โจ ฮาร์ท มือกาวจอมหนึบ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รับตอนแรกเพื่อนร่วมทัพต่างไม่แน่ใจในตัวของ มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกจอมเกเรเลือดอิตาเลี่ยน แต่เวลานี้ทุกคนต่างเข้าอกเข้าใจ และพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ จนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะขวัญใจประจำห้องแต่งตัวอีกด้วย

        โจ ฮาร์ท นายทวารทีมชาติอังกฤษของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันว่าเวลานี้เพื่อนร่วมทีมทุกคนสนับสนุน มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าชาวอิตาเลี่ยนอย่างเต็มที่ หลังจากเคยไม่พอใจพฤติกรรมเกเรของเขาในช่วงก่อนหน้านี้ 
 
        ดาว ยิงวัย 21 ปี มีช่วงเวลาขึ้นๆลงๆ ระหว่างค้าแข้งในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม โดยเขามักก่อเรื่องอื้อฉาวแบบไม่มีเหตุผลขึ้นมาเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือ พิมพ์เป็นประจำ อย่างไรก็ตามอดีตหัวหอกอินเตอร์ มิลาน กลับระเบิดฟอร์มสุดยอดยิงคนเดียว 2 ประตูพา "เรือใบสีฟ้า" ถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 6-1 ในเกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา
 
        ฮาร์ท กล่าวว่า "ผมคิดว่า พวกเราล้วนไม่ค่อยแน่ใจเมื่อฤดูกาลก่อนทั้งใน และนอกสนามว่าเขาเป็นอย่างไร ผมคิดว่าเขาเติบโตขึ้นในฐานะคนๆ หนึ่ง และยอมรับว่าเขาเป็นใคร และเป็นอะไรในทีมนี้ เขาเป็นคนหนึ่งที่พวกเรามองหา ความตื่นตาตื่นใจทั้งหลายที่มาพร้อมกับมาริโอ เป็นเรื่องธรรมดา นี่เป็นฟุตบอลที่สวยงาม และเป็นสิ่งที่เขาเป็น"
 
        "คุณย่อมมี บุคคลิกเหล่านี้ และบางครั้งมันน่าหงุดหงิดใจที่ต้องอยู่กับเขา แต่ในฤดูกาลนี้ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ เขาไม่ใช่คนโง่หรอก และเราล้วนหนุนหลังเขาเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ผมคิดว่าทุกคนดีใจที่เขาได้รับความรักในแบบที่เขาสมควรได้รับนี้"
 
        "มาริ โอ เป็นนักเตะชั้นยอด และเขาใช้หัวในการทำสิ่งที่ถูกต้องต่างๆ เขากำลังในสิ่งที่ถูกต้อง และกำลังทำงานหนักกับทีม ผมไม่อาจพูดเรื่องดีๆเกี่ยวกับเขาได้หมดหรอก เขาเป็นนักเตะที่เล่นเพื่อทีม เขายิงประตูได้มากมาย และผมดีใจกับเขาด้วย"
 
        พร้อมกันนี้นาย ด่านอนาคตไกล ยังกล่าวถึงเกมล่าสุดที่พวกเขาเดินหน้าถลุง "ปีศาจแดง" แพ้ยับที่สุดในเกมดาร์บี้แมตช์ นับตั้งแต่ปี 1926 เป็นต้นมา "มันก็ดีเหมือนกับที่เห็นนั่นแหล่ะ แฟนๆรู้สึกวิเศษ นักเตะก็รู้สึกมหัศจรรย์เช่นกัน มันเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ"
 
        "นี่ เป็นฟุตบอลที่สุดยอดซึ่งพวกเราเล่นมาตลอดปี เรามีนักเตะที่มีฝีเท้าชั้นยอด และเราพิสูจน์ให้เห็นในสิ่งนี้แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังเสียเลือด แล้วพวกเขาก็โดนไล่ออก จากนั้นพวกเราก็เดินหน้าฆ่าอย่างเดียว"