Members

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 'ก็คนมันมีตังค์'(เห็นบางอย่างมีประโยชน์ดี ไม่รู้ใครเอามาลงยัง)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 'ก็คนมันมีตังค์'
จากทีมปลายแถว ''ไอ้ลูกไล่'' ของฟากสีแดง อยู่มาวันหนึ่ง มวลชนสีฟ้าก็กลายมาเป็น ''คู่แข่งตัวฉกาจ'' ที่ใครก็ไม่อาจมองข้าม (แต่จะเคารพหรือไม่--ก็อีกเรื่อง)

 

กองเชียร์แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องตาร้อนดูความสำเร็จของ ยูไนเต็ด วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่าที่ตู้โชว์แห่งโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถูกยัดโทรฟี่จนต้องสั่งทำตู้เพิ่ม ในขณะที่พวกเขา--ยังไม่ต้องพูดถึงความสำเร็จ--ยังต้องเวียนว่ายขึ้นลงลีกสูง สุดอยู่เลย

2011/12 ที่กำลังมาถึง มันเพิ่งจะเป็นซีซั่นที่ 10 ติดต่อกันของพวกเขาบน พรีเมียร์ลีก เท่านั้น หลังจากปลายยุค 90 (ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำทริปเปิลแชมป์ได้) เคยตกไปไกลถึงดิวิชั่น 2 เดิมโน่นเทียว

อย่างไรก็ตาม ก็ไอ้ 2011/12 ที่กำลังมาถึงนี่แหละ ที่ แมนฯ ซิตี้ ถูกจัดเป็น ''หนึ่งในตัวเต็ง'' ลุ้นแชมป์ไปแล้ว บริษัทรับพนันถูกกฎหมายหลายแห่งวางพวกเขาเป็นทีมเต็ง 3 เหนือกว่า อาร์เซน่อล หรือ ลิเวอร์พูล (และเป็นเต็ง 2 ว่าจะยึดจ่าฝูงหลังผ่านเดือนแรก เหนือ ยูไนเต็ด)

คงไม่ผิด ถ้าเราจะยกความดีความชอบให้ ''ฟ่อนเงิน'' หลากสัญชาติที่ถูกโปรยเข้าแถบอีสต์แลนด์ จน แมนฯ ซิตี้ มีวันนี้


มันเริ่มต้นจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าไปจุดประกายให้นักธุรกิจทั่วโลกหันมาสนใจทีมหมายเลข 2 ของเมืองแมนฯ อดีตนายกฯ ไทยเป็นหัวหอกเข้าเทกโอเวอร์ทีมสีฟ้าช่วงปลายปี 2006 แม้ฉากจบจะไม่สวย แต่ ซิตี้ ก็ยังขยับตัวเองขึ้นมาช่วงชิงพื้นที่สื่อได้มากขึ้นชนิดผิดไปคนละเรื่องกับ ในอดีต กับการมาถึงของ สเวน-โกรัน อีริคส์สัน อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ และนักเตะราคาแพงทั้งหลายแหล่

ไม้ผลัดถูกส่งต่อให้ อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป แห่งยูเออี เข้ารับช่วงตอนซัมเมอร์ 2008 นั่นยิ่งกลายเป็นการทำให้ ซิตี้ ''เตลิด'' ไปไหนต่อไหน กลายเป็นทีมที่มีเงินทุนสนับสนุนในระดับเดียวกับ เชลซี, บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด แถมในบางจังหวะยังมี ''ลูกบ้า'' มากกว่าด้วยซ้ำ

ซัมเมอร์ 2010 โรแบร์โต้ มันชินี่ เบิกเงินไปใช้ใน 2 หน้าตลาด รวมแล้ว 143 ล้านปอนด์ (ไม่รวมค่าจ้าง-โสหุ้ย-แป๊ะเจี๊ย) คุ้มค่าในตัวเงินไหม ไม่มีทาง แต่นั่นนำมาซึ่งแชมป์เอฟเอ คัพ ถ้วยแรกในรอบ 35 ปี และตั๋วลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ปรารถนา พวกเขาได้อันดับ 3 - สูงที่สุดนับแต่ปี 1977

ซัมเมอร์ 2011 ซิตี้ ยังดูอั้นๆ ใช้ไป ''แค่'' 50 ล้าน กับ เซร์คิโอ อเกวโร่, กาแอล กลิชี่ และ สเตฟาน ซาวิช แต่ตราบใดที่ตลาดยังไม่ปิดตัว จะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกใน เอติฮัด สเตเดี้ยม ซิตี้ ทำให้ ''แฟนตาซีฟุตบอล'' กลายเป็นเรื่องจริง ชีวิตจริง

