บททดสอบของจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก "แมนฯ ซิตี้"
หากเมื่อสักต้นฤดูกาลมีแฟนบอลสักคนหนึ่งเผลอพูดออกมาว่าผ่านไปสัก 10 นัดแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะขึ้นนำเป็นจ่าฝูง เดาได้เลยว่าแฟนบอลผู้ใส่เสื้อเรือใบสีฟ้าคนนั้นคงต้องโดนกระแหนะกระแหนว่า “ทะลึ่ง”, “อวดดี” , “ไม่เจียม” ฯลฯ จากแฟนคลับทั้งฝั่งตรงข้าม และไม่ตรงข้ามของเขาเหล่านั้น จริงอยู่ครับที่ “เรือใบสีฟ้า” อาจเสริมทัพได้ค่อนข้างน่าติดตามทีเดียวทั้ง “ซามีร์ นาสรี่” และสุดยอดกองหน้าอย่าง “กุน” แต่หากมองโดยรวมแล้วทั้งในศักยภาพของตัวกุนซือ ทั้งปัญหาภายในและนักเตะหลายรายที่ราคาแพงยิบทั้งนั้น แต่ยังไม่อาจแสดงฝีมือให้ได้สมราคาก็หลายคน จุดบอดนี้เองที่ทำให้ “แมนเชสเตอร์” ที่ไม่ใช่อสูรทีมนี้โดนปรามาศว่าจะทำได้เพียงการลุ้นโควต้ายูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกเท่านั้น
แต่พอมา ณ วันนี้ เอ่อ... พวกเขาขึ้นไปยืนเป็นจ่าฝูงมาก็หลายสัปดาห์แล้ว เอ่อ... แถมไม่ได้นำอันดับสองผู้มีนามว่า “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” แค่เพียงแต้มหรือสองแต้มเท่านั้น แต่ ณ เวลานี้ก่อนเกมวันเสาร์ พวกเขาโกยคะแนนเข้ารังไปแล้วกว่า 31 แต้ม จาก 11 นัด จนทำคะแนนทิ้งห่างอริร่วมเมืองไปแล้ว 5 แต้มเชียวน่ะเออ หรือทิ้งห่างอดีตบิ๊กโฟว์ตกอับอย่าง ลิเวอร์พูล หรือ อาร์เซนอล ไปแล้วถึง 12 แต้มแล้วครับพี่ท่าน โอ๊ววว.. แม่เจ้า และจะเห็นได้ว่าพวกเขาพลาดท่าเสมอไปเพียงเกมเดียวเท่านั้น ที่เหลือ win win รวด โดยเฉพาะเกมระดับมาสเตอร์พีซอาทิเช่น บุกอัด แมนฯ ยู 6-1, ล่องไปบอมป์ สเปอร์ส 5-1 ที่ไวท์ ฮาร์ทเลน ฯลฯ จนทำให้พวกเขาได้รับการซูฮกจากหลายๆ สื่อ แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือนับจากวันเสาร์นี้เรื่อยไปจนถึงกลางเดือนธันวาคม จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเวลานี้มีคิวต้องทำศึกที่เรียกว่าไม่ธรรมดาแทบทุกนัด แชมป์หรือไม่แชมป์อาจตัดสินกันได้ตรงนี้เลยทีเดียว
โดยเริ่มจากเสาร์นี้ทันที พวกเขามีคิวเจอกับ นิวคาสเซิล ซึ่งแม้จะได้เล่นในแมนเชสเตอร์ แต่เดอะ “ทูน อาร์มี่” ปีนี้ก็มาน่ากลัวเหลือเกินรั้งอันดับ 3 ของลีกอยู่ในขณะนี้แถมยังไม่แพ้ใครน่าไหนอีกด้วย ซึ่งดูแล้วไม่ง่ายแน่ครับ ถัดมากลางสัปดาห์กับเกมยุโรปที่ต้องออกไปเยือน นาโปลี ซึ่งเป็นเกมที่สำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับการชี้ชะตาว่าจะเข้ารอบได้หรือไม่ ซึ่งตรงนี้แหละที่มองว่าหากเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เผลอพลาดท่าแพ้ออกมารับรองได้เลยว่ามีรวนกันให้เห็นแน่นอน
