Members

ซิลบา นำชัยให้เรือใบ จนเวนเกอร์ยกธงขาว



     เกมพรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมตช์ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม จบลงด้วยชัยชนะของขุนพล ''เรือใบสีฟ้า'' แมนฯ ซิตี้ ที่จัดการเฉือนชนะ อาร์เซน่อล ไปแบบฉิวเฉียด 1-0 จากประตูชัยของ ดาบิด ซิลบา ในครึ่งหลังพร้อมกับเก็บ 3 แต้มสำคัญช่วยให้ทีมกลับไปนั่งบัลลังก์จ่าฝูงอีกครั้ง ขณะที่ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำเอา อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม ''ปืนใหญ่'' ถึงกับยกธงขาวกันเลยทีเดียว
 

  
        หลังจากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมืองลงแข่งคู่แรกในช่วงหัวค่ำพร้อมกับบุกไปคว้าชัยเหนือ ควีนส์ปาร์ค ไปได้แบบสะดวกโยธิน 2-0 มันกลายเป็นแรงกดดันอันหนักอึ้งสำหรับ แมนฯ ซิตี้ ที่จะต้องคว้าชัยเหนือ อาร์เซน่อล ในเกมบิ๊กแมตช์ ซูเปอร์ซันเดย์ ให้ได้ในการทวงตำแหน่งจ่าฝูงกลับคืนมาก่อนที่ทีมจะย่างกลายเข้าสู่ช่วงเทศกาลบ็อกซิ่งเดย์อย่างเต็มรูปแบบ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ ''เรือใบ'' จัดการปรับทัพ 3 ตำแหน่งจากความปราชัยนัดแรกในพรีเมียร์ลีกต่อ เชลซี 1-2 ในนัดที่แล้วด้วยการส่ง โคโล ตูเร่ และ ซามีร์ นาสรี่ สองอดีตเด็กเก่าของ ''ปืนใหญ่'' พร้อมด้วย ปาโบล ซาบาเลต้า ลงมาแทนที่ โจลีออน เลสค็อตต์, เจมส์ มิลเนอร์ และ กาแอล กลิชี่ ผิดกับ อาร์เซน่อล ที่ยึดชุดเดิมจากเกมเฉือนเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 เมื่อสัปดาห์ก่อนลงเย่อยกชุด 

 

  
        รูปเกมเป็นไปอย่างสนุกตื่นเต้นชนิดที่ตาห้ามกะพริบ เมื่อทั้งสองทีมต่างเปิดเกมรุกเข้าใส่กันชนิดใครดีใครอยู่โดยถึงแม้ว่าตามหน้าเสื่อ แมนฯ ซิตี้ จะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งกว่า ทว่า อาร์เซน่อล ที่กำลังอยู่ในฟอร์มอันร้อนแรงและมั่นใจเต็มเปี่ยมก็ตอบโต้ได้อย่างไม่เป็นรอง อย่างไรก็ดีด้วยความเด็ดขาดของ แมนฯ ซิตี้ ที่มีมากกว่ามันกลายเป็นจุดชี้ขาดที่ตัดสินผลแพ้-ชนะในเกมนี้จากประตูชัยในช่วงต้นครึ่งหลังของ ดาบิด ซิลบา ดาวเตะทีมชาติสเปนที่ซัดประตูที่ 6 ในฤดูกาลนี้ช่วยให้ทีม ''เรือใบ'' คว้า 3 แต้มสำคัญไปได้พร้อมกับช่วยให้ทีมกลับขึ้นรั้งบัลลังก์จ่าฝูงอีกครั้งด้วยการมี 41 คะแนนนำหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด 2 แต้ม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 82 ปีที่ แมนฯ ซิตี้ นำเป็นจ่าฝูงในช่วงเข้าสู่เทศกาลบ็อกซิ่งเดย์หลังจากทำได้ครั้งสุดท้ายในปี 1929



 
ซามีร์ นาสรี่ (ซ้าย) ทำผลงานได้ดีเมื่อเจอทีมเก่า


  
        ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่โชคดีไม่น้อยที่ อาร์เซน่อล เดินออกจากสนามด้วยการที่มีผู้เล่นครบ 11 คน เนื่องจาก อเล็กซานเดอร์ ซง คือนักตะที่หมิ่นเหม่ต่อการโดนใบแดงไล่ออกจากสนามมากที่สุดคนหนึ่ง ฟิล ดาวด์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ตัดสินใจให้ใบเหลืองแก่ ซง ในจังหวะทำฟาวล์ ดาบิด ซิลบา ก่อนที่ช่วงเวลาต่อมาแฟนบอล ''เดอะ กันเนอร์ส'' จะออกอาการใจหายวาบเมื่อ ซง ไปทำฟาวล์ ยาย่า ตูเร่ แต่เชิ้ตดำวัย 48 ปียังมีความปรานีเรียกมาตักเตือนเท่านั้น ชัยชนะในเกมนี้ทำให้ทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ แซงกลับไปรั้งจ่าฝูงอีกครั้งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญยิ่งของฤดูกาลก่อนจะเข้าสู่เทศกาลบ็อกซิ่งเดซอย่างเต็มรูปแบบที่จะต้องลงเล่นในโปรแกรมสุดโหด 4 นัดใน 14 วัน 


 

