การพ่ายให้กับซันเดอร์แลนด์ ถือเป็นบทเรียนราคาแพงทีเดียว สำหรับทีมลุ้นแชมป์มือใหม่อย่างแมนฯซิตี้
เรียกว่าโอกาสทองมาแล้ว แต่ทีมของโรแบร์โต้ มันชินี่กลับปล่อยให้หลุดลอยไปเอง ซึ่งทำให้การลุ้นแชมป์ยังเปิดกว้างอยู่ หลังจากที่แมนฯยูพลาดท่าคาบ้าน ให้กับทีมท้ายตารางอย่างแบล็คเบิร์นแบบคาดไม่ถึงไปก่อนหน้านี้ ใครๆก็มองกันว่าเป็นโอกาสทองของแมนฯซิตี้แล้ว ในการที่จะทำคะแนนทิ้งทีมคู่ปรับออกไปให้ได้อีกครั้ง
แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทำได้ไม่สำเร็จ ซึ่งส่วนหนึ่งผมว่าน่าจะเป็นเพราะ พวกเขายังใหม่อยู่กับสถานการณ์ลุ้นแชมป์ลีกแบบนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในช่วงเวลานี้ ที่การแข่งขันเป็นไปอย่างแออัดเหลือเกิน
และด้วยโปรแกรมที่แน่นขนัดนี่เอง ที่ผมว่าน่าจะเป็นตัวแปรอันสำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้มันชินี่ต้องเกิดอาการลังเล กับการจัดตัวผู้เล่นของเขาในเกมกับซันเดอร์แลนด์
เนื่องจากในคืนวันอังคารนี้ ทีมของเขามีโปรแกรมที่ดูจะหนักกว่ากับลิเวอร์พูลรออยู่
เรื่องของการมองข้ามช็อตนี่แหละครับ ที่ทำให้บรรดาทีมที่กำลังลุ้นแชมป์ต้องพังไม่เป็นท่ากันมาแล้วหลายราย โดยเฉพาะกับทีมที่ได้ชื่อว่าเป็นมือใหม่อยู่อย่าง แมนฯซิตี้
อย่างที่รู้กันอยู่ว่าทีมเรือใบห่างเหินจากแชมป์ลีกมา แล้วกว่า40ปี และในช่วงหลัง เราก็ไม่เคยเห็นพวกเขา ขึ้นมาอยู่ในกลุ่มที่จะเบียดลุ้นแชมป์กับเขาเลย
และถ้าไปเทียบกับทีมคู่แข่งอย่างแมนฯยูในเรื่องนี้ด้วยแล้ว ก็จะเห็นว่าทีมของมันชินี่เป็นรองอยู่มาก ดังนั้นการไปพลาดท่าให้กับซันเดอร์แลนด์ในครั้งนี้ จึงถือเป็นบทเรียนที่สำคัญมากๆ
แต่ถ้ามองในแง่ดี การพลาดในช่วงที่การชิงชัย เพิ่งจะผ่านไปได้เพียงครึ่งทางอย่างนี้ น่าจะมีประโยชน์กับพวกเขาบ้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะเรียนรู้จากบทเรียนนี้ ได้มากน้อยขนาดไหน?
ดูแล้วแมนฯซิตี้คงจะต้องดวลกับแชมป์เก่าอย่างแมนฯยูแบบถึงพริ งถึงขิงแน่ในฤดูกาลนี้ ทั้งในส่วนของการแย่งชิงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก
และในบอลถ้วยอย่างเอฟเอคัพ ซึ่งทั้งคู่จะดวลกันในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้!No.10