Members

เรือยื้อแต้ม!ไล่เสมอสโต๊ค1-1นำฝูงแต้มเท่าผี

เรือยื้อแต้ม!ไล่เสมอสโต๊ค1-1นำฝูงแต้มเท่าผี



-
        ยาย่า ตูเร่ ซัดไกลสุดสวยช่วย "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ยิงตามตีเสมอ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี้ เจ้าถิ่นไปแบบหืดขึ้นคอ 1-1 เก็บได้เพียงแต้มขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราวโดยมีแต้มเท่า แมนฯ ยูไนเต็ดที่ 70 คะแนน แต่เรือใบแข่งมากกว่า 1 นัด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา

 

 

 

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2555
สโต๊ค ซิตี้ 1     -     1 แมนฯ ซิตี้


สนาม : บริทานเนีย


        เกมนี้ สโต๊ค ซิตี้ ไม่มีซาลิฟ ดิเยา ที่เจ็บจากเกมนัดล่าสุดที่เสมอกับ สเปอร์ส 1-1 ทำให้แดนกลางต้องส่งดีน ไวท์เฮด ลงเล่นแทน ส่วนคู่หน้ายังเป็นปีเตอร์ เคร้าช์ จับคู่กับโจนาธาน วอลเตอร์ส


        ด้านทีมเยือน "เรือใบสีฟ้า" ยังไม่มีแว็งซ็องต์ ก็องปานี และโจลีออน เลสค็อตต์ ทำให้ยังต้องใช้โคโล่ ตูเร่ คู่กับ ไมก้าห์ ริชาร์ดส เช่นเดิม โดยคู่หน้าเป็น เอดิน เชโก้ จับคู่กับมาริโอ บาโลเตลลี่


        เกมในช่วงต้นยังค่อนข้างสูสี และเป็นเจ้าบ้านที่ได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 13 จากลูกฟรีคิกที่มาร์ก วิลสัน โยนไปหน้าประตูให้ เคร้าช์ โหม่งเช็ดต่อไปหาประตู เป็นเจอโรม ที่ยืนอยู่โล่งแต่ได้ยิงแต่จังกวะไม่ดีบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย


        รูปเกมของทั้งสองทีมยังไม่มีใครเหนือกว่าใครเท่าไรแต่ถึง นาทีที่ 25 เกมต้องชะงักหลัง ไวท์เฮด ปะทะกับซิลบา จนดาวเตะสเปนมีแผลแตกที่หูซ้ายจนต้องปฐมพยาบาลกันครู่ใหญ่ แต่ก้ยังเล่นต่อได้


        นาทีที่ 33 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นจากจังหวะที่กาแอล กลิชี่ ได้บอลก่อนโยนไปที่เสาสองให้เชโก้ โหม่งแต่บอลหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย


        โอกาสเป็นของสโต๊ค ซิตี้ บ้างเมื่อได้ลูกเตะมุมทางขวาเป็น เอเธอริงตัน โยนโค้งเข้าไปให้ประตูบอลตกพิ้นกำลังจะเข้าประตูแต่ซาบาเลต้า เตะทิ้งไปได้ทันเวลา


        ท้ายเกมแมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ บาโลเตลลี่ พาบอลแหวกแผงหลังสโต๊คเข้าไปยิงแปเน้นๆ แต่อัสมีร์ เบโกวิช ทิ้งตัวตะปบได้ ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0


        ครึ่งหลังผ่านมานาทีเดียว ทีมเยือนเกือบสอยตาข่ายได้จากจังหวะที่เชโก้วิ่งเข้าเขตโทษด้านซ้านไปเกี่ยว บอลโด่งลงพื้นได้สวย แต่จังหวะสับไกจากแปดหลาถูกเบโกวิชขยับมาบล็อคได้ทัน


