Members

วิจารณ์แทคติกเรือใบสีฟ้านัดคว้าแชมป์ครับ

เศร้าครับ เน็ตค้าง ที่พิมพ์ไว้ในเน็ตหายหมด TT ต้องพิมพ์ใหม่อีกที แต่เอาวะ ซิตี้โดนนำยังไม่ท้อ กลับมาพลิกแซงได้ ผมก็กัดฟันพิมพ์ใหม่อีกทีก็ได้  ขอบอกว่ายาวมากนะครับแบบว่าดีใจสุดๆกับผลงานแมนซิ อิอิ

 

 

ต้องบอกว่านัดเมื่อวานเป็นนัดที่ครบรสชาติครับ มีทุกอย่างที่จำเป็น ทั้งสุข สมหวัง กดดัน น้ำตา และรอยยิ้ม ถ้าเป็นผู้กำกับหนังก็ต้องบอกว่า สุดตรีนครับ สำหรับแฟนแมนซิเรื่องนี้คือจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งแต่ในมุมมองแมนยูคงเป็นหนังที่อยากจะลืมๆมันไปซะไวๆ โดยเฉพาะพวกขาสปอย รีบสปอยเดาหนังก่อนจบ เห็นเลยว่าแหกโค้งกันกี่กระทู้ข้างนอก 55

 


มาว่าถึงแท็คติกนัดนี้ซะหน่อย จากไลน์อัพ11ตัวจริง มันชินี่ยังยึดชุดเดิมที่เอาชนะนิวคาสเซิล บ่งบอกว่ามันโชไม่โรเตชั่นและเชื่อมั่นในชุดเดิม แสดงเลยว่ามันโชต้องการรีบยิงทีมมาเยือนให้ได้เร็วที่สุดเพื่อกดดันสนามอีกฝั่งไปในตัว เพราะถ้ายิงได้เมื่อไร ความกดดันทั้งหลายแหล่จะวิ่งไปหาแมนยูทันที   

 

 

ส่วนควีนปาร์ค เลือกใช้แท็คติกว่าด้วยมหาอุดบ่งบอกชัดเจนว่ากูมาเอาผลเสมอ  จะเห็นว่าครึ่งแรก เกมเจ้าบ้านเป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์คือ เจ้าบ้านเป็นฝ่ายปูพรมบุกถล่มหน้าตั้งแต่กรรมการเริ่มเป่านกหวีด ส่วนควีนปาร์คถือว่ามาตามคาดเช่นกัน ที่มาร์ค ฮิวส์เลือกที่จะตั้งรับโดยการเอา10คนไปอุดอยู่แดนตัวเองโดยห้อยซิสเซ่เป็นหน้าคนเดียว 


ผลสรุปจากแท็คติกต้องบอกว่า เกมนี้ แทคติกฮิวส์ในครึ่งแรกทำได้ดีกว่านะครับ  โดยเฉพาะการเลือกอุดแบบนี้ ถือว่าตีเจาะเข้าจุดอ่อนของแมนซิพอดีที่ไม่มีความสามารถในการเจาะทีมที่ตั้งรับแน่นในกรอบเขตโทษ ส่วนเตเบซ คนที่สามารถทำลายการอุดในกรอบ ก็ถูกประกบโดยโจอี้ บาร์ตันตลอดเกมเป็นเงาตามตัว ผลลัพธ์คือแมนซิ ไม่มีโอกาสที่จะใช้รูปแบบการฝึกที่เล่นมาตลอดทั้งฤดูกาลคือการเจาะตามช่องด้วยความสามารถเฉพาะตัวนักเตะตัวรุกเข้าไปคุกคามในกรอบเขตโทษคู่ต่อสู้   เพราะเจอกำแพงนักเตะที่ลงไปอุดกันเกือบ10ตัว ก็ยากที่จะหาช่องได้ กอปรกับสกอร์เกมแมนยูนำ ถูกถ่ายทอดให้ผู้ชมในสนามเอติฮัตรับทราบถ้วนหน้า ยิ่งเห็นเลยว่าการต่อบอลเริ่มมีอาการติดๆขัดๆ กลายเป็นว่าตลอดครึ่งแรก แนวรุกแมนซิ“ไม่มีโอกาสได้ สับไกเหน่งๆ”ชนิดเลือกหามุมยิงสบายๆแม้แต่ครั้งเดียว 

