หลายคนพยายามคิดเช่นนั้นรวมถึงผมด้วยเนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาแนวโน้มของเรือใบสีฟ้าดีขึ้นเรื่อยๆและย่อมแกร่งทั่วแผ่นกับการได้มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสมา

24 ล้านปอนด์กับค่าเหนื่อย 185,000 ปอนด์ต่อวีกไม่แพงเลยกับมูลค่านักเตะตอนนี้รวมถึงผลตอบแทนที่กำลังได้มาในอนาคต

เท่ากับว่าตอนนี้ซิตี้กลายเป็นสโมสรที่มีแนวรุกน่าสะพรึงกลัวสุดของพรีเมียร์ลีกไม่ว่าจะเลือกใครลงสนามไล่ตั้งแต่เซร์คิโอ อเกวโร่, คาร์ลอส เตเวซ, มาริโอ บาโลเตลลี่, เอดิน เชโก้, ดาบิด ซิลบา, อดัม จอห์นสัน, ยาย่า ตูเร่รวมถึงนาสรี่

รายชื่อแต่ละคนดีกรีระดับชาติทั้งสิ้นเพิ่มทางเลือกให้มันชินี่ในแต่ละนัด

จากสองเกมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่ทีมที่เล่นเพื่อผลการแข่งขันอีกต่อไปอาจเป็นการเปลี่ยนวิธีของกุนซือชาวอิตาเลี่ยนเนื่องจากโดนวิจารณ์อย่างหนัก

นาสรี่เป็นจิ๊กซอว์เข้ามาเติมเต็มทั้งความหลากหลายในการเล่นและเทคนิคอันคล่องแคล่วที่บางทีพึ่งซิลบาคนเดียวก็ดูหนักเกินไป

ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆก็ดูลงตัวหรืออาจมีก็ตรงเซนเตอร์ฮาล์ฟที่โจลีออน เลสค็อตต์ดูยังไม่นิ่งมีลูกเหวอให้เห็นกระนั้นอีกไม่นานโคโล ตูเร่ก็พ้นแบนกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง

น่ากลัวนะครับแมนฯซิตี้ชุดนี้

ผมเคยสบประมาทพวกเขาในเรื่องว่าเป็นทีมรวมดาราเท่านั้นยังขาดทีมเวิร์กและสปิริตกระนั้นยิ่งเวลานานเข้ารู้สึกว่าทั้งหมดค่อยๆกลืนประสานเป็นเนื้อเดียวกัน

สังเกตุได้เลยว่าเชโก้, ซิลบา, ตูเร่รวมถึงกุนเมื่อได้บอลทั้งหมดจะวิ่งทำทางหาช่องอย่างรู้ใจราวกับเล่นด้วยกันมานานซึ่งบางทีเป็นเพราะเซนส์บอลทันกันก็ได้

พอได้นาสรี่มาคู่แข่งก็จับทางลำบากมากขึ้นไม่รู้ปิดใครดี

อาวุธขนาดนี้เจอแมนฯยูไนเต็ดยังเดายากเลยว่าผลการแข่งขันเป็นยังไง?? บางทีต้องมีเรื่องโชคและจังหวะมาเกี่ยวด้วยกับการตัดสิน

สิ่งที่อยากเห็นต่อไปก็คือรูปแบบการเล่นของมันโช่

ถ้าเดาไม่ผิดไม่น่าเปลี่ยนจาก 4-3-3 ของเดิมเพียงแต่ลักษณะการโจมตีหรือการยืนอาจผิดเพี้ยนไปตามแมตช์และคู่ต่อสู้เพราะเวลานี้สามารถทำได้หมดแล้วจากทรัพยากรที่มีในมือ

ซิตี้พัฒนาขึ้นจากปีก่อนพอสมควรนะครับ

นักวิจารณ์หลายสำนักยกให้พวกเขาเป็นเต็ง 2 แล้วตอนนี้เหนือกว่าเชลซีเสียอีกจากการเสริมทัพที่น่ากลัวกว่ารวมถึงฟอร์มการเล่นที่ผ่านมาสองนัดแรก

อย่าลืมอีกว่าโปรแกรมช่วงนี้พวกเขายังเจองานไม่ยากเท่าไรจนถึงปลายเดือนตุลาคมทำศึก"แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้"ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดซึ่งกว่าถึงตรงนั้นก็ไม่รู้ว่าโกยคะแนนไปไหนถึงไหนแล้ว

กระนั้นสุดสัปดาห์นี้การไปเยือนไวท์ ฮาร์ท เลนน่าเป็นอีกบทพิสูจน์เพราะว่าท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์สก็ไม่ได้เป็นกล้วยหอมที่ให้ใครมาปลอกเปลือกง่ายๆแต่หากพวกเขายังชนะอีกก็ต้องยอมรับ

แมนฯซิตี้จะเป็นแชมป์??

"ดูซิตี้เล่นแล้วน่ากลัวขึ้นจริงๆ การสอดประสานและความสามารถของนักเตะแต่ละคนดีกว่าทีมอื่นๆค่อนข้างมากดังนั้นเป้าหมายล้มยูไนเต็ดจึงไม่ได้ห่างไกลมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว"

"ปัญหาเดียวก็คือว่ามันชินี่ต้องพิสูจน์ว่าตัวเองเก่งพอในการคุมทีมระดับนี้และเอาสตาร์แต่ละคนให้อยู่มือ หากทุกอย่างภายในทีมสงบและเต็มไปด้วยความสามัคคีก็มีโอกาสเป็นแชมป์แน่"

ผมว่าปีนี้มีโอกาสเป็นไปได้มากสุดในรอบหลายสิบปีเลยหรือไม่ใช่ก็คงใกล้เคียงอย่างยิ่ง

ไก่เมนต์

สื่อเมนต์

"ไก่ป่า

เคดีต http://mcfc.in.th/forum/topic/new?target=http%3A%2F%2Fmcfc.in.th%2F