จากทีมที่ไม่มีอะไรให้นึกถึง กลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่ทุกคนต้องยำเกรง

สามล้อถูกหวย รวยแต่ไร้ราก... ซิตี้ อาจต้องเผชิญกับคำครหาประเภทนี้อย่างเลี่ยงไม่ออก

เพียงแต่เมื่อทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ซิตี้ ก็ย่อมมีข้อโต้แย้งสำหรับการเดินบนทางที่ปูพรมด้วยธนบัตรเยี่ยงนี้ เมื่อนี่ไม่มีความผิดอะไรแม้แต่น้อย

และตราบใดที่บอร์ดอาบูดาบียังไม่เบื่อฟุตบอล เราก็ย่อมจะเห็น ซิตี้ เป็น ''มหาเศรษฐี'' ต่อไปเช่นนี้นี่เอง


คำทำนาย

คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2011 เป็นบททดสอบแรกของ แมนฯ ซิตี้ และ โรแบร์โต้ มันชินี่ เกือบจะทำสำเร็จอยู่แล้ว เพียงแต่ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็นำมาซึ่งความพ่ายแพ้อย่างที่เห็น

ความ ''สม่ำเสมอ'' เป็นสิ่งที่ ซิตี้ โหยหา นอกจากเรื่องในสนามแล้ว ผลงานภาพรวมก็ยังยืนระยะไม่ได้นัก ซีซั่นที่แล้ว แถบสีแดง (นัยถึงความพ่ายแพ้) ปรากฏให้เห็นอยู่เนืองๆ มันมากเกินไปสำหรับทีมที่เล็งถึงแชมป์

กระนั้น เมื่อนี่คือซีซั่นที่ 3 ของ มันโช่ แล้ว ความลงตัวและเสถียรภาพด้านขุมกำลัง แท็กติกเทคนิคย่อมจะเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

จะแย่งแชมป์กับ ยูไนเต็ด อาจยังยากไป แต่ ซิตี้ มีดีพอจะไม่ถอยหลังตกลงจากเดิมแน่นอน


ฟันธง : ลุ้นแชมป์ยังสาหัส สู้เพื่อยึดอันดับเดิมคงพอ




แผนผังการเล่นตามคาด
                              (4-3-3)


                                         ฮาร์ท

ริชาร์ดส์           ก็องปานี         เลสค็อตต์        โคลารอฟ

                     ตูเร่            เด ยองก์         แบร์รี่

       ซิลบา                  อเกวโร่                 บาโลเตลลี่

 



สตาร์เด่น

 

 

เซร์คิโอ อเกวโร่
เกิด : 2 มิ.ย. 1988
สถานที่: กิลเมส, อาร์เจนตินา
ส่วนสูง : 172 เซนติเมตร
เซ็นสัญญา : 28 กรกฎาคม 2011

ด้วยหวังว่าจะไม่งอแงเหมือน คาร์ลอส เตเวซ ไม่งี่เง่าเหมือน มาริโอ บาโลเตลลี่ ไม่เงียบเชียบเหมือน เอดิน เชโก้ ฟ่อนเงิน 38 ล้านปอนด์ (บางแหล่งว่า 35 ล้านไม่รวมออปชั่น) จึงถูกยัดใส่มือประธานสโมสรแอตเลติโก มาดริด... ''เราขอนะ'' เซร์คิโอ อเกวโร่

ไม่เป็นที่สงสัยในเรื่องฝีเท้าบนขวบวัยเพียง 23 ''เอล กุน'' เดินหน้าล่าตาข่ายในบิเซนเต้ กัลเดร่อน ปะทะกับบรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดแห่งลา ลีกา วันดีคืนดีก็ไปซัดกับคู่แข่งบนเวทียุโรป เผลอแผลเดียว อเกวโร่ ยืนระยะล่าประตูระดับสูงมา 5 ฤดูกาลเข้าไปแล้ว

ลงสนามประเดิมชุดใหญ่ของต้นสังกัดแรก อินดิเปนเดียนเต้ ตั้งแต่อายุ 15 ปีกับอีก 35 วัน เป็นสถิติใหม่ของลีกอาร์เจนตินา (ทำลายสถิติเก่าของ ดีเอโก้ มาราโดน่า) ตอนกลางปี 2003 และเพียงปีเดียวถัดมาเท่านั้น อเกวโร่ ก็คลำตาข่ายเม็ดแรกเจอ