 

ส่วนลูกยิงของซาบาเลต้าที่เราทำได้  ส่วนตัวผมมองว่าเหมือนมาจากความสามารถและการตัดสินใจของนักเตะมากกว่าที่จะบอกว่าเป็นแทคติกของมันโช่ครับ โดยดูจากการแข่ง2นัดที่ผ่านมาทั้งแมนยูและนิวคาสเซิล เราไม่เห็นการลากเข้าไปยิงของกองหลังเลย ซึ่งถ้าบอกว่ามันโชเลือกเก็บมาใช้ไม้ตายนัดนี้ก็ดูเหมือนจะอคตินะครับ 555   และก็ต้องบอกว่าซาบาเลต้าตัดสินใจได้เยี่ยมครับ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า แนวรับจะกล้าลากเข้ามาสับไกดื้อๆ  แน่นอนว่าลูกนั้นซาบาเลต้าไม่ได้ยิงดีอะไรเลย เพราะดูจากมุมยิงและการเข้าบีบของผู้เล่นควีนปาร์ค  เห็นชัดว่า มุมยิงตอนนั้นมันทำได้แค่นั้นแหละแต่ดวงยังมีนะครับ  เพราะลูกที่ปัดไปนั้น ดันปัดไม่ขาดจนตกมายังเส้นประตู ควักออกมาก็ไม่ทันแล้ว ถ้าสรุปสั้นๆในครึ่งแรก ถือว่าแทคติกฮิวส์ เอาชนะมันโชได้ แต่คุณภาพนักเตะคนละคลาสคือจุดแตกต่าง  ซึ่งหลังจากยิงนำไปก่อน เชื่อว่าในหัวแฟนๆแมนซิคงมองถึงการยำใหญ่แล้ว แน่นอนว่าผมเองก็คิดเช่นนั้น

 


ทว่า...เงาร้ายก็เริ่มมาเยือน เมื่อตูเร่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ จนต้องส่งเดยองลงมาแทน มองเผินๆเหมือนแค่เปลี่ยนนักเตะคนหนึ่ง แต่ในใจผมภาวนาเลยว่า อย่าให้สิ่งเลวร้ายที่ผมคิดต่อไปนี้เกิดขึ้นเลย เพราะถ้าเกิดขึ้นเมื่อไร นั่นคือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจะมาเยือนเรา  และมันก็เกิดขึ้นจริง

สิ่งนั้นคือ “การโดนยิงตีเสมอ”

 


เราจะเห็นว่าแทคติกมันโชเลือกใช้ตูเร่เป็นหัวใจสำคัญของ “แผนบี” ในการเปลี่ยนแปลงแท็คติกในสนามเสมอ เช่นดันยาย่าไปอยู่แนวรุก หรือถอดออกเพื่อเติมนักเตะเกมรุก ฉะนั้น หากยาย่าเจ็บเมื่อไร “แผนบี” ที่มันโชเคยใช้ในการเปลี่ยนแปลงเกมและได้ผลเสมอในช่วงหลัง จะหายวับไปในพริบตา ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าหากเรารักษาสกอร์นำไปได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร หรือจะยิงเพิ่มก็ไม่แปลก เพราะศักยภาพนักเตะแมนซิทำได้อยู่แล้ว เห็นได้จากช่วงต้นครึ่งหลังไม่ถึง2นาที แมนซิมีโอกาสทักทายโดยอเกวโร ดูยังไงควีนปาร์คต้องโดนลูกที่สองแน่นอน ตอนผมดู ผมก็แอบโล่งใจเพราะโอกาสแมนซิยังทำได้ดีเหมือนเดิม

 

