ถ้าไม่นับข่าวคราวความเคลื่อนไหวของทีมระดับ "บิ๊กโฟร์" อันประกอบด้วย แมนฯยู,เชลซี,ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล แล้ว
ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของทีมในพรีเมียร์ลีกที่คนให้ความสนใจมากที่สุดคงไม่พ้นสโมสร "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้
ไม่ใช่ว่าเพราะมีอดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษอย่าง สเวน โกรัน อีริกส์สัน คุมทีม
แต่เป็นเพราะการมีเจ้าของทีมเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย นั่นต่างหาก
แม้ว่าการเข้ามาเทกโอเวอร์ครั้งนี้จะมีเงื่อนงำที่น่าสงสัยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความเป็นมาของเงินที่นำเอามาซื้อ การนำกีฬาไปผูกพันกับการเมือง
แต่การ "ฮุบ" หนนี้ถือว่าเรียบร้อย "โรงเรียนแม้ว" ไปแล้วโดยสิ้นเชิง
เพราะเอาเข้าจริงกระแสต้านของกองเชียร์เจ้าถิ่นก็ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คาดไว้เหมือนในตอนแรกเท่าใดนัก
แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากสื่อบางสำนักในอังกฤษว่าน่าจะให้ความละเอียด และพิจารณาความเป็นมาเป็นไปในเรื่องนี้โดยรอบคอบ
แต่ดูเหมือนจะต้านกระแสที่ขานรับของบอร์ดบริหาร-แฟนบอลไม่ไหว
และมาตรการที่อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยนำมาสร้างสีสันในทีม "เรือใบ" ก็วูบวาบไม่เบา
ยังเป็นแนวคิดแบบมี "การตลาด" นำหน้าอยู่เหมือนเดิม
โดยมีพ.ต.ท.ทักษิณเป็น "พระเอก"
เป็นดาวเด่นต่อเวทีโลกในฐานะเจ้าของทีมฟุตบอลในลีกที่ถือว่าโด่งดังที่สุดในโลกขณะนี้
ความรับรู้ของคนส่วนมากในเวลานี้โดยเฉพาะผู้คนที่ไม่รู้เหตุการณ์ความยุ่งเหยิงรับทราบแต่เพียงแต่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คืออดีตนายกรัฐมนตรีที่ "รวย" มากเพียงเท่านั้น
เรื่องอื่นๆถูกลดความสำคัญลงไปอย่างง่ายดาย
มาตรการใช้เงินนำทางถือว่าประสบความสำเร็จ
และยังมีการใช้ "สื่อ" อย่างได้ผลอีกต่างหาก
เมื่อวันก่อน อีริกส์สัน ให้สัมภาษณ์หนังสือ "แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์" ชื่นชมการทำงานของอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย โดยระบุว่า การอนุมัติงบประมาณก้อนโตในการซื้อนักเตะแสดงให้เห็นว่ามุ่งมั่นกับการสร้างทีมแมนฯซิตี้อย่างจริงจัง
แล้วไหนยังจะมีแผนอุ้ม "นักเตะไทย" ไปทดสอบฝีเท้ากันถึง 3 พระหน่อ
สร้างข่าวในแง่บวกออกมาอย่างต่อเนื่อง
ลองจินตนาการไปว่า พรีเมียร์ลีกเปิดฉากเมื่อไร "แม้ว แอนด์ เดอะซิตี้" คงมีอะไรที่ฟูฟ่า หวือหวา ออกมาอีกพะเรอเกวียน
ยิ่งวันไหนที่ "เรือใบ" ลงเตะแล้วถ่ายทอดสดกลับมาบ้านเราเมื่อไหร่คงดูไม่จืด
คงได้เห็นพ.ต.ท.ทักษิณนั่งยืดในชั้นวีไอพีของสโมสรเป็นแม่นมั่น
ถือว่าได้มิติทั้งด้านกีฬาและการเมืองไปพร้อมๆกัน
มีเงินใช้ผีโม่แป้งได้ โบราณว่าไว้ไม่ผิดแม้แต่น้อย
ส่วนที่มาของ "เงิน" นั้น ต้องไปถามผู้เกี่ยวข้องดูกันเอาเองครับ
คอลัมน์ มุมนักสู้
คารม คมคิด
หนังสือพิมพ์ข่าวสด