"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ยังเฉียบขาดเปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม ถล่ม "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช แบบสุดมัน 5-1 เก็บอีกสามคะแนนพร้อมยังนำจ่าฝูงต่อไปอย่างเหนียวแน่น ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2554
แมนฯ ซิตี้ 5-1 นอริช

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม


         โจ ลีออน เลสค็อตต์ และ เจมส์ มิลเนอร์ เป็นแค่สำรองของ แมนฯ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงที่เปลี่ยนแปลงสองจุดจากชุดที่เสมอ ลิเวอร์พูล ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด โดย โคโล ตูเร่ กับ เอดิน เชโก้ ได้โอกาส ขณะที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ พ้นแบนกลับมาเป็นสำรอง 


         ด้าน น้องใหม่ นอริช เปลี่ยนสองตำแหน่งจากทีมชุดล่าสุด โดย ไคล์ นอห์ตัน ยืนแบ๊กขวาแทน ริทชี่ เดอ เลต และ เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์ แทน ซิเมี่ยน แจ็คสัน ที่ถูกดร็อปเป็นแค่สำรอง 


         เปิดฉากแค่นาทีกว่า เจ้าบ้านทักทายทันทีเมื่อ เอดิน เชโก้ หาช่องสับไกจากหน้ากรอบเขตโทษ 25 หลา ลูกพุ่งหลุดเสาไปอย่างน่าหวาดเสียว ก่อนที่สองนาทีต่อมา นอริช จะตอบโต้บ้าง โดย แบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน วอลเล่ย์ลักไก่เต็มแรง ทว่าไม่ตรงกรอบ


         เกมส่วนใหญ่เป็นของจ่าฝูง แต่หวิดช็อกเหมือนกันในนาทีที่ 10 เมื่อกองหลังไม่เข้าใจกันเลยชนกันเอง ปล่อยให้ สตีฟ มอริสัน หลุดเดี่ยวจากครึ่งสนาม ทว่าหอกหัวเกหม่งแตะยาวเกินไปเลยโดน โจ ฮาร์ท บล็อกไว้ได้


         แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีต่อมา จากจังหวะที่ กุน หลุดเข้าไปหวดในกรอบเขตโทษด้านขวา เดือดร้อน จอห์น รัดดี้ ต้องทุบออกมา ก่อนถูกกองหลังสกัดพ้นอันตราย


         นาทีที่ 15 เรือใบสีฟ้า น่าได้สุดๆ เมื่อ ซามีร์ นาสรี่ พาบอลถึงเส้นหลังด้านขวาแล้วบรรจงเปิดเข้ากลางมี กุน กระโดดเข้ามาแปเน้นๆ ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย 


         เจ้าบ้านเร่งเครื่อง แต่ยังเจาะไม่เข้า กระทั่งนาทีที่ 32 เสียงเชียร์แฟนๆ เจ้าบ้านก็ดังกระหึ่มเมื่อ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ พาบอลถึงเส้นหลังด้านขวาแล้วตบเข้ากลางให้ กุน ที่หันหลังให้ประตูพลิกหลบฝูงกองหลังทีมเยือน ก่อนล็อคหลอกจนหัวทิ่มแล้วจิ้มลอดหว่างขาคู่ต่อสู้ถึงสองรายเสียบมุมสุดยอด


         สกอร์ หวิดไหล อีกสองนาทีต่อมา แมนฯ ซิตี้ ต่อบอลขึ้นมาก่อนที่ นาสรี่ จะกระแทกจากด้านขวาไปเสาสองให้ กุน วิ่งมาปั่นโค้งข้ามคาน จากนั้น เกมของเจ้าถิ่นยังเหนือกว่ามาก แต่ยังเพิ่มสกอร์ไม่ได้ จบครึ่งแรก เรือใบสีฟ้า นำแค่ 1-0


         กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้สอง นาที นกขมิ้นเหลืองอ่อน ได้ลุ้นเล็กๆ เมื่อ เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์ หลุดเข้าไปแตะหลบ ฮาร์ท แต่มุมแคบเกินเลยตวัดผ่านหน้าประตูไปไม่มีใครเข้าชาร์จ