  
        หลังเกมการแข่งขัน โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี้ ได้ออกมาชื่นชมผลงานของลูกทีมที่สามารถลบเลือนความผิดหวังจากการพ่าย เชลซี เมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยการคว้าชัยชนะในบิ๊กแมตช์เหนือ อาร์เซน่อล ได้สำเร็จ ''ผมคิดว่าเราสมควรเป็นผู้ชนะในเกมนี้หากมองจากโอกาสที่สมควรจะได้ประตูและ ซิลบา ก็ยิงประตูที่สำคัญพาเรากลับไปอยู่ตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้ง พวกเราทุกคนรู้สึกมีความสุขมาก เพราะหลังจากความพ่ายแพ้ต่อ เชลซี สิ่งที่เราต้องพยายามก็คือการเอาชนะ อาร์เซน่อล ให้ได้เพื่อกลับไปอยู่บนตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้ง เรารู้ดีว่า อาร์เซน่อล คือทีมที่แข็งแกร่งแต่หากเราต้องการคว้าแชมป์เราจำเป็นต้องทีมที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ไปให้ได้ เรารู้ดีว่าบางครั้งเราก็ต้องหล่นมาอยู่อันดับสองหรือสามในบางเวลา เพราะคู่แข่งอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด หรือแม้แต่ สเปอร์ส ต่างก็ทำผลงานได้ดีแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการที่เราได้กลับมายืนอยู่ในจุดสูงสุดของตารางอีกครั้ง''


 
อาร์แซน เวนเกอร์ (ขวา) ไม่พอใจผลงานลูกทีม "ปืนใหญ่" ของตน ที่ทำให้เหมือนหมดลุ้นแชมป์ลีกไปแล้ว


  
        ทางด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ อาร์เซน่อล ออกมาประกาศยกธงขาวไม่ขอลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดแดนผู้ดีอีกต่อไป เพราะการพ่ายแพ้นัดนี้ทำให้ทีม ''ปืนใหญ่'' ถูกทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ หนีห่างไปเป็น 12 แต้มเข้าให้แล้ว ''เป็นโชคไม่ดีสำหรับเรา ที่มันเป็นเกมซึ่งเราไม่สามารถแพ้ได้ เพราะมันทำให้เราอยู่ห่างจาก แมนฯ ซิตี้ มากจนเกินไป ถ้าเราชนะเกมนี้ เราก็จะอยู่ห่างเพียง 6 แต้ม และเมื่อนับรวมกับที่นักเตะหลายคนของเราอย่างในตำแหน่งฟูลแบ็ก รวมถึง (แจ็ค) วิลเชียร์ กับ (อาบู) ดิยาบี้ จะกลับมาลงเล่นได้ด้วยนั้น ทำให้เราจะมีทีมที่ดีกว่าเดิมสำหรับการลงเล่นในครึ่งหลังของซีซั่นอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เราอยู่ห่างมากเกินไป''


 

  
        ''ผมคิดว่า มันสามารถออกได้ทั้ง 2 หน้า อีกทั้งเป็นเกมที่เข้มข้นสุดๆ ทั้ง 2 ทีมต่างมุ่งมั่นเก็บชัยให้ได้อย่างเต็มที่ และผมรู้สึกเช่นกันว่า เราโชคไม่ดีเท่าไหร่นัก ผู้รักษาประตูของพวกเขามีเกมที่ดี และเราโชคร้ายนิดหน่อยด้วย เพราะความจริงแล้ว เราต้องสับเปลี่ยนแผงหลังทั้งหมด ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่เราก็ขาดแคลนพอตัวอยู่แล้ว โดยรวมแล้ว ในตอนพักครึ่ง ผมรู้สึกได้ว่า ถ้าเรายังรักษาความมั่นคงในแนวหลังไว้ได้ เราก็น่าจะชนะเกมนี้ อีกทั้งเรายังขาดความแม่นยำไปเล็กน้อยในจังหวะสุดท้ายของระยะก่อนการทำประตูด้วย เพราะเรามีโอกาสน้อยเกินไป ซึ่งมันมาจากการที่เราผ่านบอลกันไม่ดีนัก แต่เมื่อมองในภาพรวม เราก็มีผลงานในแง่บวก, มีสปิริตที่ยอดเยี่ยม และยังมีคุณภาพที่ดีอยู่ แต่เราขาดสิ่งที่สำคัญในเกมใหญ่ๆไป''




         

ลิ้ม ทรนง

สถิติหลังเกมของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้   อาร์เซน่อล
15 จังหวะยิง  14
6 ตรงกรอบ  6
9 ไม่ตรงกรอบ  8
14 ฟาวล์  11
4 เตะมุม  6
2 ล้ำหน้า  3
2 ใบเหลือง  3
0 ใบแดง  0
47% เปอร์เซ็นต์การครองบอล 53%
 
คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม (โกล ดอต คอม)
 แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 8, ไมกาห์ ริชาร์ดส์ 7, แว็งซ็องต์ ก็องปานี 7, โคโล ตูเร่ 6, ปาโบล ซาบาเลต้า 7, ยาย่า ตูเร่ 6, แกเร็ธ แบร์รี่ 7, ดาบิด ซิลบา 7, เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' 6, ซามีร์ นาสรี่ 7, มาริโอ บาโลเตลลี่ 8
 อาร์เซน่อล : วอยเซียค เชสนี่ 7, โยฮัน ฌูรู 6, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ 6, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์ 5, โธมัส แฟร์มาเล่น 6, อเล็กซ์ ซง, ธีโอ วัลค็อตต์ 5, มิเคล อาร์เตต้า 6, อารอน แรมซี่ย์ 6, แชร์วินโญ่ 6, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 6
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : มาริโอ บาโลเตลลี่ (แมนฯ ซิตี้)

Views: 329

Reply to This

Replies to This Discussion

แมนซิตี้ เก่งที่สุด ^^

ถั่วต้มจ้า ถั่วต้ม อิๆๆๆๆ

กุน น่าได้ 7 แต้ม เพราะถ้ากุนไม่โหม่ง ซิลบาก็ไม่ได้ยิง

สมองกล..ต้องซิลบา...555 นายแน่มาก+++

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.