        นาทีที่ 48 นาสรี่ลองส่องไกลดู แต่ยังไม่ผ่านมือเบโกวิชที่พุ่งตะครุบได้


        จากนั้นอีกสามนาที สโต๊คน่าจะได้เฮเช่นกันจากการสาดบอลทางกราบซ้ายเข้าเสาไกลแล้วเจอโรมโหม่ง ตั้งกลับมาให้ไรอัน ชอว์ครอสส์โขกระยะสามหลาถูกโจ ฮาร์ทกางมือบล็อคได้อย่างเฉียดฉิวก่อนที่เจอโรมจะถูกถอดออกให้เจอร์เมน เพนแนนท์ลงไปแทน


        ในที่สุดนาทีที่ 59 กองเชียร์เจ้าบ้านก็ได้กระโดดกันตัวลอยเมื่อเบโกวิชเตะบอลยาวขึ้นฝั่งขวา แล้วเคราช์โขกให้เพนแนนท์ก่อนที่ดาวเตะผิวสีจะโหม่งคืนมา กองหน้าร่างโย่งจึงโชว์ทักษะกระดกบอลหนึ่งจังหวะแล้ววอลเลย์จาก 23 หลาส่งบอลพุ่งปะทะเสาสองอย่างงดงามสุดที่ฮาร์ทจะพุ่งปัดถึง จึงเป็นอันว่าสโต๊คนำหน้า 1-0


        จากนั้นอีกสี่นาที แมนฯ ซิตี้ก็แก้เกมส่งอดัม จอห์นสันลงบู๊แทนซิลบาที่ฟอร์มตกต่อเนื่องมาหลายนัดแล้ว และในนาทีที่ 65 วิลสันก็ได้ใบเหลืองข้อหาเสียบจอห์นสัน


        นาทีที่ 74 ทีมเรือใบจำต้องใช้งานเตเวซอีกหนโดยเปลี่ยนลงไปแทนแบร์รี่ และแค่สองนาทีกลิชี่ก็จ่ายบอลจากกราบซ้ายเข้ากลางให้ยาย่า ตูเร่ตะบันเต็มข้อจาก 30 หลาโดยชอว์ครอสส์พยายามโขกสกัดแล้ว และเบโกวิชพยายามปัดเช่นกัน แต่ด้วยความแรงบอลจึงปะทะตาข่ายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ของทีมเยือน


        หลังจากรูปเกมเริ่มกลับมาเป็นรอง ช่างปั้นหม้อก็เปลี่ยนเอเธอริงตันออกให้วิลสัน ปาลาซิออสลงไปแทนในนาทีที่ 81 ขณะที่ทีมเยือนใช้งานเจมส์ มิลเนอร์แทนที่ซาบาเลต้าในอีกสามนาทีต่อมาโดยย้ายจอห์นสันไปเป็นแบ็คขวา


        ท้ายเกมสโต๊คบุกกดดันทีมเยือนได้ดีก่อนจะส่งเคนวีน โจนส์ลงไปแทนเคราช์ในช่วงทดเวลาเจ็บนาทีที่ 92


        ถัดมาในนาทีที่ 95 ซึ่งเป็นนาทีสุดท้ายของการทดเวลาเจ็บ ยาย่า ตูเร่ก็ได้ใบเหลืองเมื่อถูกเป่าว่าทำฟาวล์แล้วโวยผู้ตัดสิน จบเกมทั้งคู่จึงเสมอกันไป 1-1 ทำให้ทีมเรือใบมีแต้มเท่าแมนฯ ยูไนเต็ด แต่กลับไปนำเป็นจ่าฝูงด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าโดยลงเล่นมากกว่าผี แดงที่มีคิวรอต้อนรับฟูแล่มในวันจันทร์หนึ่งเกม


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


        สโต๊ค ซิตี้ :
อัสมีร์ เบโกวิช, แอนดี้ วิลกินสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, โรเบิร์ต ฮูธ, มาร์ก วิลสัน, คาเมร่อน เจอโรม, เกล็น วีแลน, ดีน ไวท์เฮด, แม็ทธิว เอเธอริงตัน, โจนาธาน วอลเตอร์ส, ปีเตอร์ เคร้าช์

        สำรอง : โธมัส โซเรนเซ่น, เคนวีน โจนส์, เจอร์เมน เพนเนนท์, แม็ทธิว อัพสัน, รอรี่ ดีแล็ป, ไรอัน ชอตตัน, วิลสัน ปาลาซิออส


