ยูไนเต็ด 3 - ซิตี้ 2
คอมมิวนิตี้ ชิลด์
สนาม เวมบลีย์
7 สิงหาคม 2011
หลายปีหลัง เกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ มักถูกใช้เป็นเกมอุ่นเครื่องครั้งสุดท้าย เพื่อเรียกความฟิตนักเตะก่อนฤดูกาลจริงจะเริ่มต้น แต่สำหรับฤดูกาลนี้ ด้วยความที่เป็นเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ทำให้ทั้งสองทีมจำเป็นต้องจัดทัพชุดที่ดีที่สุดลงสนาม
โจลี ออน เลสค็อตต์ โหม่งประตูให้ ซิตี้ ขึ้นนำในครึ่งแรก เท่านั้นไม่พอ เอดิน เชโก้ ยังตะบันระยะ 30 หลาอย่างสุดสวย ทำให้ เรือใบ ทะยานนำห่าง พร้อมกับตั้งคำถามไปที่ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูคนใหม่เอี่ยมอ่องของ ยูไนเต็ด ว่าพร้อมหรือยังสำหรับการเฝ้าเสาในระดับนี้
แม้จะ เป็นเกมการกุศล แต่ ยูไนเต็ด ก็กลับมาเอาจริงในครึ่งหลัง คริส สมอลลิ่ง ยิงไล่มาจากการเติมขึ้นไปเล่นลูกฟรีคิก ก่อนที่ นานี่ จะโชว์เหนือชั้นหลุดเข้าไปชิพเสียบใต้คาน หลังต่อบอลกันมาเนียนๆ หลายทอด และในช่วงทดเจ็บ นานี่ ก็ปั๊มบอลจากจังหวะสวนกลับแล้วหลุดเดี่ยวเข้าไปล็อกหลบ โจ ฮาร์ท ทำประตูชัยแบบไม่ให้ ซิตี้ ได้แก้ตัว
ยูไนเต็ด 1 - ซิตี้ 6
พรีเมียร์ลีก
สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
23 ตุลาคม 2011
ถือ เป็นเกมที่พิสูจน์ว่า ซิตี้ เป็นของจริงหรือของปลอมในฤดูกาลนี้ เพราะเพิ่งเป็นเกมที่ 9 ของฤดูกาล โดย เรือใบสีฟ้า มีแต้มเหนือกว่า ปีศาจแดง อยู่ 2 แต้ม ดังนั้นถ้าทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าชัยได้ก็จะแซงกลับขึ้นเป็นจ่าฝูงทันที
มาริโอ บาโลเตลลี่ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เรือใบสีฟ้า ทีมนี้ของจริง เมื่อยิงขึ้นนำในครึ่งแรก พร้อมกับถลกเสื้อฉลองประตูด้วยข้อความ "Why Always Me" จากนั้นครึ่งหลัง "ซูเปอร์มาริโอ" ก็กดอีกหนึ่งประตู บวกกับ เซร์คิโอ อเกวโร่, ดาบิด ซิลบา และอีกสองลูกจาก เอดิน เชโก้ ขณะที่เจ้าบ้านแก้คืนได้ประตูเดียวจาก ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ถือเป็นความพ่ายแพ้ยับเยินที่สุดในเกมดาร์บี้แมตช์ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วย
ที่สำคัญยังทำให้ ซิตี้ โกยแต้มฉีกหนี ยูไนเต็ด ไปเป็น 5 คะแนน ความฝันในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรกเริ่มสว่างขึ้นมาทุกทีแล้ว
ยูไนเต็ด 4 - ซิตี้ 3
พรีเมียร์ลีก
สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
20 กันยายน 2009
เป็น แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์เกมแรกของฤดูกาล 2009-10 ซึ่งเวลานั้น ซิตี้ ยังคุมทีมโดย มาร์ค ฮิวจ์ส อดีตลูกศิษย์ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาในช่วงต้นทศวรรษที่ 90
ดู เหมือนจะเป็นเกมง่ายของ ยูไนเต็ด อยู่แล้ว เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ยิงประตูขึ้นนำตั้งแต่ 2 นาทีแรก แต่จากความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ของ เบน ฟอสเตอร์ ก็ทำให้ แกเร็ธ แบร์รี่ ยิงตีเสมอได้ในครึ่งแรก
กลับ มาเล่นครึ่งหลัง ยูไนเต็ด ยังนำเร็วเหมือนเดิมจาก ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ แต่ก็โดน ซิตี้ ตีคืนเร็วเช่นกันจาก เคร็ก เบลลามี่ ทำให้แฟนบอลปีศาจแดงต้องกลับมาอึดอัด หายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้ง จนกระทั่งช่วง 10 นาทีสุดท้าย เฟล็ทเชอร์ คนเดิม ทำให้ ยูไนเต็ด ออกนำเป็นหนที่สาม แต่นาทีสุดท้าย เบลลามี่ ก็กลายเป็นตัวแสบอีก ยิงตีเสมอเป็นหนที่สามเช่นกัน
