Members

คอลัมน์ : จากปากกายอดทอง โดย.. ยอดทอง
Thailand Web Stat
กระจกเงา จาก ธีรศิลป์
 


  
        ธีรศิลป์ แดงดา ไปบ่มฝีเท้าฝึกและทดสอบประสิทธิภาพอยู่ที่แอตเลติโก มาดริด มาเกือบสองสัปดาห์แล้วนะครับ
          
        ใครจะว่าเป็นการทำการตลาดของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สร้างสีสัน แดกดันคนไทยกันเองว่า...มาตรฐานแค่ศูนย์หน้าทีมชาติ รองแชมป์ฟุตบอลซูซูกิ คัพ ภูมิภาคอาเซียน จะไปเล่นในมาตรฐาน ลา ลีกา สเปน ทีมชาติระดับแชมป์โลกได้อย่างไร ฯลฯ ก็ช่างเถอะครับ แล้วแต่ทัศนคติและมุมมอง 
           
        วลีหนึ่งกล่าวว่า...ท้องฟ้ามีมากมายหลายเฉดสี อยู่ที่คุณจะมองเห็นเป็นสีอะไร
           
        ผมติดตามอ่านข่าวที่ เจมส์ ลา ลีกา ส่งมาทุกวันว่า ชีวิตของธีรศิลป์ที่โน่นเป็นอย่างไร?
          
        ดีนะครับ ที่มีการรายงานข่าวอย่างละเอียดเช่นนี้ 
          
        เพราะนี่คือ "กระจกเงา" ไม่ใช่แต่เพียงเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เป็นต้นสังกัดของธีรศิลป์ แต่กับวงการทุกสโมสรฟุตบอลอาชีพ
          
        และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่านักเตะอาชีพอยู่ในขณะนี้ จะได้มีทัศนคติ มีสามัญสำนึกอันชัดเจนว่า ตัวเองนั้นเป็นนักเตะอาชีพอย่างแท้จริงๆ หรือเปล่า
         
        ธีรศิลป์ตอนที่อยู่เมืองไทย เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นศูนย์หน้าที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา มีฉายา "เทพมุ้ย" เพราะมีศักยภาพเชิงลูกหนังได้อย่างครบเครื่อง ทักษะยอดเยี่ยม จินตนาการลูกหนังเป็นเลิศ เล่นบอลง่ายกับเพื่อน และทำประตูได้ทุกจังหวะ ทั้งเท้าและหัว ลีกไทยเล็กเกินไปแล้วสำหรับเขา 
          
        แต่พอไปซ้อมกับแอตเลติโก มาดริด ภายใต้การควบคุมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ของทีมตราหมี ศูนย์หน้าที่ดีที่สุดระดับเทพของเมืองไทย ก็พบตัวเองว่า ยังต้องเรียนรู้อีกมากมาย กับการไต่เข้าสู่มาตรฐานฟุตบอลอาชีพสแปนิช
        
        ซิเมโอเน่บอกให้ธีรศิลป์ทุ่มเท ใส่ให้เต็มกับการซ้อม อันหมายถึง กล้าจะเล่นให้เต็มๆ กล้าเล่น กล้าอัด กล้าปะทะ เพื่อให้ได้มากับการครองบอล ไม่ใช่การเล่นที่แสดงความเหยาะแหยะ ด้วยคิดเพียงว่า...นี่แค่การซ้อม...เดี๋ยวค่อยเอาจริงเวลาเล่นจริง ซึ่งไม่ใช่สามัญสำนึกของนักฟุตบอลอาชีพ 
     
        ซ้อมเพื่อการเรียนรู้เทคนิคอันสอดคล้องกับเพื่อน เล่นพลาดปั๊บ โค้ชเป่าหยุดเกมปุ๊บ เพื่อแก้ให้รู้ เพื่อจดบันทึกว่า นักเตะคนนั้นๆ อ่อนมาตรฐานอะไร...เดี๋ยวเอ็งต้องไปซ้อมเดี่ยวให้ทันเพื่อน
      
        ซ้อมเอาจริง เพื่อจะได้ไม่พลาดในเกมลงสนามจริง เพราะในสนามจริง มันเป่าหวีดหยุดเกมมาแก้ไม่ได้ 
      
