Members

ซิตี้ ซิตี้ แชมป์เหลือเชื่อ

  นับเป็นการจบฤดูกาล ด้วยความดราม่าสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างสุดระทึกแทบจะเรียกได้ว่าเศษเสี้ยวนาทีสุดท้าย ของการแข่งขันเลยก็ว่าได้

38 นัด ซิตี้ เก็บไปทั้งสิ้น 89 คะแนนเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แต่ลูกทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ เฉือนเพียงแค่ตรงที่ลูกได้-เสียที่ดีกว่าเท่านั้นโดยต่างกัน 8 ประตู

ถึงกระนั้น "เรือใบสีฟ้า" เหมาะสมต่อการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2011/12 เหตุผลคือ




*เป็นทีมที่พังประตูมากที่สุดในลีก

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม เซร์คิโอ อาเกวโร่ หอกใหม่เอี่ยมอ่องเพิ่งย้ายร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ลงสนามนัดเปิดสนาม เปลี่ยนตัวลงมาประเดิมพังประตูแรกถล่ม สวอนซี 4-0

นับจากนัดแรกยันถึงเกมสุดท้าย อาเกวโร่ สวมบทฮีโร่พังประตูชัยทดเจ็บเฉือน ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส 3-2

รวมเบ็ดเสร็จดาวยิงอาร์เจนไตน์ซัลโวไปทั้งสิ้น 23 ประตูทั้งๆที่นี่คือฤดูกาลแรกมาเล่นในลีกที่แตกต่างจาก ลา ลีกา เป็น พรีเมียร์ลีก

นับรวมกันแล้ว ซิตี้ ถล่มตาข่าย 93 ประตูมากกว่าใครในลีก


*เสียประตูน้อยที่สุด

ต้องยกความดีความชอบให้แผงหลังแบ็กโฟร์และความเหนียวแน่นหนึบของ โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูดีกรีมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษ

แข่ง 38 นัดเสียแค่ 29 ประตูเท่านั้น

นอกจากนั้นหัวใจหลักสำคัญในแผงหลังก็คือ แว็งซ็องต์ กอมปานี เขาเป็นผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริงที่ช่วยเกมรับเสียประตูยาก


*ล้มแชมป์เก่า ยูไนเต็ด ทั้งเหย้า-เยือน

ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยการตัดสินประตูได้-เสียที่ดีกว่า

หากเป็นลีกชั้นนำอื่นๆอย่าง ลา ลีกา หรือ กัลโช่ เซเรีย อา กรณีที่ทั้งสองทีมมีคะแนนเท่ากัน จะวัดกันที่สถิติเฮด-ทู-เฮดของการเจอกันในนัดเหย้าและเยือน

ผลนัดแรกของฤดูกาล "เรือใบสีฟ้า" บุกไปถล่ม "ปีศาจแดง" ถึงถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด 6-1 เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว

ส่วนเกมสองนัดเหย้า ซิตี้ ย้ำแค้น ยูไนเต็ด เปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม เฉือน 1-0

เมื่อพิจารณาจากสองนัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองอยู่ดี


*สไตล์ตีหัวเข้าบ้านของ โรแบร์โต้ มันชินี่

แม้พังประตูเยอะสุดในลีก แต่แท็กติกส์ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือแอบกัดว่า เน้นผลการแข่งขันอย่างเดียว

หากได้ประตูขึ้นนำไปก่อน ยิ่งทำให้ ซิตี้ ไม่คิดเปิดเกมบุกต่อเปลี่ยนแผนมาเน้นรับให้เหนียวแน่น

นั่นจึงทำให้ "เรือใบสีฟ้า" กลายเป็นทีมที่เสียประตูน้อยสุดในลีกก็เพราะเหตุนี้

แต่แท็กติกส์นี้สุดท้าย ซิตี้ ก็เป็นแชมป์

มันชินี่ จึงเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง


*ศรัทธา และ สปิริต

ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนเมษายน ซิตี้ บุกไปแพ้ อาร์เซนอล 0-1

นั่นทำให้ทีมของ มันชินี่ มีแต้มตามหลัง ยูไนเต็ด ถึง 8 ประตู ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียงแค่ 6 เกมเท่านั้น