ทว่าช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่ เกินออกไป ไมเคิ่ล โอเว่น ก็กลายเป็นตัวสำรองฮีโร่ของ ยูไนเต็ด เมื่อเช็กไลน์ล้ำหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะสังหารผ่าน เชย์ กิฟเว่น เป็นประตูชัยแบบหืดจับให้ ยูไนเต็ด
ซิตี้ 1 - ยูไนเต็ด 0
เอฟเอ คัพ
สนาม เวมบลีย์
16 เมษายน 2011
มี สี่ทีมจากพรีเมียร์ลีกหลุดรอดเข้ามาตัดเชือกในเอฟเอ คัพ ฤดูกาลที่แล้ว คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, โบลตัน วันเดอเรอร์ส และ สโต๊ค ซิตี้ ซึ่งดูแล้วใครๆ ต่างก็อยากเห็นคู่ชิงชนะเลิศเป็นสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ โคจรมาพบกัน
แต่ ผลการจับสลากกลับไม่ออกมาอย่างที่หวัง ทำให้ แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ต้องเกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศ ที่ เวมบลีย์ ซึ่งถือเป็นรายการเดียวของ เรือใบสีฟ้า ที่ได้ลุ้นในฤดูกาล 2010-11 ด้วย
ความผิดพลาด ครั้งเดียวของ ไมเคิ่ล คาร์ริค ทำให้ ยาย่า ตูเร่ หลุดเข้าไปยิงผ่าน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ในช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่งประตูแรกและประตูเดียวทำให้รูปเกมตกเป็นของ เรือใบสีฟ้า อย่างไม่ยากเย็นหลังจากนั้น แถม พอล สโคลส์ ตัวเก๋าของ ยูไนเต็ด ยังมาโดนใบแดงจากจังหวะยกเท้ายัน ปาโบล ซาบาเลต้า ด้วย ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือ ซิตี้ แทบไม่ต้องออกแรงเหนื่อย
ยูไนเต็ด 2 - ซิตี้ 1
พรีเมียร์ลีก
สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
12 กุมภาพันธ์ 2011
สถานการณ์ ของ ยูไนเต็ด ในเวลานั้นค่อนข้างสบายใจหายห่วง เพราะนำเป็นจ่าฝูงของตารางแบบชัดเจน ขณะที่ ซิตี้ คงทำดีที่สุดเพียงการรักษาอันดับเพื่อโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้เท่านั้นก็น่าจะพอใจแล้ว
จากรูปเกมที่สูสีในครึ่ง เวลาแรก นานี่ ก็มาซัลโวประตูขึ้นนำในช่วงท้าย ทำให้ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ดีขึ้น และน่าจะกลับมาเล่นง่ายขึ้นเยอะในครึ่งหลัง แต่รูปเกมกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อ ซิตี้ กลับมาตามตีเสมอได้สำเร็จเมื่อเอดิน เชโก้ ยิงไปแฉลบหลัง ดาบิด ซิลบา เปลี่ยนทางตุงตาข่ายทำให้สถานการณ์ของทั้งสองทีมกลับมาตึงเครียดและสูสีกัน มากขึ้น
แต่ ยูไนเต็ด ก็มาแสดงให้เห็นถึงความเป็นแชมเปี้ยน เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ จัดการตีลังกายิงลูกเปิดแฉลบของ นานี่ เสียบใต้คานเข้าไปอย่างงามหยด นอกจากจะเป็นประตูสุดสวยที่ส่งประกวดได้แบบไม่อายใครแล้ว ยังเป็นชัยชนะที่ทำให้ ปีศาจแดง แทบจะการันตีแชมป์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ด้วยซ้ำ
บทสรุปเกม "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้" ในศึกเอฟเอ คัพ ที่เอติฮัด สเตเดี้ยมวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคมนี้จะออกมารูปแบบไหนต้องติดตามเชียร์กันในเวลา 20.00 น.ห้ามพลาดเด็ดขาด!