        แมนฯ ซิตี้ :
โจ ฮาร์ท, ปาโปล ซาบาเลต้า, ไมก้าห์ ริชาร์ดส, โคโล่ ตูเร่, กาเอล กิลชี่, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่, มาริโอ บาโลเตลลี่, เอดิน เชโก้

        สำรอง : คอสเทล พานติลิม่อน, เจมส์ มิลเนอร์, อดัม จอห์นสัน, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, สเตฟ่าน ซาวิช, คาร์ลอส เตเวซ, ไนเจล เด ยองก์


        ผู้ตัดสิน
: ฮาวเวิร์ด เว็บบ์


สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- เชลซี เสมอ สเปอร์ส  0 - 0
- อาร์เซน่อล ชนะ แอสตัน วิลล่า  3 - 0
- โบลตัน ชนะ แบล็คเบิร์น  2 - 1
-  ลิเวอร์พูล แพ้ วีแกน  1 - 2
- นอริช ซิตี้ ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน  2 - 1
- ซันเดอร์แลนด์ ชนะ ควีนส์ปาร์ค  3 - 1
- สวอนซี ซิตี้ แพ้ เอฟเวอร์ตัน  0 - 2
- สโต๊ค ซิตี้ เสมอ แมนฯ ซิตี้  1 - 1







Views: 338

Reply to This

Replies to This Discussion

ครึ่งแรกเล่นดีนะ มีโอกาสแต่ทำไม่ได้ ครึ่งหลังตกไปนิด สดต้กก้อไม่มีอะไรเล่นโหดมาก

อันตรายก้อรอลูกตั้งเตะ ลูกโด่ง สองลูกที่เกิดขึ้นทัั้งสองฝั่ง สวยทั้งสองลูก โดยเแพาะลุกที่ยาย่ายิง ตรีนหลักจริงๆ 555

ปล สงสาร นักเตะ ซิลบา ไมก้า ซาบา ขอให้หายไวไวครับ

ทำดีที่สุดแล้วครับ เราไม่คมเอง

ถึงจะทำได้แค่เสมอ...แต่การได้เหยียบอยู่บนหัวผีในตารางคะแนนก็มีความสุขแล้ว...

การจะได้ "แชมป์พรีเมียร์ลีก" หรือไม่นั้นนอกจากความสามารถแล้วคงต้องฝากความหวังไว้กับ "โชคชะตา" ด้วย...

55555

มันโช่ใจจิ๋มมด เห็นหลายหนแล้ว

มาเร่งเอาตอนโดนนำ ตอนจะหมดเวลา(มันจะฟลุ้คยิงแซงได้กี่ทีเชี้ยว)

แล้วทำไมไม่โหมเข้าทำก่อนตั้งแต่แรก

ทำไมไม่รุกหนักตั้งแต่แรก จะครองบอลเอาชนะคะแนนหาบิดาหรอ?

 

 

 

เห็นไหมคับๆ...ทีมชนะจะไม่มีออกมา....พอทีมเสมอหรือแพ้ถึงจะเห็นๆ...ปลง ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆ

หม้อเล่นโหดมากกลัวนักเตะซิตี้ตายจริงๆ...คนไม่ดูเกมคงไม่รู้ๆๆๆ 

เมื่อวานนึกว่าดูอเมริกันฟุตบอล ชนเอาชนเอา....ถ้าเล่นเน้นกองหน้าเยอะๆ เอาแบบตามไปลุยเลย เดียวมันก็ลงมาเองแหละ เฟลอๆร่วน มีหลุด...มัวแต่ กล้าๆกลัวๆโดนสวนเอายุเรื่อย

พูดได้ว่า..เล่นโหด...แนซิตี้เล่นโหดกะเขาไม่เป็น...ต้องลองให้มันชินี่ฝึกเล่นแบบโหดมั้ง 555

เข้าบอล ติดดาบ รุมแทงตลอดพวกช่างหม้อ เซง

ไอ้พวกหม้อคอนกรีต แม่วเล่นแรงทุกตัว 

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.