Members

View All

โอนูโอฮาลั่นรอฉลองแชมป์เรือแม้คิวพีอาร์ปราชัย

เนดุม โอนูโอฮา ปราการหลังควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ยอมรับ หวังให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายคว้าชัยในเกมที่ทั้งคู่จะพบกันในวันอาทิตย์นี้ และครองแชมป์พรีเมียร์ลีก ขณะเดียวกันก็ลุ้นให้ "ทหารเสือราชินี" เอาตัวรอด ได้เล่นในลีกสูงสุดต่อไป ถึงแม้ว่าจะตกเป็นฝ่ายแพ้ก็ตาม

        เนดุม โอนูโอฮา เซนเตอร์แบ็กควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส น้องใหม่ศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันว่าเกมระหว่าง "ทหารเสือราชินี" กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงร่วมลีก ในวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ค. นี้ อาจจะเป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตค้าแข้งของตน ถ้าหากว่า "เรือใบสีฟ้า" คว้าชัยชนะและแชมป์ลีกได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าต้นสังกัดปัจจุบันอาจจะเสี่ยงต่อการตกชั้นไปเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาลหน้า ก็ตาม

        แมนฯ ซิตี้ จำเป็นต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้เพื่อที่จะก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1968 โดยไม่ต้องรอลุ้นผลการแข่งขันระหว่าง ซันเดอร์แลนด์ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง ในเวลาเดียวกัน ในขณะที่ ควีนส์ปาร์ค ต้องการผลเสมอเป็นอย่างน้อยเพื่อการันตีการอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกต่อไป แต่ว่าถึงจะเป็นฝ่ายปราชัย พวกเขาก็ยังมีสิทธิ์รอดถ้าหากว่า โบลตัน วันเดอเรอร์ส เอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ ไม่สำเร็จ

        โอนูโอฮา ที่เป็นนักเตะเยาวชนของ "เรือใบสีฟ้า" ตั้งแต่ปี 1996-2012 กล่าวว่า "เมื่อได้คิดว่าพวกเขา (แมนฯ ซิตี้) จะคว้าแชมป์ลี และเราจะเอาตัวรอดบน พรีเมียร์ลีก ต่อไป มันคงจะเป็นหนึ่งในวันที่ดีที่สุดในชีวิตนักฟุตบอลของผมเลย แต่แน่นอนว่าการช่วยให้ คิวพีอาร์ ได้เล่นในลีกสูงสุดต่อไปเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมอย่างไม่ต้องสงสัย ตราบใดก็ตามที่เราได้สัมผัสอารมณ์เช่นนั้น เรื่องอื่นๆมันก็เป็นแค่โบนัสสำหรับเรา"

        "เอติฮัด สเตเดี้ยม น่าจะเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกในช่วงสุดสัปดาห์นี้ถ้าพวกเขาคว้า แชมป์ลีกได้และเราไม่ต้องตกชั้น แต่โชคร้ายที่ว่ามันเป็นเพียงหนึ่งในความเป็นไปได้มากมายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ถ้าสิ่งที่ผมคิดเป็นจริง ผมจะร่วมแสดงความยินดีกับนักเตะคิวพีอาร์และแฟนบอลของเราเสียก่อน แล้วค่อยไปชื่นชมกับความสำเร็จของ ซิตี้"

        "ผมไม่คิดว่าผมจะ ได้รับเชิญไปร่วมงานเลี้ยงฉลองถ้าพวกเขาได้แชมป์เนื่องจากผมได้เล่นให้พวก เขาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นในฤดูกาลนี้ แต่มันเป็นเรื่องของ คิวพีอาร์ เท่านั้นในเวลานี้ มันอยู่ในมือของเรา เรารู้ดีว่าไม่สามารถพึ่งพาใครได้ มันจะเป็นเรื่องที่เร้าอารมณ์สำหรับผมเมื่อคิดถึงช่วงเวลาที่ผมอยู่ที่นั่น มาเป็นเวลาหลายปี" ดาวเตะวัย 25 ปี กล่าวทิ้งท้าย

0 members like this