         นาที ที่ 51 แมนฯ ซิตี้ หนีเป็น 2-0 เมื่อได้ฟรีคิกเกือบ 40 หลาเยื้องทางซ้าย นาสรี่ อาสาเปิดโค้งไปหน้าประตูบอลตกพื้น แต่กองหลังกับนายประตู รัดดี้ ไม่เข้าใจกันเลยเด้งเข้าประตูไปซะอย่างนั้น 


         จ่าฝูง เล่นสบายๆ หวิดบวกประตูเพิ่มอีกในนาทีที่ 57 โดย ดาบิด ซิลบา สับไกหน้ากรอบเขตโทษติด รัดดี้ ก่อนมี กุน ปรี่เข้าซ้ำมุมแคบติดมืออดีตนายทวาร เอฟเวอร์ตัน อีก


         เข้า สู่นาทีที่ 68 เจ้าบ้านหนีไกล 3-0 เมื่อ ซิลบา ได้บอลทางซ้ายก่อนจ่ายให้ ยาย่า ตูเร่ ที่เติมขึ้นมาจับแล้วปั่นโค้งเสียบเสาสองเด็ดขาด ก่อนที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ จะถอด นาสรี่ ไปเก็บโดยส่ง อดัม จอห์นสัน ลงแทน 


         นาทีที่ 72 มันชินี่ เก็บ อเกวโร่ กุน ไว้ใช้งานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยส่ง ซูเปอร์มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงป่วนแทน 


         นาทีที่81 ทีมเยือน นอริช ได้ประตูตีไข่แตกปลุกความหวังจากการลอยโหม่งของ สตีฟ มอริสัน ไล่ประตูตามมาเป็น 1-3


         อย่าง ไรก็ตาม เจ้าบ้านเรือใบสีฟ้า ก็มาได้ประตูเพิ่มอีก จากการยิงของ มาริโอ บาโลเตลลี่ โดยในจังหวะแรกบอลไปติดเซฟของ จอห์น รัดดี้ ประตู นอริช แต่บอลก็ลอยมาเข้าทางของ ซูเปอร์มาริโอ ที่ยืนอยู่หน้าประตูโล่ง ก่อนหัวหอกผิวสี จะใช้ตัวสะบัดส่งบอลตุงตาข่ายไปอย่างน่าหมั่นไส้ ให้แมนฯซิตี้ นำโด่ง 4-1 ก่อนนาทีสุดท้าย  อดัม จอห์นสัน จะกดประตูเพิ่มให้ ทีมเรือใบสีฟ้า นำห่างไปอีก 5-1


         ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมการแข่งขัน แมนฯ ซิตี้ ชนะสบายๆ 5-1 นำเป็นจ่าฝูงต่อไปอย่างเหนียวแน่น 
 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

 แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โคโล ตูเร่, กาแอล กลิชี่, ดาบิด ซิลบา, ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, ซามีร์ นาสรี่, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", เอดิน เชโก้

 สำรอง : คอสเทล ปานติลิมอน, โจลีออน เลสค็อตต์, เจมส์ มิลเนอร์, อดัม จอห์นสัน, สเตฟาน ซาวิช, ไนเจล เด ยองกฺ์, มาริโอ บาโลเตลลี่

 นอริช : จอห์น รัดดี้, ไคล์ นอห์ตัน, รัสเซลล์ มาร์ติน, ลีออน บาร์เน็ตต์, มาร์ก เทียร์นี่ย์, เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์, แอนดรูว์ ครอฟต์ส, แบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน, แอนโธนี่ พิลคิงตัน, แอนดรูว์ เซอร์แมน, สตีฟ มอริสัน

 สำรอง : ดีแคลน รัดด์, แซ็ค วิทเบรด, แกร้นท์ โฮลต์, ซิเมี่ยน แจ็คสัน, เวสลี่ย์ ฮูลาฮาน, เดวิด ฟ็อกซ์, อารอน วิลบราแฮม

 ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

สรุปผลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
นิวคาสเซิ่ล แพ้ เชลซี  0-3
แบล็คเบิร์น ชนะ สวอนซี 4-2
แมนฯ ซิตี้ ชนะ นอริช ซิตี้ 5-1
ควีนส์ปาร์ค เสมอ เวสต์บรอมวิช 1-1
สเปอร์ส ชนะ โบลตัน 3-0
วีแกน แพ้ อาร์เซน่อล 0-4