หลังจากเกมยุโรป ก็กลับมายังเกมลีกอีกครั้งโดยในวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน คู่ต่อกรของพวกเขาคือยอดทีมในอดีตนามว่า “ลิเวอร์พูล” ณ แอนฟิลด์ ซึ่งแม้พูดกันตามตรงปีนี้ “หงส์แดง” ก็ไม่ใช่ทีมที่ดูน่ากลัวมากนัก แต่ทีมศักดิ์ศรีค้ำคออย่างนี้คงไม่มีใครยอมใครง่ายๆ แน่
เรื่อยมาอีกวันที่ 30 พฤศจิกายน เป็นเกมลีกคัพ ที่ต้องเจอกับยอดทีมลีลาอย่าง อาร์เซนอล แม้เป็นเกมที่ใหญ่ไม่แพ้กัน แต่มองว่าเป็นรายการเล็กทั้งสองทีมไม่น่าจะเอาชุดใหญ่ห่ำหั่นกันจึงไม่น่าจะมีอะไรให้ต้องกังวลมากนัก และกลับมาอีกในเกมลีกวันที่ 3 ธันวาคม เกมนี้ได้เล่นในรังเจอกับน้องใหม่ นอริช ซึ่งดูแล้วเหมือนจะง่าย แต่ แมนฯ ซิตี้ ก็ทำให้เห็นแล้วว่าพวกเขามักทำเกมง่ายๆ ให้ยุ่งยากได้เช่นกัน
เรื่อยมาอีกวันที่ 8 ธันวาคม เป็นเกมนัดสุดท้ายในยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกกับ บาเยิร์น มิวนิค ก็ยังเป็นอีกเกมที่ค่อนข้างหนักสำหรับเจ้าถิ่น สุดท้ายกับอีก 2 เกมที่หฤโหดหรรษาน่าดูชมทีเดียว ในเกมลีกวันที่ 13 และ 18 ธันวาคม พวกเขาต้องเจอกับ 2 ยอดทีมจากลอนดอนอย่าง เชลซี และอาร์เซนอล ซึ่งดูแล้วเหนื่อยแน่นอนครับ ทั้ง “สิงห์” และ “ปืน” ทั้ง 2 ทีมนี้มีดีเหลือเกินที่จะมองข้ามจริงๆ
บทสรุปของความหนักหนาสาหัสนี้จะเป็นเช่นไรยังไม่มีใครรู้ แต่ที่ที่แน่ๆ กล้าฟันธงไปเลยครับว่า แมนฯ ซิตี้ จะไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ทุกเกมที่ว่ามาแน่นอน แถมน่าจะมีการปราชัยพ่วงท้ายมาด้วยอีกต่างหาก ซึ่งตรงนี้หาก “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” สามารถฝ่าฟันความโหดร้ายนี้ไปได้อย่างเป็นที่น่าพอใจแล้วล่ะก็ คงไม่มีมนุษย์หน้าไหนอีกแล้วครับที่จะไปบอกว่าพวกเขาไม่มีดีพอที่จะลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่หากพวกเขาดัน “ทะลึ่ง”, ดัน “อวดดี” หรือดัน “ไม่เจียม” เก็บชัยชนะได้ทุกนัดที่ว่ามา ก็ต้องขอบอก ณ ที่นี้อีกเช่นกันว่า “ตัวใครตัวมัน” ล่ะครับพี่ท่าน
....จากนายบ้าบอล
Tags:
แต่กลับตรงกันข้าม แมนฯ ซิตี้ยุดนี้ เล่นเอาจริงทุกนัด ผมว่าต้องทำได้ และชนะได้ทุกนัด แน่นอนครับท่าน
เห็นด้วยครับพีี่ ทีมเราเล่นกันเปนทีมแล้ว เรื่องใจไม่ต้องบอกแล้วมั้ง
555
ถ้าPSIชัดล้านเปอร์เซนต์
แมนฯซืตี้ก็ชนะรวดล้านเปอร์เซนต์เหมือนกัน
ขอให้ใส่ใจนัดที่เจอกับ นาโปลีที่สุดครับ เพราะเป็นหนทางสู่ ucl
ส่วนเกมพรีเมียย์ พอลดหย่อนได้ครับเพื่อเก็บ ฟิต นักเตะ
....ใช่ครับ ถ้าเราเก็บ 3 แต้มจากนาโปลีได้ ก็ผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์แน่นอน...
..และผลที่จะตามมาก็คือความฮึกเหิมเต็มที่ จะมีผลไปถึงชัยชนะต่อเนื่องในพรีเมียร์ลีกด้วย...
...แต่ถ้าไม่ผ่านนาโปลี เราอาจหมดใจที่จะเล่นกับลิเวอร์พูล อาจสะดุดทำแต้มหล่นได้...
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by