เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาแสดงความเห็นที่แสนแปลก โดยอ้างว่าเหตุที่ทีมของตนพลาดการคว้าแชมป์ลีกมาครอง เนื่องมาจากเกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ต่อเวลามากกว่า
ทัพ "เร้ด เดวิลส์" คิดว่าพวกเขาได้แชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว หลังเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่ในอีก 13 วินาทีต่อมา ซิตี้ ก็มาซัด 2 ลูกในช่วงทดเจ็บคว้าชัยเหนือ "ทหารเสือราชินี" ได้หน้าตาเฉย 3-2 พร้อมแย่งแชมป์แบบไม่มีใครอยากเชื่อ
เฟอร์ กูสัน ที่คงยังรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงทำให้พูดอะไรโดยไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีว่า "พรีเมียร์ลีก จำเป็นต้องนำมันมาพิจารณา มันไม่ควรมีทีมใดจบเกมหลังจากอีกทีมหนึ่ง เนื่องจากพวกเราคิดว่าพวกเราทำมันได้แล้ว"
คัลดูน อัล มูบารัค ประธานบริหาร "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อมั่นว่า ภายหลังทีมสามารถคว้าแชมป์ลีกมาครอบครองได้เป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี น่าจะทำให้เสียงดูถูกที่ว่าทีมตกอยู่ภายใต้ร่มเงาความสำเร็จของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรคู่ปรับร่วมเมือง หมดสิ้นไปเสียที
มูบา รัค กล่าวว่า "ทุกคนจะต้องมีประสบการณ์ของพวกเขาเองเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมไม่คิดว่าจะมีลีกไหนจะต้องมาตัดสินกันเหมือนเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว บางทีผู้คนอาจคิดไปว่ามันเป็น ซิตี้ แบบเดิมๆ พวกเราไม่ได้เป็น ซิตี้ แบบเดิมอีกต่อไปแล้ว พวกเราได้ทำลายมันไปอย่างราบคาบ นี่ไม่ได้เป็นทีมที่ยอมแพ้ ตอนนี้พวกเราต้องลืมเกี่ยวกับ ซิตี้ แบบเดิมไปให้หมด สโมสรแห่งนี้มีความต้องการที่จะได้แชมป์ให้มากกว่านี้ และจะต้องสู้ไปจนกระทั่งนาทีสุดท้ายของเกม"
ขณะเดียว กัน มูบารัค ยังได้พูดถึงการทำงานร่วมกับ โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมชาวอิตาลี จนสามารถนำ ซิตี้ ประสบความสำเร็จได้ในท้ายที่สุดว่า "พวกเรามี 2 ทางเลือก พวกเราอาจจะยกธงขาวยอมแพ้ หรือไม่ก็ลุกขึ้นมาสู้จนถึงวินาทีสุดท้ายเพื่อการเป็นแชมป์ถ้วยใบนี้"
"ผม จำได้ว่าเมื่อเดินไปที่ห้องแต่งตัวก็มีความคิดผุดขึ้นมาว่าพวกเราไม่เคยคิด ยอมแพ้ บางอย่างในใจผมมันบอกว่าต้องมีอะไรมากกว่านี้เกิดขึ้นแน่ ผมได้พูดคุยกับ โรแบร์โต้ พวกเราทั้งคู่มองหน้ากันและตัดสินใจที่จะไม่กดดันนักเตะ พวกเรารู้สึกว่าพวกเราอาจจะมีโอกาสเอาชนะได้ทุกเกมและก็ค่อนข้างมีโชค สิ่งที่ โรแบร์โต้ ทำมันช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อกับการลดความกดดันออกจากนักเตะทั้งทีม"
"โร แบร์โต้ เป็นผู้ชนะ เขามีสภาพจิตใจที่เข้มแข็งมาก ซึ่งต้องการชัยชนะมากกว่าใครทั้งหมดเท่าที่ผมเคยรู้จักมา เขามีแรงขับเคลื่อนและมีพลังงานมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเรารู้จักกันมานานหลายปี และผมก็รู้ว่าเขามีแนวทางการทำงานเช่นไร พวกเราทุกคนมีบทเรียนและผ่านสถานการณ์ช่วงเวลาที่ยากลำบากมานานหลายฤดูกาล พวกเราประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และการได้แชมป์ลีกก็ต้องยกความดีความชอบให้กับความสามารถของฝ่ายบริหาร"