 แต่..นี่แหละครับ ....ฟุตบอลลูกกลมๆ
ต้นครึ่งแรกเราบุกแทบตาย ยิงไปซะขาแทบหลุด ได้โอกาสยิงเขาวันเวย์อยู่ทั้งเกม กลายเป็นว่าเพียงแค่การเสียสมาธิชั่วพริบตาของเลสคอตต์ โหม่งคืนหลังได้สุดห่วยเหมือนวิญญาณซาวิคเข้าสิง ซิสเซ่วิ่งมาจากข้างหลังฉกบอลเข้าไปซัดตรงกรอบแค่ครั้งที่สองของทีมควีนปาร์ค ก็สามารถทำประตูกลับมาตีเสมอได้อย่างง่ายดาย เป็นใคร ใครก็ท้อแหละครับ 

 

 

พอโดนยิงปุ๊บ เห็นได้ชัดเจนว่าการเล่นยิ่งลนมากกว่าเก่า มันโชยิ่งออกมาโวยวายออกแอคชั้นชนิดที่เราแทบไม่ได้เห็นบ่อยๆ เดิมแทคติกก็โดนข่มอยู่แล้ว แถมแผนบีที่เคยใช้ได้ผลเสมอก็หายไปในพริบตา  เรียกว่าทุกครั้งที่เข็มวินาทีกระดิกคือเวลาที่ถ้วยแชมป์ที่มันโชบอกว่าเราคว้ามันไว้แล้วสองนิ้วกำลังค่อยๆไหลไปสู่มือคู่แข่ง
แต่..จุดเปลี่ยนเล็กที่ทำให้แฟนๆแมนซิกลับมามีหวังก็ดันมา

 

 

บาตันที่เล่นนอกเกมโดนใบแดงจากการไปศอกใส่เตเวซและมีลูกแถมอัดอเกวโรจนลงไปนอนคว่ำสูดกลิ่นหญ้าเอติฮัท เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนของเกมที่กำลังจะเกิดขึ้น
จากภาพช้า จะเห็นว่าเตเบซเป็นคนเริ่มซัดหมัดใส่หลังหัวก่อน แต่โดยส่วนตัวผมมองว่า ทั้งคู่คงมีการเล่นนอกเกมก่อนหน้านั้นแน่นอน  เพราะบาตันถูกมาร์ค ฮิวส์มอบหมายให้ประกบเตเบซตลอดเกม คนที่เล่นเกมรับเก่งๆบางคนก็อาจจะใช้แค่ฝีเท้าก็พอ แต่บางคนก็อาจจะลือกลูกเล่นนอกเกมตอดเล็กตอดน้อยเพื่อทำลายสมาธิและสร้างความบอบช้ำแก่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม  ซึ่งการเล่นสกปรกระหว่างในการแข่งขันโดยไม่ให้กรรมการจับได้ถือเป็นศิลปะด้านมืดอย่างหนึ่งในกีฬาลูกหนัง จะบอกว่าเราโชคดีหรือเตเบซเก๋าเกมก็ได้ที่เล่นนอกเกมแล้วไม่โดนแดงจากการเข้าไปเปิดก่อน   ส่วนลูกศอกบาตันมันโจ่งแจ้งเกินไปก็เท่านั้นเอง แต่การที่ผู้ตัดสินชักใบแดงให้ผู้เนอีกฝั่ง มองมุมไหนซิตี้ก็ได้เปรียบ โมเมนตั้มควรจะเอนมาทางนี้แบบเต็มๆ

 