        ธีรศิลป์ได้เล่นเกม แต่ก็พบว่าต้องปรับตัวมากมาย เพื่อให้เข้ากับระบบทีม ทีมเวิร์กของเพื่อน ช้าไปครึ่งจังหวะ ส่งบอลเบาไป ส่งไม่แม่นกับจังหวะของเพื่อนร่วมทีม อะไรก็ผิดพลาดไปหมด
      
        นั่นก็คือ ธีรศิลป์เผชิญกับมาตรฐานฟุตบอลสเปน ที่ความสำคัญในเกมอยู่ที่สปีดบอล สปีดเกม ที่คนเล่นต้องเล่นให้ทันกันเป็นจังหวะเดียวกัน ระบบของเกมคือประสิทธิภาพ ไม่ใช่นักเตะคนใดคนหนึ่ง ที่จะเล่นเร็วเล่นช้าตามใจตัวเอง
     
        หรือเอาแค่ลงไปซ้อมวิ่งเอาแรง ซิเมโอเน่สังเกตแค่ธีรศิลป์มีอาการเหนื่อยหอบมากกว่าเพื่อนร่วมซ้อม ที่ซ้อมเท่าๆ กัน ก็บอกเลยว่า...เอ็งยังฟิตไม่พอ
     
        ซิเมโอเน่ย้ำบ่อยครั้งว่า เขาไม่สงสัยเลยในคุณภาพของการเป็นนักเตะตำแหน่งกองหน้าของธีรศิลป์ แต่เขาต้องการเห็นศักยภาพที่จะเล่นกับทีมใหญ่ได้ ในระบบ, สปีดบอล, สปีดทีมเวิร์ก และแรงทุ่มเทที่ทัดเทียมกับเพื่อนร่วมทีม
     
        ตรงนี้แหละครับ ที่ธีรศิลป์ต้องไต่ตะกาย มีพลังทั้งกายและใจขึ้นไปในระดับนั้นให้ได้ 
     
        มันไม่ใช่เรื่องของฝีเท้า แต่อยู่ที่คุณขึ้นมาเป็นเฟืองตัวหนึ่งที่หมุนไปกลมกลืนกับเครื่องจักรชุดใหญ่ที่เขาจูนเครื่องไว้ในระดับมาตรฐานของเขาได้หรือไม่
      
        สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ ธีรศิลป์เข้าใจกับความกดดันตรงนั้น
     
        เขากลับด่ำดื่มในศาสตร์ลูกหนังที่ได้รับมากขึ้น มีทัศนคติที่ดีในการซ้อมหนักสาหัสอย่างนี้ โค้ชจี้เป๊ะๆ เลยว่า อะไรที่เป็นจุดอ่อน อันยิ่งทำให้เขามุมานะมากขึ้น ทำให้ได้ เพราะชีวิตมาถึงนี่แล้ว
     
        ผมเชื่อว่าธีรศิลป์ไม่เคยเจอการซ้อมหนัก หรือโดนเน้นในเรื่องรายละเอียดอย่างนี้ในการซ้อมที่เอสซีจี เมืองทอง แน่ๆ ด้วยความเป็น "เทพมุ้ย" นักเตะชุดใหญ่ที่เจ๋งที่สุดของทีม
     
        ทุกวันที่เขาซ้อมแบบอยู่ในสายตาของซิเมโอเน่ ...ก็คือการได้เจอ "ฟุตบอลอาชีพของแท้ของจริง" แล้วที่แอตเลติโก มาดริด โดยที่ยังไม่ได้สวมชุดนักเตะแข่งของจริงด้วยซ้ำ นี่คือสิ่งที่ได้อย่างมากมายมหาศาล ในการสร้างให้เขาเป็นนักเตะอาชีพเต็มตัวอย่างแท้จริง ทั้งทัศนคติและการทุ่มเทในทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเองดีที่สุด ตั้งแต่ในสนามซ้อมยันสนามจริง
    
        ผมเขียนเรื่องนี้ ไม่ใช่สำหรับนักเตะกรณีเดียวนะครับ
    
        หากครอบคลุมไปทั้งวิถีของสโมสร ทัศนคติการทำทีมของเฮดโค้ชว่า...ไอ้ที่เราฝึกซ้อมทีมในสไตล์ที่ทำอยู่เป็นรูทีนน่ะ มันเช้าชามเย็นชาม ก็แค่ซ้อม เล่นๆ เล่นเหยาะแหยะ เล่นลิงส่งบอลแบบเคาะบอล ป้ายบอล เพลย์เมกเกอร์จะเล่นบอลช้าบอลเร็วก็เรื่องของกู สตาฟฟ์โค้ชก็ไม่ได้สนใจติวเข้ม ไม่เน้น ไม่ลงในรายละเอียด ปล่อยมันเรื่อยเปื่อย ด้วยคิดเหมือนกันหมดว่า...ซ้อมแค่ซ้อม ไปเอาจริงในเกมแข่งก็ได้...มันคือวิถีทำบอลอย่างมืออาชีพจริงหรือ? เราทุ่มเทเพียงพอแล้วหรือยัง
         
