต่ผมจะพยายามเอาแต้มกลับบ้านให้ได้ และจะพยายามทำให้ดีที่สุด แม้ทีมจะไม่สมบูรณ์นักก็ตามที แต่เราจะสู้เต็มที่แน่" "โค้ชหรั่ง" กล่าว

ด้าน ญี่ปุ่น โดย โค้ชทาเคชิ โอกาดะ กุนซือของทีมก็กล่าวต่อสื่อมวลชนหลังฝึกซ้อมว่า "ญี่ปุ่นหวังชนะในเกมนี้ เพราะเราซ้อมและเตรียมทีมมาดี ก็อยู่ที่ว่าลูกทีมจะทำได้ดีแค่ไหน ตอนนี้ตนรู้แล้วว่าจะเล่นกับไทยอย่างไร ส่วนเรื่องที่ไทยไปเก็บตัวที่ แมนฯ ซิตี้ และได้รับความช่วยเหลือเต็มที่นั้น ญี่ปุ่น ไม่ได้กลัวอะไรเพราะนี่เป็นเรื่องธรรมดาที่ไทยต้องวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งของญี่ปุ่นอยู่แล้ว แต่ตนยังมั่นใจว่าจะเอาชนะไทยได้แน่ แม้จะไม่ใช่งานง่ายก็ตามที"

สำหรับเกม ญี่ปุ่น กับ ไทย นัดนี้ ทีมญี่ปุ่นจะสวมเสื้อน้ำเงิน กางเกงขาว ซึ่งเป็นชุดเก่ง ขณะที่ไทยสวมเสื้อเหลือง กางเกงกรมท่า ลงแข่งขัน

สยามกีฬา