แต่..พระเจ้า...ก็ยังส่งบททดสอบหัวใจนักเตะซิตี้และกองเชียร์อีกครั้ง


เหมือนรีรันลูกที่เสียลูกแรก บุกเพลินๆมองยังไงก็ต้องได้ ดันโดนลูกยิงตรงกรอบครั้งที่3 แต่ดันทำได้2ประตู  มองมุมไหนก็บอกได้ว่า นี่มันเกม เชลซี บาซ่า ชัดๆ ภาพช้าที่ฉายอาการกองเชียร์ อาการเดียวกับแฟนๆบาซ่านัดนั้นไม่มีผิด แม้แต่ผมเองก็ยังวูบเลย ถึงปากจะตะโกนก้องว่า ยังทัน เรายังมีเวลาเหลือที่จะยิงคืน
แต่ในใจนี่สิ....แทบจะไม่มีความมั่นใจเลย
 ในหัวมีแต่ความคิดว่าแมนซิจะแก้เกมยังไงวะในเมื่อแผนบีก็หายไปแล้ว  ผมนั่งนึกหาเหตุผลไปเรื่อยๆระหว่างดู
-เพราะเราไม่มีประสบการณ์ลุ้นแชมป์เหรอ ก็ไม่ใช่ เราโดนนำไป8และแซงกลับมาแล้วนิ
- เพราะเรามีกุนซือที่แก้เกมไม่เป็น โดนตั้งรับแค่นี้ก็ไม่มีปัญญาเจาะคู่แข่งเหรอ  ก็แปลก ยิงได้ตั้งเยอะขนาดนี้ เอาผลนัดเดียวมาตัดสินได้เหรอ
-เพราะโกลคู่แข่งมันองค์ลงโคตรๆกับคู่ต่อสู้เก่งเหรอ ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ เทพขนาดนี้มันจะมาหนีตกชั้นทำซากไรวะ - -//
เราพลาดที่ตรงไหนกัน แชมป์ที่เราควรจะได้ ถึงได้บินไปหามือป๋าเฟอกี้  ในหัวผมตอนนั้นมีแต่บทวิเคราะห์ว่า แมนซิควรปลดกุนซือดีมั้ย หรือจะปล่อยให้มันโชทำงานต่อไป  เพราะเสียงส่วนใหญ่ หลายๆคนดูจะไม่ชอบกุนซือคนนี้เหลือเกิน  แอบคิดว่านี่ตูเป็นหนึ่งในคนสวนกระแสรึเปล่าฟะ 555

 

 

ในระหว่างคิดแบบใจห่อเหี่ยวจนเวาล่วงเลยมาถึงนาที 75ตอนนั้นเอง แผนซีของมันโชก็โผล่ออกมา
และเป็นแผนที่เดิมพันส่งผลถึงถ้วยแชมป์ด้วย

มันเป็นแผนเรียบง่ายและตรงไปตรงมา ทว่ากลับส่งผลดีที่สุด มันคือครั้งแรกเลยมั้งที่ผมเห็นแผนนี้นับตั้งแต่มันโชคุมทีม


นั่นคือแผนถอดตัวรับออกและส่งตัวรุกเข้ามาแทนแม้ว่าเกมนั้นตัวรับจะทำผลงานได้ดีอยู่แล้ว และ การเปลี่ยนผู้เล่นที่หมดแรงแล้วเสริมด้วยผู้เล่นมีความสดกับเทคนิก  เป็นแผนเดียวกับที่มูรินโญ่ใช้ประจำเวลาที่ “รูปเกมเป็นรอง” และส่งให้เขาเป็นจ้าวแห่งกุนซือในปัจจุบัน

ถ้ามองการเล่นแมนยูบ่อยๆ การเปลี่ยนผู้เล่นของเฟอกี้ มักจะไม่ถอดใครออกในระหว่างการเล่น หากผู้เล่นคนนั้นไม่ได้ฟอร์มตกสุดๆหรือหายจากเกมยาวหรือถอดออกมาเพื่อพักไว้เล่นยูฟ่า   โดยส่วนใหญ่ ผู้เล่นแมนยูที่ถูกเปลี่ยนมักเป็นการถอดกองหน้าเน้นเร็วเป็นเสริมกองหน้าศิลปิน หรือถอดกองกลางตัวรุกออก ส่งกลางตัวรับเพื่อปิดเกม ฯลฯ เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนตำแหน่งมากกว่า จะเห็นว่าเฟอกี้ไม่เคยเล่นแผนกองหน้า3ตัวเลยในซีซั่นนี้

 

การเปลี่ยนเตเบซออกส่งบาโล และถอดตัวรับอย่างแบรี่เป็นเซโก  นี่คือแผนธรรมดาที่เรียกว่า ทุ่มหมดหน้าตักครับ เรื่องถอดเตเบซออกเป็นเรื่องปกติเพราะยังไงความฟิตก็ยังไม่ถึงพอเล่น90นาที แต่เปลี่ยนแบรี่แทนที่จะเป็นซิลบาหรือนาสรี่ที่ฟอร์มการเล่นก่อนหน้าต้องบอกว่า “โคตรบัดซบ” ยังไงก็ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของมันโชในสายตาผมครับ

 