3 ปีหลังเปิดตัว แอตเลติโก มาดริด สวมวิญญาณหมีปืนไว กระชากตัว อเกวโร่ ไปเข้าสังกัด ซึ่งนั่นต้องแลกด้วยเงินจำนวนถึง 23 ล้านยูโร (กับกองหน้าอายุ 18!) อย่างไรก็ดี สิ่งที่ ''ตราหมี'' ได้คืนกลับไปคือความคุ้มค่าทุกเหรียญสตางค์ อเกวโร่ กระหน่ำประตูเกิน 20 ลูกในทุกซีซั่น ยกเว้นแค่ปีแรกที่ยังอยู่ในช่วงปรับตัว รวมแล้ว อเกวโร่ ซัด 101 ประตูจาก 234 เกม หนึ่งในนั้นคือประตูนัดชิงถ้วยยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2010 (ชนะ อินเตอร์ 2-0) และอีกหยิบมือนั้นคือประตูในทัวร์นาเมนต์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก  2009/10 - แอตฯ มาดริด เป็นแชมป์

โชคไม่ดีคงเป็นของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่ไม่อาจใช้งาน อเกวโร่ ได้ในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2011 เนื่องจากปัญหาเจ็บเท้า

แต่ก็อีกนั่นแหละ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน... รอดูเถิดท่าน อเกวโร่ จะ ''เถิดเทิง'' ขนาดไหนกับซีซั่นใหม่ที่กำลังมาถึง


ผู้จัดการทีม


โรแบร์โต้ มันชินี่


ความชอบธรรมในการพา อินเตอร์ มิลาน เถลิงแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 3 สมัยติด กับ โคปปา อิตาเลีย อีก 2 รอบ ถูก มัสซิโม โมรัตติ ขยำลงถังขยะ ด้วยข้อหาที่ว่า อินเตอร์ ไปไม่ถึงฝั่งฝันในเวทียุโรปเสียที--ปีแล้วปีเล่า

อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอิตาลี ว่างงานอยู่ปีกว่า ท่ามกลางข่าวลือกับ เชลซี, น็อตต์ส เคาน์ตี้ และทุกทีมที่มีความเปลี่ยนแปลงเก้าอี้กุนซือ กระทั่งมาลงเอยกับ แมนฯ ซิตี้ ปลายปี 2009 ด้วยการเสียบแทน มาร์ค ฮิวจ์ส
งานที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ครึ่งปีแรกของ มันโช่ ยังคงไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก ซิตี้ จบที่อันดับ 5 และไม่มีแชมป์ใดติดมือ กระนั้น บอร์ดอาบูดาบียังคงไว้ใจ ซึ่ง มันโช่ ก็ทำสำเร็จในซีซั่นที่แล้ว 2010/11 กับการเข็นทีม, มูลค่าเป็นร้อยเป็นพันล้านปอนด์, จบสูงถึงอันดับ 3 และฟาดโทรฟี่แรกในรอบ 35 ปี ที่ในระหว่างทางนั้นคือการเขี่ย แมนฯ ยูไนเต็ด หลุดวงโคจรอย่างสะใจ

อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลจากไอเดียของ มันโช่ ยังคงเป็นที่กังขา แมนฯ ซิตี้ ยังไม่ได้แสดงเกมที่น่าหลงใหล ไม่มีสไตล์ที่น่าตื่นตาเท่าที่ควร และยังห่างไกลกับยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ในหลักปีแสง ฟุตบอลของ มันโช่ ถูกมองว่าเน้นเกมรับเป็นหลัก เอาชัวร์เข้าว่าไว้ก่อนทั้งที่แนวรุกอุดมด้วยดาวเด่นเป็นกุรุส อีกทั้งยังไม่เก๋าเกมมากพอ (นำ 2-0 แพ้ ยูไนเต็ด 2-3 ก็อีกตัวอย่าง)

เราคงต้องจับตาดูกันต่อว่า ความชอบธรรมในการนำ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ กับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก จะช่วยให้ มันโช่ ได้สูดอากาศในอีสต์แลนด์ต่อไปอีกนานเท่าไร

ตลาดซื้อขายซัมเมอร์ 2011

ย้ายเข้า
                                       จาก                                                     ค่าตัว

