Members

ใครที่คิดว่าการซื้อสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ “เป็นแค่” เรื่องการเมือง อันนี้เห็นทีจะต้องปรับเปลี่ยนความคิดกันซะใหม่

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมเห็นข่าวความพยายามในการซื้อตัว โรนัลดินโญ่ มาจากบาร์เซโลน่า บอกตามตรงว่า แอบตกใจอยู่เล็กน้อยเหมือนกัน

คนอังกฤษเองก็คงจะสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าทำไมคนไทยใจใหญ่จัง ???

ที่ผ่านมานั้น แมนฯซิตี้ถือเป็นทีมขวัญใจของเมืองแมนเชสเตอร์ แต่จากความที่พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จใดๆ แบบเป็นชิ้นเป็นอันมานานหลายปี ทำให้สโมสรแห่งนี้ ไม่ค่อยมีงบประมาณในการซื้อตัวนักเตะเท่าไหร่

แต่หลังการเข้ามาของ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ทีมเรือใบสีฟ้าเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน

เริ่มจากการได้ตัวผู้จัดการทีมฝีมือดีอย่างสเวน โกรัน อีรีคส์สัน และนักเตะเกรด บี เข้ามาเสริมทีมอีก 6-7 คนในช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว

ปีนี้พวกเขาอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จใดๆ แบบเป็นชิ้นเป็นอัน (หลังจากที่แรงอยู่พักนึงในช่วงต้นฤดูกาล) แต่การชนะแมนฯ ยูไนเต็ดได้แบบเหย้า-เยือน และการไม่ต้องลงไปดิ้นหนีการตกชั้นเหมือนอย่างนิวคาสเซิ่ล ก็ถือว่าดีใจหายแล้วสำหรับแฟนๆ ของทีมเรือใบ

แต่เรื่องของเรื่อง คือ แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้จะหยุดอยู่เพียงเท่านี้น่ะสิครับ การกล้านั่งโต๊ะเปิดเจรจากับพี่ชายของโรนัลดินโญ่ แสดงให้เห็นว่า พวกเขากำลังคิดทำการณ์ใหญ่ และเริ่มมองเห็นโอกาสของการประสบความสำเร็จ

ผมเชื่อว่าถ้าไม่ได้โรนัลดินโญ่ พวกเขาก็น่าจะพร้อมซิวนักเตะบิ๊กเนมรายอื่นเข้ามา เพื่อเรียกเรตติ้งคนดู และเพิ่มโอกาสประสบสำเร็จของทีม

คิดตามดูแล้วนึกถึงตอนที่ โรมัน อบราโมวิช เข้ามาเทกโอเวอร์เชลซีใหม่ๆ

อภิมหาเศรษฐีชาวรัสเซียเปลี่ยนทีมดาดๆ ของกรุงลอนดอน ให้เป็นเจ้าของฟุตบอลอังกฤษ ได้ในเวลาชั่วพริบตา ด้วยกุนซือที่เก่ง และการซื้อตัวที่ถูกต้อง

และด้วยองค์ประกอบเดียวกัน คือ เงินมี กุนซือเก่ง และประธานสโมสรใจป้ำ น่าสนใจว่าแมนฯซิตี้จะประสบความสำเร็จแบบเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนกับเชลซีหรือไม่

Views: 166

Reply to This

Replies to This Discussion

เราเชื่อในความคิดของลูกผู้ชายที่ชื่อ"ทักษิณ"คนนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่แค่มีเงินแล้วจะใช้เงินได้ถูกทางกันทุกคน
แต่ความคิดของท่านไม่ได้แค่เก็บไว้อยู่แค่ในหัวสมองอย่างเดียว ทั้งได้กระทำให้เห็นทันทีในอันเวลารวดเร็ว
ไม่เคยดองไว้อยู่ในกรอบ จะสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดา อย่างน้อยก็ได้ลองทำทันที
การพยายามติดต่อซื้อตัวนักเตะระดับนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยสำหรับทีมเรือใบ...แต่ผมก็ดีใจ ที่ท่านได้ทำให้แฟนบอลอย่างผมเห็นในความพยายามของท่าน แค่นี้ก็เยี่ยมแล้ว...(สเวนควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะ..)
อ่านแล้วแปลกๆ เชลซีก่อนหน้าที่จะถูกเทกโอเวอร์อ่า เปนทีมที่เกือบลงตัวอยู่แล้วละ ทําให้การลงทุนตอนนั้นแค่เสริมนักเตะเกรดเอแทนนักเตะที่แก่ๆหรือดาดๆอย่างโซล่า กรุนชาร์ เปอรตี แต่แมนซิตอนก่อนถูกเทกกลายเปนทีมไรไม่รู้ เพราะเล่นปล่อยบารตันกับดิสแตง แล้วทําทีมได้ขนาดนี้ ให้เครดิตสเวนกันหน่อยดิครับ
หลักบริหารที่ชาญฉลาดอันหนึ่งคือ
เมื่อคุณอยากพัฒนาหลายๆ อย่าง ทุกอย่างต้องใช้เงินซื้อทั้งนั้น
อยากพัฒนาทีม ก็ต้องหาคนเก่งๆ แล้วต้องจ่ายมาก
แต่คนที่บริหารเป็น คนที่เก่ง ก็ต้องหาให้ได้มากด้วย
ดังนั้นคนที่คิดเช่นนี้ก็คือนักบริหารนั่นเอง
แล้วผลงานก็จะถูกพิสูจน์ให้เห็นจากแมนซิตี้นี้เอง
เสียดายที่เขาโดนนิสัยของคนไทยที่เห็นคนอื่นเด่นกว่าไม่ได้
เห็นเขาจ่ายเยอะ ทำโน้นทำนี่ ก็ตรวจสอบ ก็ฟ้องร้อง อิจฉากันเรื่อยไป
พวกเราก็ต้องรับกรรมเจอแต่พวกที่ล้าหลังอย่างเดียวต่อไป
ผมว่าท่านประธานกำลังผสมผสานตัวเก่า ตัวใหม่ และดาวรุ่งอยู่นะ ถึงซื้อมาเยอะแต่ดาวรุ่งก็มีโอกาสเล่นชุดใหญ่อยู่ไม่น้อย ตัวเก่าก็มี ไม่ใช่ซื้อมาลงใหม่หมด ซิตี้สู้ๆ
รีบซื้อเลยครับ.และรีบเซนต์สัญญาเลย.อย่าให้เป็นแบบเบนจานี่นะครับ.รอจนวินาทีสุท้ายไม่เอานะ

ตัวไหนเล่นไม่ได้ก็ขายออกไปบ้างเถอะเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ เช่น ซุนจีไห่/เอ็มเพ็งซ่า/วาสเซลล์ เป็นต้น

ตัวไหนที่สโมสรให้ยืมตัวไปก็ขายขาดไปเลยครับ.

โค้ชทำทีมไม่ดีก็เปลี่ยนไปเลยโค้ชดีๆมีอีกเยอะไม่ต้องเกรงใจหรอกท่านประธาน
ผมก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น ผมคนนึงที่รักเรือใบและอยากเห็นทีมเรือใบเป็นทีมบิ๊กๆเหมือนเชลชีและมีนักเตะดังๆเก่งๆ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.