 เชื่อว่าถ้ายาย่าไม่เจ็บ เราจะไม่มีโอกาสได้เห็น4ประสานแนวรุกลงมาพร้อมเพรียงเป็นแน่ เพราะธรรมดาแผนบีก็เพียงพอที่จะเอาสกอร์กลับมาได้  จะบอกว่านี่เป็นแผนซีที่มันชินี่มีอยู่แล้วหรือไปเลือกก้อปแผนจากกุนซือมูรินโญ แต่ต้องบอกว่าลงล้อคยิ่งนัก เพราะยังไงควีนปาร์คตอนนั้นก็ไม่บุกอยู่แล้ว และแต่ละคนก็ทำหน้าที่อย่างลงตัวพอดี
-บาโล มีหน้าที่สร้างความปั่นป่วนทั่วแผงหลังด้วยลูกเล่นเฉพาะตัวและความเกรียนที่ไม่มีใครดูออกว่าจะระเบิดได้ตอนไหน
-เซโก มีหน้าที่เข้าไปค้ำกองหลังควีนปาร์คเพื่อรับหน้าที่เก็บกินลูกกลางอากาศ และคอยพักบอลให้เพื่อนๆ
ไม่แน่ว่าถ้าให้เปลี่ยนผู้เล่นได้4คน เชื่อว่ามันโชคงส่งอดัม จอนสันลงไปกระชากลากเลื้อยอีกคนแน่นอน

 

และผลลัพธ์การเปลี่ยนตัวของมันโชก็ส่งผลอย่างชัดเจนเพราะนักเตะที่เปลี่ยนตัวและเลือกเก็บไว้ ทำผลงานได้ครบทุกคนนั่นคือ
-ลูกตีเสมอ นาสรีรีบกดดันผู้เล่นควีนปาร์คให้รีบทุ่มบอล ซิลบาเปิดเตะมุม เซโกโหม่งเต็มกบาล กุนรีบคว้าบอลไปตั้งที่เส้น
-ลูกยิงนำ นาสรี่รีบวิ่งลงมาพาบอลจากแดนตัวเอง ไหลให้บาโลนอนจ่าย ก่อนที่อเกวโรจะซัดประตูชัย
 ถ้าแทนที่ซิลบาหรือนาสรี่ เป็นแบรี่แทน ผมเชื่อว่าเราจะไม่มีทางได้ประตูแน่ เพราะแบรี่ช้าครับ และไม่มีความสามารถลากเลื้อยเท่าสองคนนี้ครับ

 

ผลลัพธ์คือแฟนๆเรือใบสีฟ้าที่กดดันมาตลอด30นาทีเต็ม บางคนร้องไห้ด้วยความเจ็บช้ำเพราะความหวังที่มีมาตลอด1เดือนใกล้พังทลาย บางคนก็ถอดใจไปแล้ว แต่ยังฝืนกัดฟันดูต่อจนจบเพื่อรอตบมือให้กับเหล่านักสู้ของเราที่ทำผลงานได้ดีมา38นัด บางคนก็เตรียมไล่มันโชหากุนซือใหม่(ฮา)  แต่สุดท้าย แฟนทุกคนก็ได้ แหกปากสุดเสียงแสดงความดีใจในแชมป์ทรงคุณค่าประจำฤดูกาลสุดดราม่าจาก

 

  และเสร็จนัดนี้ต้องบอกว่า นัดที่แล้วผมตำหนิอเกวโรเรื่องหน้าปากประตูคู่แข่ง แต่นัดนี้ทำให้ผมต้องกลืนน้ำลาย เพราะผลงานซัดประตูชัยจนพาเหล่าblue moon สู่ฝั่งฝัน ถือเป็นสุดยอดประตูที่นักเตะระดับโลกต้องทำให้ได้หากจะเป็นbig match player และเขาก็ทำได้สำเร็จ แน่นอนว่า ไม่ใช่แค่อเกวโร ผลงานของเซโกที่ทำได้ในนัดนี้ก็ถือเป็นผลงานมาสเตอร์พีซไม่แพ้กัน เพราะเป็นคนจุดประกายให้ผมดีใจ และปลุกความหวังให้เหล่าแฟนๆเรือใบสีฟ้า

