"เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ เปิดรังซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ไล่ขย่ม "ปอร์มปีย์" พอร์ทสมัธ ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ไปอย่างสบายๆ 3-1 ดาริอุส วาสเซลล์,มาร์ติน เปตรอฟ และ เบนจามิน เอ็มวารูวารี แบ่งซัดคนละตุง ในศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา
แมนฯ ซิตี้ 3 - พอร์ทสมัธ 1
อีกคู่ที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สองทีมที่หวังได้สู้ศึกยูฟ่าคัพในซีซั่นหน้าโคจรมาห้ำหั่นกันโดยแมนฯ ซิตี้ไม่ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของทีมมากนักทั้งเนดุม โอนัวฮากับไมกาห์ ริชาร์ดส์ยังบาดเจ็บ ขณะที่กองหน้าดาวรุ่งแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์เช็คฟิตไม่ผ่าน แต่นายทวารโจ ฮาร์ทส์สมบูรณ์ลงเฝ้าเสาได้
ส่วนพอร์ทสมัธที่รอเล่นนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพมีลาสซาน่า ดิยาร์ร่ากับจอห์น ยูตาก้าผ่านการทดสอบความฟิตทั้งคู่ รวมถึงมิลาน บารอสที่นั่งเป็นตัวสำรองด้วย แต่เกล็น จอห์นสันเดี้ยงไม่หาย
เกมเริ่มต้นแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้มีเสียวอะไร แต่ถึงนาทีที่ 11 เรือใบสีฟ้าก็ทำให้กองเชียร์ได้เริงร่าในจังหวะที่โซล แคมป์เบลล์กัปตันปอมปีย์บังบอลหน้าเขตโทษแย่ปล่อยให้เดวิด เจมส์ออกมาเล่นแต่ถูกเบนจานี่ เอ็มวารูวารีอดีตกองหน้าเพื่อนร่วมสังกัดฉกไปได้พร้อมทั้งจ่ายให้สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ลากเข้าไปตะบันแป๊กหัวเกือก แต่กลายเป็นดี บอลทะลักไปเสาสองโดยมีดาริอุส วาสเซล์ตามไปพุ่งตัวสไลด์เข้าประตูพาเจ้าถิ่นออกนำ 1-0
จากนั้นอีกแค่สองนาทีสาวกเรือใบก็ได้กรี๊ดกร๊าดกันอีก คราวนี้เป็นลูกทุ่มมาจากด้านขวาแล้วจบอีกฟากฝั่งของกรอบเขตโทษที่มาร์ติน เปตรอฟรับช่วงไปยิงลูกฉีดยาแฉลบจังหวะเข้าขวางของบิ๊กโซลเปลี่ยนทิศกระดอนหนีเจมส์ตุงตาข่ายเป็นสอกร์นำ 2-0 ของแมนฯ ซิตี้
โดนเข้าแบบนี้ ปอมปีย์จึงเดินหน้าสุดชีวิตและเกือบได้ลูกตีไข่แตกในนาทีที่ 17 เมื่อเฮอร์มันน์ ไฮดาร์สสันเสริมเกมขึ้นกราบซ้ายแล้วตวัดจากเส้นหลังเข้าหาปากประตูให้ปาป้า บูบา ดิย็อปโดดโขกระยะสี่หลา แต่กดไม่ลงลูกพุ่งโด่งออกไป
อย่างไรก็ดี เกมของพอร์ทสมัธดีขึ้นเป็นลำดับ และในที่สุดนาทีที่ 24 ก็สอยตาข่ายแมนฯ ซิตี้ได้สำเร็จจากลูกเตะมุมด้านซ้ายที่ฮาร์ทออกไปชกบอลทิ้งแย่จึงถูกดิยาร์ร่าบอมบ์กลับเข้ามาในเขตโทษอีกรอบ แล้วเจอร์เมน เดโฟโหม่งตั้งเข้าไปให้ยูตาก้ายิงดีดระยะห้าหลาสวนทางฮาร์ทส์ที่ปราดออกมาบล็อคไม่ทันเปลี่ยนสกอร์ให้ทีมเยือนไล่มา 1-2
ผ่านมาถึงนาทีที่33 เจ้าบ้านน่าจะหนีไปอีกเม็ดเมื่อเอลาโน่แทงบอลยาวขึ้นไปให้เอ็มวารูวารีสับไกระยะ 20 หลาโดยที่ทั้งแคมป์เบล์กับซิลแว็ง ดิสแต็งไม่มีใครสนใจเข้าประกบ แต่เจมส์ปัดป้องได้จึงจวกความสะเพร่าของสองแนวรับเป็นการใหญ่
