Members

View All

เรือยังแกร่ง!ยกพลยิงแซงคิวพีอาร์3-2ทิ้งผี5แต้ม

เรือยังแกร่ง!ยกพลยิงแซงคิวพีอาร์3-2ทิ้งผี5แต้ม

"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังโชว์ผลงานได้สมราคาอีกทีมเต็งแชมป์ฤดูกาลนี้ หลังยกพลออกเยือนยิงไล่ยิงแซงเก็บชัยเหนือ "คิวพีอาร์" ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส ไปแบบสุดมันส์ 3-2 เก็บสามคะแนนสำคัญได้สำเร็จรวมมี 31 แต้มนำจ่าฝูงต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์เป็นที่แน่นอน โดยทิ้งห่างแมนฯ ยู รองจ่าฝูง 5 แต้ม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2554
ควีนส์พาร์ค 2 - 3 แมนฯ ซิตี้

สนาม : ลอฟตัส โร้ด ควีนส์พาร์คเจอ

        คู่ปิดท้ายที่ลอฟตัส โร้ด ควีนส์พาร์คเจองานช้างต้อนรับแมนฯ ซิตี้ทีมจ่าฝูงที่ยังไม่แพ้ใคร แต่นัดนี้อาคันตุกะไม่มีแว็งซ็อง กอมปานีที่ติดโทษแบน สเตฟาน ซาวิชจึงได้ออกสตาร์เป็นตัวจริงในลีกนัดแรกโดยที่ไมกาห์ ริชาร์ดส์ได้รับภาระกัปตัน

     กระนั้นดาบิด ซิลบาที่มีอาการบาดเจ็บแผ่นหลังเล็กน้อยจากเกมชนะบียาร์เรอัลในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกนัดกลางสัปดาห์ฟิตลงเล่นได้

     ด้านทหารเสือราชินีมีโจอี้ บาร์ตันกับฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์สองนักเตะเก่าของทีมเรือใบอยู่ในโผตัวจริงทั้งคู่ แต่ปราศจากอเดล ทารับบ์ที่ป่วยด้วยอาการอาหารเป็นพิษ

     เกมเริ่มต้นโดยเจ้าบ้านบุกเข้าหาทีมมหาเศรษฐีก่อน และได้เสียวตั้งแต่นาทีที่ 3 จากจังหวะเก็บตกแถวริมเขตโทษด้านขวาของไฮดาร์ เฮลกูสัน แต่บอลพุ่งเรียดถากเสาไกลออกไปนิดเดียว

     ถัดมาในนาทีที่ 15 เฮลกูสันมีพื้นที่ควบบอลบุกขึ้นไปส่องจากหน้าเขตโทษด้านขวาอีกคำรบ แต่ยังไม่เป็นประตูถูกโจ ฮาร์ทรับเข้าอกได้สำเร็จ

     แมนฯ ซิตี้พยายามดึงเกมช้าให้จังหวะกลับมาเป็นของตัวเอง แต่นาทีที่ 24 น่าจะเสียประตูอีกจากลูกเตะมุมด้านขวาของบาร์ตันที่เฮลกูสันเจ้าเก่าโดดโขก ที่เสาสองระยะหกหลาย้อนศรเฉี่ยวกรอบไปอย่างเฉียดฉิวเป็นที่สุด

     อย่างไรก็ดี นาทีที่ 28 อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟก็ทำฟาวล์เจย์ โบธรอยด์จนเสียฟรีคิก และแฟนควีนส์พาร์คได้แผดเสียงเฮลั่นเมื่อบาร์ตันรับอาสาปั่นบอลเข้ามาหน้า ประตูโดยมี โบธรอยด์โดดโขกจากแปดหลาเสียบเสาแรกชนิดที่ฮาร์ทไม่ต้องกระดิกพาทีม เมืองกรุงขึ้นนำ 1-0