แม้ว่าลูกยิงเซโกกับซาบาเลต้าอาจจะเป็นลูกที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่ผมถือว่าทั้งสองคนคือผู้เล่นทรงคุณค่า ยิงประตูสำคัญไม่แพ้อเกวโรแน่นอน  ส่วนผู้เล่นยอดแย่ประจำนัดนี้อย่างเลสคอตต์เองก็ต้องขอบคุณสามคนนี้เยอะๆนะ เพราะไม่งั้นเขาจะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทำให้ทีมแมนซิไม่ถึงฝั่งฝันแน่ๆ 
หลังจบการแข่งขัน เรามีเรื่องให้น่าดีใจเมื่อเห็นเซโกเอาแชมเปญไปราดหัวมันชินี และมันชินี่เข้ามาแสดงความยินดีกับเตเบซ แสดงให้เห้นถึงสปิริตและความกลมเกลียวของมันชินี่ เซโก และเตเบซ เชื่อว่าฤดูกาลหน้า เรามีข่าวดีคือเซโกไม่ย้ายออกจากทีมค่อนข้างแน่นอน ส่วนเตเบซ อาจจะต้องรอดูต่อไปว่าจะมีใครยื่นข้อเสนอเข้ามามั้ย

 

เขียนซะยาวเริ่มเบลอ 555 เอาเป็นว่า ถ้ายาวไปก็ขออภัยนะครับ แบบว่าดีใจมากไปหน่อยเลยเขียนวิเคราะห์ออกมาไม่หยุดแบบนี้  สุดท้ายนี้ก็อยากบอกว่า  จุดแข็งที่สุดของแมนซิอันใหม่ที่ทุกคนไม่คิดมาก่อน มันเกิดขึ้นแล้วนั่นคือ
-สปิริตนักสู้
ตอนนี้พวกเขาคงรู้แล้วว่า จุดแข็งเรื่องเงินที่ทุกคนพูดนักหนา สุดท้ายในการแข่งขันมันก็แทบไม่ได้เอามาใช้จริง ผลงานในสนามที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เกิดเพราะเงิน แต่เกิดเพราะการทำงานหนักกของผู้เล่นในทีม ผู้จัดการ สตาฟท์โค้ช และแฟนบอลที่รวมใจไปด้วยกันจนส่งผลถึง สปริตนักสู้ทุกคนในสนามที่ไม่ยอมแพ้จนกระทั่งเสียงนกหวีดจะถูกเป่าออกมา ราวกับว่าพวกเขาได้รับการถ่ายทอดมาจากเด็กแมนยูยุคทริปเปิลแชมป์ สปิริตนักสู้ที่หลายๆคนในหมู่กองเชียร์คู่แข่งตราหน้าว่าเด็กแมนซิก็แค่พวกหน้าเงิน ไม่มีใจทำเพื่อทีม มาเพื่อเอาตังค์อย่างเดียว มันคือผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม ตอบโจทย์นักวิจารณ์ และคู่แข่งทุกคน กองแช่งที่สบประมาทพวกเขา ต้องบอกว่ามันคือการเอาคืนที่ยอดเยี่ยมที่สุด เป็นการเอาคืนพร้อมกับประกาศศักดาทีมสปิริตและความสามารถก้าวแรกว่าแมนซิคือทีมอันดับหนึ่งของเกาะอังกฤษประจำปีนี้ และพวกเขาจะเริ่มสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ แม้ว่าจะตามหลังแมนยู บาซ่า รีลมาดริด หรืออีกหลายๆทีมที่เคยได้แชมป์ว่า หากพวกเขาหยุดก้าวไปข้างหน้า แมนซินี่แหละที่อาสาจะวิ่งแซงเอง


 ผมคนเดียวกับที่โพสกระทู้นี้นะครับ จะได้รู้ว่าไม่ได้ขโมยมานะครับ  อิอิ

 http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S12090649/S12090649.h...