กาแอล กลิชี่                         อาร์เซน่อล                                          7 ล้านปอนด์
สเตฟาน ซาวิช                       ปาร์ติซาน                                           6 ล้านปอนด์
เซร์คิโอ อเกวโร่                 แอตฯ มาดริด                                      38 ล้านปอนด์
กอสเตล ปันติลิมอน           โปลี ติมิซัวร่า                                           ไม่เปิดเผย
ดาวิด กอนซาเลซ                 อเบอร์ดีน                                                 ยืมตัว
ไมเคิ่ล จอห์นสัน                 เลสเตอร์ ซิตี้                                             ยืมตัว

ย้ายออก                                     ไป                                                         ค่าตัว

โช                                   อินเตอร์นาซิอองนาล                            ไม่เปิดเผยค่าตัว
เยอโรม บัวเต็ง                     บาเยิร์น มิวนิค                                     12 ล้านปอนด์
เชย์ กิฟเว่น                          แอสตัน วิลล่า                                     3.5 ล้านปอนด์
เฟลิเป้ ไซเซโด้                        เลบันเต้                                          800,000 ปอนด์
ปาทริค วิเอร่า                                -                                                     แขวนสตั๊ด


ประวัติสโมสรพอสังเขป
ก่อตั้ง : 1894เข้าร่วมลีก : 1894 
นิกเนม : City, The Blues
เจ้าของทีม : ชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน
ประธานสโมสร : คาลดูน อัล มูบารัค
ผู้จัดการทีม :  โรแบร์โต้ มันชินี่
ผู้ช่วยผู้จัดการทีม :  ไบรอัน คิดด์
สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์
ความจุ : 47,726 คน
ผู้ชมสูงสุด : 84,569 คน พบ สโต๊ค, เอฟเอ คัพ รอบ 6, 03-03-1934
ดาวซัลโวสูงสุดในลีก
1 ฤดูกาล : ทอมมี่ จอห์นสัน 38 ประตู, ดิวิชั่น 1, 1928-29 
ตลอดกาล : เอริค บรู๊ค 177 ประตู, 1924-40
ลง เล่นมากที่สุด : อลัน โอ๊คส์ 606 นัด, 1958-76ชนะสูงสุด : 10-1 พบ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์, ดิวิชั่น 2, 07-11-1987, 10-1 พบ สวินดอน, เอฟเอ คัพ รอบ 4, 19-01-1930
แพ้สูงสุด  : 1-9 พบ เอฟเวอร์ตัน, ดิวิชั่น 1, 03-09-06
ขายนักเตะแพงสุด : 21 ล้านปอนด์, ฌอน ไรท์-ฟิลิปส์ ไปเชลซี, ก.ค. 2005
ซื้อนักเตะแพงสุด : 38 ล้านปอนด์, เซร์คิโอ อเกวโร่ จาก แอตเลติโก มาดริด, ก.ค. 2011
แชมป์ดิวิชั่น 1 (เดิม) : 1936-37, 1967-68
แชมป์ดิวิชั่น 1 (ปัจจุบัน)  2001-2002 
แชมป์ลีก คัพ : 1970, 1976 
แชมป์เอฟเอ คัพ : 1904, 1934, 1956, 1969, 2011
แชมป์ คัพวินเนอร์ส คัพ : 1969-70 

 

รายชื่อผู้เล่น 2011/12

 