ท้ายครึ่งแรกทีมตราเรือใบเล่นได้อย่างวูบวาบกว่า ขาดก็แต่เพียงจังหวะสุดท้ายที่ยังไม่รู้ใจกัน กระนั้นในนาทีที่ 40 เอลาโน่ก็รับบอลจากเอ็มวารูวารีแล้วไหลขึ้นหน้าโดยมีวาสเซลล์ลากไปถึงหน้าเขตโทษพร้อมทั้งโดนไฮร์ดาร์สสันกองหลังตัวสุดท้ายของพอร์ทสมัธตามเข้ากระแทกล้มไม่ให้หลุดไป ผู้ตัดสินจึงชูใบแดงตะเพิดออกจากสนามตามระเบียบ แต่เอลาโน่กดลูกฟรีคิกระยะ 23 หลาชนกำแพง
ล่วงเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกในจังหวะที่ดิสแต็งเตะสกัดจากเส้นหลังไปเข้าทางไอร์แลนด์ แล้วเอ็มวารูวารีรับบอลมาแตะสั้นๆต่อให้วาสเซลล์บรรจงยิงปั่นโค้งจากมุมเขตโทษด้านขวา ทว่าเจมส์ระเบิดฟอร์มบินไปปัดทิ้งที่เสาไกลได้อย่างยอดเยี่ยม ครบ 45 นาทีแมนฯ ซิตี้จึงนำอยู่ 2-1
เริ่มครึ่งหลังมาถึงนาทีที่ 56 พอร์ทสมัธ น่าจะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุด มุนตารี่ ได้หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายเต็มๆ บอลไปถูก โจ ฮาร์ท ปัดออกมาจากเส้นได้ในจังหวะแรก ก่อนที่บอลจะไหลมาเข้าทางของ จอห์น อูตาก้า ยิงเหน่งๆหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งไปชนเสาออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ
หลังจากนั้นอีก 5 นาที เรือใบสีฟ้า บุกตอบโต้กลับมาบ้าง จากการสกัดบอลพลาดของกองหลังทีมเยือน บอลเลยมาถึง วาสเซลล์ ได้สับไกเต็มๆหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลติดไซร์ก้อยหลุดออกนอกกกรอบไปนิดเดียว
ถึงนาที 74 เจ้าถิ่นมาได้ประตูปิดกล่อง3-1 เมื่อ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ แทงทะลุช่องให้ เบนจามิน เอ็มวารูวารี แต่งหนึ่งจังหวะ ก่อนแปเน้นๆด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาแรกอย่างสวยงาม
จบ 90 นาที แมนฯ ซิตี้ ถล่ม พอร์ทสมัธ 3-1 ยังมีลุ้นพื้นที่โควต้ายูฟ่า คัพต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, เอลาโน่, ริชาร์ด ดันน์, เวดราน ชอร์ลูก้า, ไมเคิ่ล บอลล์, เกลสัน เฟอร์นันเดส, ไมเคิ่ล จอห์นสัน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดาริอุส วาสเซลล์, มาร์ติน เปตรอฟ, เบนจามิน เอ็มวารูวารี
สำรอง : อันเดรียส อิซัคส์สัน, แซม วิลเลียมสัน, โจวานนี่, เฟลิเป้ ไซเซโด้, เนรี่ กัสตีโย่
พอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, โลร็อง เอตาเม่, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน, จอห์น อูตาก้า, ปาป้า บูบ้า ดิย็อป, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ซุลลี่ย์ มุนตารี่, นิโก้ ครานชาร์, เจอร์เมน เดโฟ
สำรอง : อัสเมียร์ เบโกวิช, ลูเซียง โอเบย์, ฌอน เดวิส, มิลาน บารอส, เดวิด นูเจนท์
ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์