นอก จากนั้น มูบารัค ยังยืนยันว่า ชีค มานซูร์ มหาเศรษฐีเจ้าของทีม มีความสนใจต่อทีมเป็นอย่างมาก ไม่ได้เอาแต่ควักเงินซื้อความสำเร็จเพียงอย่างเดียว โดยระบุต่อว่า "เขาแทบไม่เคยพลาดเลยแม้แต่นาทีเดียวที่สโมสรลงเล่นในฤดูกาลนี้ แม้จะไม่มีการถ่ายทอดสด เขาก็หาทางที่จะดูมันจนได้ ผมได้มีการพูดคุยกับเขาหลังเกมซึ่งมันเป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าปลาบปลื้มใจ มากที่สุดเลยทีเดียว"
Tags:
โห ป๋าช่างกล้าคิดได้อะ ช่วงนี้เหมือนป๋า จะไม่เหลือเกียรติอะไรให้เด็กนับถือแล้ว
เหมือนจะอ้างนุ่นนี่ในกรไม่ได้แชมป์ ไม่ให้เกียรติผู้อื่นก้อเหมือนไม่ให้เกียรติตัวเองนะครับป๋า อย่าลืม อิอิ
ส่วนท่านประธานของเรา ยินดีด้วยค้าบ ขอให้ท่านเปนประธานที่ใจดีของพวกเราต่อไปค้าบ 55 แมนซิตี้สู้ๆ
ติดนิสัยพวกอำมาตย์ไทยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะไอ้ป๋าเซอร์...ปีหน้าผมว่าคุณจะเจ็บยิ่งกว่านี้อีกนะ..จะบอกให้....5555
ฮึ ฮึ !!...ยังไม่หายมึนแถไปได้แบบน้ำขุ่นๆ สติชักเลอะเทอะไปกันใหญ่...
รู้จักให้เกียรติคนอื่นบ้างอย่าเข้าตำราเป็นพวก "แก่กะโหลกกะลา" ที่เด็กรุ่นหลังถอนหงอกเอาได้...
เดี๋ยวไอ้เกียรติที่ฉกเขามาบ้างสะสมด้วยความสามารถมาบ้างจะมาพังป่นปี้เอาในบั้นปลายของชีวิต...
สงบสติอารมณ์เสียบ้างลูกทีมยังเก็บอาการได้ดีกว่าสมกับเป็นนักกีฬาที่มีน้ำใจ"รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย" เลย"ไอ้เปรตเฒ่า" เอ้ย
ทีทีม ตัวเอง ได้ทดเจ็บ มากๆ หลายๆ ครั้งไม่เห็นว่าไร โด่ๆๆๆ
หลายนัดแล้วนะ ที่แมนยูได้ทดเจ็บแบบ เว่อร์ มาก
ฤดูกาลที่แล้ว จำได้ดี อิอิ
ทีแบบนี้ จะมาโวย
ขี้แพ้ชวนตี .......เด๋ว เสกๆๆ ตะปู เข้าท้องซะเลย
โห..โหดจัง...ตะปูต้องเป็นตะปูชุบน้ำมนส์นะเพราะว่ามันเป็นผี...55555
555อาจ๋อมของขึ้นๆๆๆๆๆ
เน้อะๆอาจ๋อม สงสารป๋าพูดแบบนี้ไม่ได้ทำให้ตัวเองดูดีขึ้นในการเปนผู้แพ้ที่ดีเลย มีแต่จะฉุดให้ตัวเองต่ำลง สปิริตหาย เกียรติก้อหายไปด้วยเพราะการไม่ให้เกียรติผู้อื่น(เห็นหลายข่าวมากของป๋าทำนองนี้) // แต่ที่สำคัญถ้าใครได้ติดตามแมนซิตี้(ซึ่งตอนนี้เปนทีมที่ทุบสถิติรับรายได้สูงสุดพรีเมียร์ลีกถ่ายทอดสดไปทั่วโลกสูงถึง 60.6 ล้านปอนด์ (3,030 ล้านบาท)) จะเห็นได้ว่า นักเตะของแมนซิเล่นกันทุ่มเทขนาดไหน เงินอย่างเดียวทำไม่ได้แบบนี้แน่นอนครับ มันต้องมีใจด้วย ความตั้งใจที่จะทำมันให้สำเร็จ ความขยันทุ่มเท สปิริตในทีม ดูแล้วจะรู้ว่านักเตะแมนซิสุดยอดแค่ไหน...ความเปนหนึ่งใจเดียวกัน...นำพาพวกเราไปสู่ความเปนหนึ่งต่างหากเล่าป๋าเซอร์เอ้ยยยยยยยยย
คนไทยเจอพวกอิจฉาตาร้อน พูดจาไม่เป็นมนุษย์แบบนี้เยอะแล้ว จึงชินชา
หวังว่าใครที่ได้ยินแบบนี้ ควรตัดสินใจเลือกข้างได้เลย
อย่าหลงงมงายอยู่กับของเดิมๆเน่าๆ
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by