     พอเสียท่า ทีมตราเรือใบก็เริ่มเดินหน้าอย่างเต็มสูบจนทำเอาแนวรับเจ้าบ้านปั่นป่วนอย่างเห็นได้ชัด

     แต่แล้วนาทีที่ 34 เจ้าบ้านได้โต้ขึ้นทางซ้ายโดยไรท์ ฟิลลิปส์กระชากบอลขึ้นมาจ่ายข้ามฟากเข้าเขตโทษให้เจมี่ แม็คกีสับไกถูกฮาร์ทปัดได้ เฮลกูสันจึงพุ่งโหม่งซ้ำระยะหกหลาถูกนายทวารทีมชาติอังกฤษผวาปัดได้อีก แต่ก็เป็นจังหวะล้ำหน้าอยู่ดี

     ถึงนาทีที่ 40 แมนฯ ซิตี้เกือบเสียหายเพิ่มเมื่อผ่านบอลพลาดแถวกลางสนาม เลยโดนตัดได้ก่อนที่เฮลกูสันจะพาบอลบุกขึ้นทางขวาไปจ่ายยาวเข้าเขตโทษให้โบ ธรอยด์โขกย้อนศรจากสิบหลา ทว่าบอลถากเสาแรกไปแค่เส้นยาแดงผ่าแปด

     ในที่สุด นาทีที่ 43 แมนฯ ซิตี้ก็ทวงประตูคืนได้สำเร็จเมื่อเจมส์ มิลเนอร์ลุยขึ้นทางซ้ายแล้วแทงบอลทะลุช่องให้เอดิน เชโก้หลุดเข้าเขตโทษกระชากเข้ากลางแล้วยิงหักข้อจาก 12 หลาผ่านแพทริค เคนนี่เสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาดเปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1

     ทีมเยือนเดินเกมรุกต่อทันที และหวิดมีสกอร์เพิ่มในนาทีที่ 45 จากจังหวะตะบันของเซร์คิโอ อาเกวโร่แถวหน้าเขตโทษ แต่บอลไม่เป็นใจพุ่งชนโคนเสา จบครึ่งแรกทั้งคู่จึงเสมอกันไป 1-1

     เริ่มกันต่อครึ่งหลังและผ่านไปเพียง 20 วินาที ทีมทหารเสือราชินีก็ชวดได้ประตูอีกตามเคยจากการบุกแบบสายฟ้าแลบแล้วบาร์ตัน พาบอลลุยขึ้นไปซัลโวด้วยเท้าซ้ายจากหน้าเขตโทษ แต่ฮาร์ทกระโจนปัดได้เยี่ยม

และแล้วนาทีที่ 52 เจ้าถิ่นก็โดนดีเมื่อเชโก้ได้โอกาสควบขึ้นกราบซ้ายแล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้ซิ ลบาแตะหนีแดนนี่ แก๊บบิดอนเข้ามากดจากแปดหลาเสียบเสาแรกพาเรือใบแซงนำ 2-1

นับจากนั้น แมนฯ ซิตี้ก็บุกใส่คิวพีอาร์เป็นพายุ และถึงนาทีที่ 60 ซิลบาก็ผ่านบอลให้เชโก้กระทุ้งระยะ 18 หลา แต่เคนนี่ทิ้งตัวปัดได้ทัน

ผ่านมาถึงนาทีที่ 68 เรือใบสีฟ้าเปลี่ยนอาเกวโร่ออกให้อดัม จอห์นสันลงไปแทนหลังจากเจ้าบ้านเริ่มกู้สถานการณ์บุกสู้ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ดี นาทีต่อมากองเชียร์ทหารเสือราชินีก็ได้กระโดดกันตัวลอยเมื่ออร์ม็อง ตราโอเร่รับบอลจากไรท์ ฟิลลิปส์แล้วตะบึงขึ้นทางซ้ายไปจ่ายเข้าเขตโทษให้โบธรอยด์พุ่งโหม่งแล้วบอล ไปกระทบหลังเฮลกูสันที่อยู่หน้าปากประตูระยะสามหลาตุงตาข่าย ทีมเยือนจึงประท้วงยกใหญ่ว่าเป็นลูกล้ำหน้า แต่ไลน์แมนยืนยันให้เป็นประตูโดยภาพช้าชี้ให้เห็นว่าไม่ออฟไซด์เนื่องจากซา วิชห้อยอยู่เป็นคนสุดท้าย สกอร์จึงพลิกเป็น 2-2