เบอร์/ตำแหน่ง ชื่อ   สัญชาติ   อายุ ลงเล่น  ประตู จากสโมสร
ผู้รักษาประตู
12 สจ๊วร์ต เทย์เลอร์ อังกฤษ 30 1 0 แอสตัน วิลล่า
25 โจ ฮาร์ท อังกฤษ 24 87 0 ชรูว์สบิวรี่
37 กุนนาร์ นีลเซ่น หมู่เกาะแฟโร 24 1 0 แบล็คเบิร์น
- กอสเตล ปันติลิมอน โรมาเนีย 24 - - โปลี ติมิซัวร่า
กองหลัง
2 ไมกาห์ ริชาร์ดส์ อังกฤษ 23 141 6 ทีมเยาวชน
3 เวย์น บริดจ์ อังกฤษ 30 42 0 เชลซี
4 แว็งซ็องต์ ก็องปานี เบลเยียม 25 96 3 ฮัมบูร์ก
5 ปาโบล ซาบาเลต้า อาร์เจนตินา  26 82 3 เอสปันญ่อล
13 อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ เซอร์เบีย 25 24 1 ลาซิโอ
15 สเตฟาน ซาวิช มอนเตเนโกร 20 0 0 ปาร์ติซาน
19 โจลีออน เลสค็อตต์ อังกฤษ 28 40 4 เอฟเวอร์ตัน
22 กาแอล กลิชี่ ฝรั่งเศส 25 0 0 อาร์เซน่อล
28 โคโล ตูเร่ ไอวอรี่ โคสต์  30 49 2 อาร์เซน่อล
38 เดดริค โบยาต้า เบลเยียม 20 10 0 ทีมเยาวชน
เกร็ก คันนิ่งแฮม ไอร์แลนด์ 20 2 0 ทีมเยาวชน
เนดุม โอนูโอฮา อังกฤษ 24 94 3 ทีมเยาวชน
กองกลาง
7 เจมส์ มิลเนอร์ อังกฤษ 25 22 0 แอสตัน วิลล่า
8 ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ อังกฤษ 29 64 9 เชลซี
11 อดัม จอห์นสัน อังกฤษ 24 47 5 มิดเดิ้ลสโบรช์
18 แกเร็ธ แบร์รี่ อังกฤษ 30 67 4 แอสตัน วิลล่า
21 ดาบิด ซิลบา สเปน 25 35 4 บาเลนเซีย
34 ไนเจล เด ยองก์ ฮอลแลนด์ 26 82 1 ฮัมบูร์ก
40 วลาดิเมียร์ ไวส์ สโลวาเกีย 21 1 0 อินเตอร์ บราติสลาว่า
42 ยาย่า ตูเร่ ไอวอรี่โคสต์ 28 34 6 บาร์เซโลน่า
50 อับดิซาลาม อิบราฮิม นอร์เวย์ 20 1 0 เฟลฮามาร์
62 อับดุล ราซัค ไอวอรี่ โคสต์ 18 1 0 พาเลซ
กองหน้า
9 เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  โตโก 27 34 15 อาร์เซน่อล
10 เอดิน เชโก้ บอสเนียฯ 25 15 2 โวล์ฟบวร์ก
14 โรเก้ ซานตา ครูซ ปารากวัย 29 20 3 แบล็คเบิร์น
16 เซร์คิโอ อเกวโร่ อาร์เจนตินา 23 0 0 แอตฯ มาดริด
32 คาร์ลอส เตเวซ อาร์เจนตินา  27 63 43 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
39 เคร็ก เบลลามี่ เวลส์ 32 40 12 เวสต์แฮม
43 อเล็กซ์ ไนม์ลี่ย์ ไลบีเรีย 20 1 0 โคตอนสปอร์ต
45 มาริโอ บาโลเตลลี่ อิตาลี 20 17 6

อินเตอร์มิลาน

Views: 895

Reply to This

Replies to This Discussion

ถูกต้องครับ...ผมก้อคือคนหนึ่งในกลุ่ม"แฟนพันธุ์ใหม่" แต่ถึงแม้ว่าจะเป็น"แฟนพันธุ์ใหม่","แฟนพันธุ์เก่า"หรือ"แฟนพันธุ์แท้" เราก้อเลือดสีฟ้า"THE BLUES"เหมือนกัน...เรารัก"เรือใบสีฟ้า"เหมือนกันทุกคนน่ะพี่น้อง....

"ตราบใดที่บอร์ดอาบูดาบียังไม่เบื่อฟุตบอล เราก็ย่อมจะเห็น ซิตี้ เป็น ''มหาเศรษฐี'' ต่อไปเช่นนี้นี่เอง"

      หวังว่าจงจะเป็นเช่นนี้ไปนานๆ นะครับ ไม่ใช่แค่เป็นมหาเศรษฐีอย่างเดียวครับ รวยแชมป์อีกต่างหากครับ

ข้อมูลดีๆครับ ขอบคูณ นัยมีน มากๆ อิอิ

ขอบคุณครับ

 

 

จากทีม ซั่วๆ นอกสายตา ไม้ประดับ

 

มาเป็นทีมที่ แรงๆๆๆๆๆๆๆ ที่สุด ในขณะนี้

 

ต้องขอบคุณ ท่านทักษิณ เช่นกันครับ

สำหรับผมเป็นทีมในดวงใจเหมือนเชียร์ทีมของคนไทยไปแล้วคับ ๆ ฮา ๆ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.