ไม่มีใครเชื่อว่า "เรือใบสีฟ้า" จะแซงคว้าแชมป์ในบั้นปลาย

แต่นักเตะ ซิตี้ ทุกคนไม่ยอมถอดใจง่ายๆกลายเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นในนัดต่อมาถล่ม เวสต์บรอมวิช 4-0

นับจากเกมนั้นยันจนถึงแมตช์ปิดฤดูกาลเก็บชัยชนะ 6 นัดรวด

โดยเฉพาะนัดสุดท้ายสถานการณ์เป็นรองเข้าขั้นวิกฤติตามหลัง ควีนสปาร์ค 1-2

แต่แข้งทีมเรือใบทุกคนสวมสปิริตความเป็นนักสู้พังสองประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บแซงชัยอย่างเหลือเชื่อ 3-2

สรุปแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ควรและเหมาะสมต่อการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างสมศักดิ์ศรี



ลูกกลมกลม

Views: 505

Reply to This

Replies to This Discussion

เครดิต guideball

สรุปแล้ว ไม่ว่าจะตัดสินแบบนับแต้มหรือเฮด-ทู-เฮด ก้อชนะอยู่ดี


 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ควรและเหมาะสมต่อการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างสมศักดิ์ศรี 55555 ^^


เอาจริงๆตอนตาม8 ใครก็คิดว่าหมดแล้วโอกาศแต่กลับมาได้แค่นี้ก็ไม่ต้องสนปัจจัยอื่นแล้ว ต่อให้แชมป์เก่าว่าเก๋าเกมแค่ไหนยังเป๋อ่ะ เรือใบไม่ใช่ของก๊อปทำเหมือนนะแต่เป็นแชมป์เพราะว่าเป็นของแท้จริงๆ

..ก็ต้องยอมรับกัน การที่เชลซีได้ครองแชมป์ UCL ทำให้แชมป์ EPL ถูกบดบังรัศมีเหมือนกัน..

..ทำให้เชลซีมีแรงดึงดูดนักเตะระดับเวิรด์คลาสได้มากกว่า..

..ยอมรับว่าซีซั่นหน้าเชลซีน่ากลัวมาก เพราะมีทั้งศักดิ์ศรี และเงินตรา..

..แต่ซิตี้ก็มีศักดิ์ศรีใน EPL เหนือกว่าเฃลซีมาก..

.. แชมป์ 89 แต้ม/ประตู+64 กับอันดับ 6/64 แต้ม/ประตู+19 เหมือนหนังคนละม้วน..

..เกมแห่งศักดิ์ศรี Community Shield เปิดสนามพรีเมียร์ลีก คอยให้พิสูจน์อยู่แล้ว !!

..

89แต้มเท่ากันแต่เราได้ถ้วยผีไม่ได้อะไรเลยสะใจสุดๆๆ

เชียร์มา 34 ปี สมหวังปัญญาเรณู กับเขาซ้ากที...ขอขอบคุณบรรดาทีมงานเรือใบสีฟ้าทุกๆ ท่าน โดยเฉพาะเหล่านักเตะชุดนี้ที่ไม่ยอมแพ้แม้จะนาทีสุดท้าย..

เพราะเมื่ออีก 2 นาทีจะสุดท้ายแล้ว ผลเสมอ 2 : 2  เรือใบสีฟ้าก็ยังไม่ได้แชมป์...เพียงแค่เกือบจะได้

แต่ในขณะที่ผมกำลังจะสิ้นหวังอยู่แล้ว "โงกุน"...ก็แสดงพลังคลื่นเต่า...ลากแล้วเลื้อย เลี้ยงแล้วยิง...

เย้..เย้..เย้...วินาทีนั้น...เวลาแห่งการรอคอย 34 ปี ก็ประสบกับความสมหวัง...ดีใจเป็นที่สุดครับ

ต้องเรียกได้ว่าไม่ท้อไปซะก่อนมากกว่าคับ ๆ กำลังใจนังดีอยู่...เมื่อฝ่านหนึ่งเสียดุลย์อีกฝ่ายย่อมมีหวังและกำลังใจฮึดสู้อีกเฮือก!ซึ่งมาแซงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าแตะเส้นชัยจริง ๆ คับ ๆ เรียกว่าแค่ปายเส้นผมก้อว่าได้นะคับเจว่า ฮ่า ๆ ๆ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.