เกมเมื่อคืนเป็นอะไรที่เซ็งมากสำหรับแฟนบอลเรือใบครับ ครึ่งแรกเล่นดี ยิงนำได้ แต่ครึ่งหลังกลายเป็นหนังคนละม้วน สุดท้ายโดนบี้หนักๆเข้า ก็ลนจนเสียสองประตูแพ้เอฟเวอร์ตันไปในที่สุด ทำให้ฤดูกาลนี้แพ้เหย้าเยือนเลย
ผมจะขอวิเคราะห์เฉพาะฝั่งแมนฯซิตี้นะครับ เพราะไม่ค่อยมีข้อมูลของทีมอื่นมากนัก เกมนี้โรแบร์โต้ มันชินี่จัดแผนเดิม 4-5-1 ฮาร์ทยืนเฝ้าเสา กองหลัง 4 ตัวชุดเดิม (เพราะไม่มีสำรองให้เปลี่ยนแล้ว) กลางรับสองตัวเป็น เดอ ยอง กับ วิเอร่า ซิลบาเล่นซ้าย มิลเนอร์เล่นขวา และดันยาย่า ตูเร่สูงคอยซัพพอร์ทเซโก้ที่เป็นหน้าเป้าตัวเดียว
ครึ่งแรก ทีมเราพยายามเน้นต่อบอลจากเท้าสู่เท้าบนพื้น โดยยาย่า ตูเร่ ซิลบา มิลเนอร์นั้นให้วิ่งสลับตำแหน่งกัน บางครั้งจะเห็นซิลบาหรือมิลเนอร์หุบเข้ามาทำเกมตรงกลางบ้าง และยาย่า ตูเร่ไปยืนด้านข้างแทน แผนนี้ทำให้กองหลังกับกองกลางท๊อฟฟี่หลงเหมือนกัน ทำให้ทีมเรามีโอกาสเข้าทำอยู่เรื่อยๆ (ความจริงก็เห็นเล่นแบบนี้ตลอด บางนัดก็เวิร์ค บางนัดก็ไม่เวิร์ค)
อีกสาเหตุนึงที่เอฟเล่นไม่ดีในครึ่งแรกคือแผนที่เดวิด มอยส์วางไว้ตอนแรกครับ ครึ่งแรกเอฟเวอร์ตันพยายามเล่นบอลบนพื้น ซึ่งสุดท้ายก็โดนเดอ ยอง กับแผงหลังเราดักกินเรียบครับ ตรงนี้เป็นจุดแข็งของทีมเรามาตั้งแต่ต้นฤดูกาลแล้ว คือ มีกลางตัวรับ ขยันวิ่งไล่บอล แย่งบอลไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่กดดันกองกลางฝั่งตรงข้ามให้พยายามจ่ายขึ้นหน้าก็พอแล้ว แผงหลังเราจะดันสูงขึ้น เพื่อตัดบอลก่อนที่จะถึงเท้ากองหน้าฝั่งตรงข้ามตลอด ครึ่งแรกอนิเชเบ้เล่นไม่ออกเลยครับ เรียกว่าโดนรุมกินโต๊ะได้เลย
พอเริ่มครึ่งหลัง มอยส์เปลี่ยนแผนทันทีเลยครับ ให้ลูกทีมเน้นบอลยาว ข้ามหัวแผงมิดฟิลด์ตัวรับแมนฯซิตี้ ซึ่งก็ได้ผลครับ ช่วงแรกของครึ่งหลัง ทั้งเดอ ยองและวิเอร่าหายไปจากเกมเลย เมื่อโดนโยนข้ามหัวเรื่อยๆ กองกลางตัวรับก็จะถอยลงไปเองเป็นธรรมชาติครับ(เงยหน้ามองบอลข้ามหัว ก็ต้องถอยลงไปเรื่อยๆเป็นธรรมดา) ดังนั้นพอโดนบอมบ์เข้าไป เคลียร์ออกมา นักเตะเอฟเวอร์ตันก็ยืนรอเก็บแถวสองได้เลย กลางรับเรือใบกว่าจะวิ่งกลับมาไล่บอลก็ช้าไปจังหวะนึงแล้ว