 

Views: 1160

Reply to This

Replies to This Discussion

ขอบคุณมากนะครับ สำหรับความรู้ละเอียด มากๆ

ผมมองตอนเปลี่ยนตัวนะครับ ตอนที่เอา ยาย่า ออก เอาเดอยองลงนั้น เพราะเรานำอยู่เลนกลับมาเล่น 4-4-1-1  กลางรับ2ตัว

แต่เมื่อโดนนำ มันโช่ก็ถอดกลางรับ ที่ช้าออกไป คือเอา เซโก้ลงมาแทน แบรี่  มาเล่น 4-4-2 ไดม่อน 

เมื่อเวลาเหลือน้อยและเตเบสซึ่งน่าจะโดนตอดมา อารมณ์ไม่ดี เอาแต่ยิงไกล ยิงนกบ่อยเข้า มันชินี่เลยต้องเปลี่ยนออก แล้ว เสี่ยงเอา

ตัวโจ๊คเกอร์ลงมา ซึ่งโอ้ถ้าเล่นดีก็ดีสุดยอด นัดนี้ลงมาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ช่วงท้ายๆ ช่วยให้เสียวได้ตลอด

ป่วนแนวรับได้ดี จนได้เชโก้มาตีเสมอ แล้วยังจ่ายงามๆให้กุนไปยิง

ถ้า โอ้ไม่เกรียนมาก ก็เป็นตัวเปลี่ยนเกมส์ที่ดีได้เลยครับ เอาลงตอนที่เราต้องการจุดเปลี้ยนได้ดี

เกมส์นี้ช่วงที่เขาอุดอย่างเดียวผมยังอยากให้โคลาคอฟลงมาแทนหลังสักคน ไว้ยิงไกลเลย

ดีมากเลยครับ ขอบคุณครับ เอามาลงบ่อยๆนะครับ

แจ๋วเลยครับ ผมยังคิดเลยว่าตอนโดนยิงนำไปแล้ว และเตฟก็ดูไม่ดีเท่าไหร่ ทำใมไม่เอาจ้อนลงมาลุย

บอลไปตายแค่หน้าเขตโทษ ลูกโยนก็โดนเก็บหมด เมื่อพวกเขาไม่ขึ้นแล้ว ก็อัดหน้าที่คล่องๆ ลงไปอีก

สักตัวคิดอะไรก็เหมือนไม่ได้อย่างใจไปซะหมด..555 กลัวว่าจะแพ้ในบ้านนัดเดียวแล้วถ้วยแชมป์หลุดมือ

ไป....แต่ที่สุดเราก็ทำได้...เพราะเราไม่เคยยอมแพ้....เห็นซิลบาเตะมุมลูกนั้นแล้ว น่าสงสวรมาก ทั้งรีบ

ทั้งรน...คงกลัวหมดเวลาซะก่อน....มันดราม่าซะจริงๆ...

เป็น "คอลัมน์วิจารณ์" ที่ได้เนื้อหาและอรรถรสถือเป็นความสามารถส่วนตัวที่น่ายกย่อง...

ขอให้กำลังใจเขียนเป็น "คอลัมน์ประจำเว็ป" ก็จะขอบคุณไม่น้อยที่ทำให้ที่นี่มีสีสันต์และทรงคุณค่าในทางความรู้กับเพื่อนๆ

เขียนได้เยี่ยม ครับ หน้าอ่าน หน้าติดตาม..

นัดนี้ใช้กองหน้าครบทั้ง 4 คนเลยครับ นัดนี้เห็นถึงสปิริตทีมที่เต็มเปี่ยมสู้ถึงนาทีสุดท้าย อยากให้เป็นอย่างนี้ทุกนัดหมายถึงสปิริตนะครับ  ไม่ใช่ตามหลังแล้วชนะนะครับ จริงๆแล้วอยากชนะขาดมากกว่านี้ ตัวเล่นมากกว่า เรายังโดนนำซะงั้น แบบนี้ขอเถอะครับให้เป็นนัดตัวอย่าง หัวใจจะวายครับ

ข้อด่างพร้อยเดียวที่เห็นในเกมนี้คือ   การให้เกมรุกที่มีขนาดตัวเล็กๆ  แต่ดันไปออกข้างแล้วเปิดบอลโด่ง   มันจะไม่แปลกถ้ากองหน้าอย่าง เซโก้  บาโลเตลี่  อยู่ในสนามแล้วเล่นแบบครอสจากด้านข้าง

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.