เวลาแห่งการล่าฝันในถิ่น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ของ 3 หนุ่ม 3 มุม นักเตะทีมชาติไทย “เจ้าเปรม” สุรีย์ สุขะ, “เจ้าคาร์” เกียรติประวุฒิ สายแวว และ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ได้ปิดฉากลงชั่วคราวหลังผ่านไป 1 เดือนเต็มๆ

เมื่อเช้าตรู่วันที่ 18 ก.ย. 3 แข้งไทย ได้เดินทางกลับสู่มาตุภูมิเรียบร้อย โดยมี “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย ไปรอรับศิษย์รักถึงสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมพกเหรียญจตุคามรามเทพ ไปแจกนักเตะกับผู้สื่อข่าวด้วย ซึ่ง สุรีย์ ดูท่าจะอบอุ่นที่สุด เพราะมีทั้งครอบคัว และแฟนสาวไปต้อนรับ

แบ็กขวาจอมบุกทีมชาติไทย ดูแววว่าจะมีโอกาสทำฝันให้เป็นจริง กับการเซ็นสัญญาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่สุด ติดแต่เพียงปัญหาเรื่องใบประกอบวิชาชีพ หรือ เวิร์คเพอร์มิต ทำให้ยังต้องร้องเพลงรอต่อไป

สุรีย์ กล่าวถึงประสบการณ์ในถิ่นเรือใบสีฟ้าว่า แม้จะเป็นนักเตะจากเอเชีย แต่ก็ได้รับการต้อนรับจากบรรดาซูเปอร์สตาร์อย่างดี โดยการซ้อมจะต่างจากในไทยเยอะ โดยเฉพาะเรื่องความตั้งใจ แม้จะซ้อมเพียงวันละมื้อเดียว 10.00-12.00 น. ที่สนามย่านแคร์ริงตัน แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงจังตามแบบฉบับมืออาชีพ ทั้งนี้ สเวน โกรัน อิริกส์สัน กุนซือหัวใส ได้ชมตนเองด้วยว่า พัฒนาขึ้นจากวันแรกที่มาร่วมทัพ

“ส่วนอนาคตของผม คงต้องรอเวิร์คเพอร์มิต การกลับไปอีกครั้ง จะทำให้ดีที่สุด โอกาส 50-50 ถ้าไม่ได้เซ็นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี จริงๆ ก็อาจไปเล่นกับ กลาสฮอปเปอร์ ทีมในสวิตเซอร์แลนด์ แทน แต่ตอนนี้ขอกลับมามุ่งมั่นกับทีมชาติไทย ที่จะเตะอุ่นเครื่องกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 3 ต.ค. และฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ มาเก๊า” สุรีย์ เผย

ขณะเดียวกัน “เจ้าคาร์” เกียรติประวุฒิ สายแวว ก็คอนเฟิร์มถึงผลงานของ สุรีย์ ว่าทำได้ดีจริงๆ และมีโอกาสสูงที่จะทำฝันให้เป็นจริง

“สุรีย์ ซ้อมได้ดีจริงๆ ครับ ผมขอยืนยัน ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และสตาฟฟ์โค้ชก็พอใจ นอกจากนี้ เท่าที่คุยกับผู้ใหญ่ของทีมก็กำลังพยายามเซ็นสัญญาให้ได้ ติดแต่เรื่องเวิร์คเพอร์มิตเท่านั้น”

ส่วนตัวของ เกียรติประวุฒิ เองนั้น บอกว่าจะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด หวังจะกลับไปร่วมซ้อมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี อีกครั้ง เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มากกว่าที่จะหวังเซ็นสัญญา ซึ่งถือเป็นเรื่องอนาคต เนื่องจากคู่แข่งในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟมีเพียบ

อันนี้ถือเป็นโชคไม่ดีนักของ เกียรติประวุฒิ ขนาด ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ดีกรีทีมชาติอังกฤษ ซึ่งแต่เดิมเล่นแบ็คขวา ก็ปรับมาเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แม้จะทำให้ สุรีย์ หมดคู่แข่งไปหนึ่ง แต่ไปเพิ่มให้ เจ้าคาร์ แทน

ด้านน้องนุชสุดท้อง “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าร่างเพรียว เผยว่าปัญหาใหญ่ของทุกคน คือเรื่องการสื่อสาร ส่วนเรื่องอื่นถือว่าสบาย ทั้ง อาหารการกิน และอากาศ ปรับตัวไม่นานก็ฉลุย

“เป็นปัญหาใหญ่เลย คือเราคุยกับเขาไม่เข้าใจ ตอนซ้อม สเวน โกรัน อิริกส์สัน สั่งอย่าง แต่ผมทำอีกอย่าง ต้องรอคนอื่นทำให้ดูก่อน หรือบางทีกับนักเตะคนอื่นพยายามคุยกัน ซึ่งไม่มีใครถือตัว เช่น โรแลนโด เบียงคี, ซุน จี ไห่ แต่ก็ทักกันเฉยๆ จะคุยมากก็ไม่รู้เรื่อง หลังซ้อมอาจใช้เวลาว่างทำอะไรกันบ้าง เช่นไปเล่นบาสเก็ตบอล”

ธีรศิลป์ กล่าวด้วยว่า ตนเองไม่มีความกดดันใดๆ เลย ในการไปแมนฯซิตี เพราะไม่ใช่ความหวัง ผิดกับ สุรีย์ ซึ่งหลังคัดเลือกบอลโลก ทั้งหมดน่าจะได้ไปฝึกอีกครั้ง และตนเองพร้อมเต็มที่ ขอให้ได้โอกาส แม้จะหวังเซ็นสัญญายากก็ตาม

“เจ้ามุ้ย” กล่าวต่อไปว่า แม้ทั้ง 3 คนจะเป็นนักเตะจากเอเชีย แต่แฟนบอลเรือใบสีฟ้าก็ไม่ดูถูก ตรงกันข้าม กลับให้ความสนใจ เข้ามาขอลายเซ็นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับ สุรีย์ ที่ค่อนข้างดัง กองเชียร์แมนฯซิตี ที่รู้จักจากการติดตามข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ มาทักทายบ่อยมาก

ภายใต้ปัญหาเวิร์คเพอร์มิต ทำให้ถึงตอนนี้ ยังไม่ทราบว่า อนาคต และความฝันของนักเตะไทย ที่จะปักธงบนแดนผู้ดีจะลงเอยอย่างไร เพราะทั้งหมดต้องกลับมาทุ่มเทให้กับ ทีมชาติ และสโมสรต้นสังกัดเสียก่อน

ต้องติดตามว่า เมื่อระฆังชีวิตยก 2 ดังขึ้นหลังจบบอลโลกรอบคัดเลือก บทสรุปของทั้ง 3 จะอยู่ตรงไหน ได้เล่นกับแมนเชสเตอร์ ซิตี, ค้าแข้งในลีกอื่น หรือได้เพียงแค่ไปซ้อมเท่านั้น

สยามรัฐ