อีกจุดนึงที่เป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้คือ การที่มอยส์เปลี่ยนมาเป็น 4-4-2 ใช้กองหน้าคู่ครับ ส่งเจอร์เมน เบ็คฟอร์ดลงมาแทนโทนี่ ฮิบเบิร์ต เบ็คฟอร์ดเป็นกองหน้าที่คล่องตัวกว่าอนิเชเบ้ เล่นบอลบนพื้นได้ดีกว่า กองหลังกับกองกลางท๊อฟฟี่ก็เล่นง่ายละครับ เพิ่มเป้าจ่ายบอล แถมเพิ่มออพชั่นอีก บอลโยนก็ได้ บอลเรียดก็ได้ แผงหลังทีมเราปวดหัวแน่นอนครับ สองประตูที่เสียไปก็ตามฟอร์มเดิม คือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมเราเป็นเซ็นเตอร์แบบยุโรป คือ บอลบนพื้นดี แต่ลูกกลางอากาศไม่ถึงที่สุด โดนบอมบ์เยอะๆก็มีโอกาสพลาดสูง สุดท้ายก็เซ็งกันไปตามระเบียบ ที่น่าตำหนิคือ ทีมเราเล่นกันยังไง ให้แผงกลาง 4 ตัวมันครองเกมได้มากกว่า กลาง 5 ตัวเนี่ย ในมุมมองผม ผมว่าเป็นเพราะการที่เดอ ยองลงไปลึกเกินไป ทำให้ไม่มีใครวิ่งกดดันแผงกลางเอฟเวอร์ตันเลยครับ และวิเอร่า เค้าไม่มีกำลังวิ่งไล่บอลเหมือนสมัยก่อนแล้วครับ นับเป็นข้อผิดพลาดของมันชินี่ที่ส่งเค้าลงเลยนะครับ
พอโดนนำ มันชินี่ก็ใจเย็นเหลือเกิน กว่าจะเปลี่ยนตัวแก้เกม ก็เหลือแค่ 10 นาทีสุดท้าย ผมก็ไม่เข้าใจว่าเค้าคิดอะไรอยู่นะครับ แต่สำหรับแฟนบอล มันอึดอัดโว้ยย
เกมนี้ที่น่าเสียดายอีกนิดคือจังหวะสวนกลับที่เอดิน เซโก้หลุดไปตรงกลาง แล้วมีซิลบากับยาย่าเติม ซึ่งซิลบาตำแหน่งได้ลุ้นกว่า สุดท้ายเซโก้กลับเลือกล็อกแล้วยิงเอง ผมเสียดายชอตนี้มากๆครับ ถ้าจ่ายไป โอกาสที่ซิลบาจะยิงได้นั้นสูงกว่าที่เค้ายิงเองแน่นอนครับ อีกลูกนึงที่เสียดายก็ที่วิเอร่าแปลูกจ่ายของซิลบาไม่เข้าเนี่ยแหละครับ เสียดายสุดๆ ถ้าคมกว่านี้ผมว่ามันชินี่ทำลายสถิติยังไม่เคยชนะเอฟเวอร์ตันได้แน่นอน
สิ่งที่ควรปรับปรุงจากนัดนี้
1. Attitute (ขออภัย นึกคำภาษาไทยไม่ออกครับ) ของนักเตะ โดยเฉพาะเซโก้ ให้เล่นเพื่อทีมมากขึ้น ไม่ใช่เล่นเพื่อประสบความสำเร็จส่วนตัว มันชินี่เองก็ยังออกมาคอมเมนต์หลังเกมเลยว่า ใครยิงไม่สำคัญ สำคัญที่ทีมชนะ
2. การจบสกอร์ วันนี้ทีมเราเองใช่ว่ารูปเกมสู้ไม่ได้ ตอนนำ 1-0 มีโอกาสตอกตะปูอยู่หลายครั้ง ทั้งจากเซโก้และยาย่าตูเร่ แต่ทำไม่ได้เอง
3. แผงหลังควรใจเย็นกว่านี้ บางจังหวะไม่ต้องเน้นเคลียร์มั่วซั่วก็ได้ เพราะมันทำให้บอลกลับไปอยู่กับอีกฝ่ายเร็วเกินไป
สรุป ผมว่านัดนี้มันชินี่ไม่ได้เน้นอะไรมาก ถึงโรเตชั่นตัวหลักอย่างจอห์นสัน แบรี่ และลูกรักอย่างบาโลเตลลี่ไว้ข้างสนาม เกมนอกบ้านเรายังไว้ใจไม่ได้เช่นเคย เอฟเวอร์ตันก็ยังคงเป็นของแสลงสำหรับทีมเรา เหลืออีก 3 นัดให้ลุ้นกันครับ
ปล. ขออภัยถ้ายาวไปนะครับ
Tags:
อิอิ ผ่านแล้วผ่านไปครับนัดหน้านัดต่อๆไปทำให้ดีที่สุดละกันครับ แมนซิตี้สู้ๆครับ
แท็กติกไม่ขี้เหร่ แต่ใจนักเตะยังไม่เต็ม 100 เอง
อ่า ใช่ ทำไมนึกไม่ออกเนี่ย แต่แก้ไม่ได้แล้วล่ะครับ TToTT
ขอบคุณมากครับ :)
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by