        ไอ้นักบอลที่คิดว่าตัวเองเล่นเก่งแล้วขี้เกียจซ้อม ซ้อมมันก็พอผ่านๆ เหยาะแหยะ ซ้อมหนักก็พาลเกลียดสตาฟฟ์โค้ช มึงจะรู้ดีกว่ากูที่ลงสนามได้ยังไง...อย่างนี้ไม่ใช่นักบอลอาชีพที่สมควรเลี้ยงไว้หรอกครับ
       
        ผมว่า คนทำบอล แค่ติดตามอ่านเรื่องของธีรศิลป์ทุกๆ วัน จะรู้เลยว่า...มืออาชีพเขาทำบอลเข้มข้นอย่างไร นักเตะซูเปอร์สตาร์ทำไมมันสุดยอด
         
        ผมไม่รู้ว่าธีรศิลป์จะได้เซ็นสัญญากับแอตเลติโก มาดริด หรือไม่
        
        แต่ที่แน่ๆ ในหนึ่งเดือน เขาจะเป็น "เทพมุ้ย" ที่เก่งโคตรๆ กว่าที่เคยเป็น แน่นอน
        
        
-ยอดทอง- 

Views: 950

Reply to This

Replies to This Discussion

ขอให้ทำได้นะครับ มุ้ย เปนกำลังใจห้ สู้ๆ

เห็นด้วยคับ...จะได้เซ็นสัญญาหรือไม่ก็ตาม...แน่นอนว่าสิ่งที่มุ้ยได้ จะสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาฟุตบอลไทยได้คับ

นักเตะไทยกับยุโรปความฟิตสภาพร่างกายต่างกันหลายเ่ท่าตัวเลย เรื่องวินัยการซ้อมก็เช่นเดียวกัน ยากที่จะได้ไปเล่นในลีกสเปน แต่ถ้าได้ไปคงจะทำให้ร่างกายและศักยภาพของเจ้ามุ้ยยกระดับไประดับโลกได้เลย ยิ่งเป็นคนสร้างกระแสบอลไทยให้เยาวชนได้เดินตาม

ผมเห็นด้วยกับชิมิโอเน ที่ว่ามุ้ยไม่ฟิต เท่าที่ผมติดตามข่าวเห็นเขาซ้อมยังกะคนป่วย โอกาสที่จะได้เช็นต์สัญญาคงยาก แต่ก็ขอเอาใจช่วย

เรื่องจริงครับ

ปกติถ้าไม่ลืมตัวและ เข้าใจตัวเองก็จะไปได้ไกล แต่ถ้าเอาแต่หลงตัวเองและจมปรักอยู่กับความสำเร็จเพียงครั้งเดียว ก็คงไปไม่ถึงฝัน ดูภารดร ซิทำไมถึงไปถึงอันดับ 10 ของโลก ไม่ใช่เพราะความตั้งใจและพยายามเหรอ แต่พอได้รับการยกย่อง และการยกหางจากหลายฝ่าย ความทะเยอทะยาน ความตั้งใจ ความมีวินัย และความฝันได้จมลงไปพร้อมกับ ความหลงละเริงในแสงสีและซื้อเสียง อันนี้มั้ง ที่เรียกว่าความไม่เป็นมืออาชีพ 

และเหตุการณ์ คล้ายๆกันจะเกิดกับธระศิลป์แน่นอน แต่ถ้าเค้าก้าวข้ามไปได้ เค้าจะเป็นนักเตะระดับโลกได้เช่นกัน แต่อุปสรรค ทั้งหลายท้งปวงน้้นยากที่จะเอาชนะ โดยเฉพาะการเอาชนะใจตัวเอง

โอกาสแบบนี้ไม่มีบ่อยๆ ขออย่าให้ น้องธีระศิลป์ หลงระเริง และหลงตัวเองจนลืมเป้าหมายที่วางไว้ก็แล้วกัน

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.