แต่แล้วนาทีที่ 74 ก็มีประตูเกิดขึ้นอีกจนได้เมื่อโคราลอฟลุยขึ้นไปตักบอลยาวจากกราบซ้ายเข้า เขตโทษแล้วยาย่า ตูเร่โขกจากสิบหลาไม่เหลือ ทำให้ทีมเยือนนำ 3-2 ก่อนจะเปลี่ยนมาริโอ บาโลเตลลี่ลงไปแทนแกเร็ธ แบร์รี่อีกราย

นาทีที่ 77 ควีนส์พาร์คเปลี่ยนโบธรอยด์ออกส่งเจสัน พันเชี่ยนลงสนาม และขยับมาอีกนาทีเดียวบาโลเตลลี่ก็รับใบเหลืองข้อหาเจตนาทิ้งตัวล้มในเขตโทษ ทั้งๆที่ลุค ยังไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัว

นาทีที่ 81 บาร์ตันปรี่เข้าสอยซิลบาจนหงายเก๋งเลยได้ใบเหลืองตามระเบียบ และอึดใจต่อมาเจ้าบ้านน่าจะตีเสมอได้จากลูกโยนของบาร์ตันที่เฮลกูสันได้โขก แต่บอลลอยไปชนคานทั้งๆที่ผ่านมือฮาร์ทไปแล้ว

ควีนส์พาร์คเปลี่ยนผู้เล่นอีกในนาทีที่ 84 ให้ทอมมี่ สมิธลงไปแทนแม็คกี และถึงนาทีที่ 88 ทีมเยือนก็ใช้งานโคโล่ ตูเร่เป็นตัวสำรองรายสุดท้ายแทนเชโก้

     ผ่านมาถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าบ้านส่งคลินท์ ฮิลล์ลงเล่นเป็นตัวสำรองรายสุดท้ายแทนตราโอเร่ แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จบเกมเรือใบสีฟ้าบุกมาคว้าชัย 3-2 เก็บสามคะแนนสำคัญได้สำเร็จรวมมี 31 แต้มนำจ่าฝูงต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์เป็นที่แน่นอน โดยทิ้งห่างแมนฯ ยู รองจ่าฝูง 5 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ : พาทริค เคนนี่, ดาเนี่ยล แก็บบิดอน, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, อาร์ม็องด์ ตราโอเร่ (คลินท์ ฮิลล์ น.90), ลุค ยัง, อเลฆานโดร ฟัวร์ลิน, โจอี้ บาร์ตัน, ณอน ไรท์-ฟิลลิปส์, เจมี่ แม็คกี (ทอมมี่ สมิธ น.84), ไฮดาร์ เฮลกูสัน, เจย์ โบธรอยด์ (เจสัน พันเชียน น.77)

     สำรองไม่ได้ใช้ : ไบรอัน เมอร์ฟี่, ณอน เดอร์รี่, แบรดลี่ย์ ออร์, บรูโน่ อันดราเด้

     แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, สเตฟาน ซาวิช, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, ไมเกาห์ ริชาร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่ (มาริโอ บาโลเตลลี่ น.75), ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลวา, เจมส์ มิลเนอร์, เอดิน เชโก้ (โคโล ตูเร่ น.88), เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ (อดัม จอห์นสัน น.68)
สำรองไม่ได้ใช้ : คอสเตล พานติลิม่อน, กาเอล กลีชี่, ปาโปล ซาบาเลต้า, ซามีร์ นาสรี่


     ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน

1 member likes this