Members

ปัจจัยเรือล่ม!
ปัจจัยเรือล่ม!

ฟุตบอล : ตอนปั่นงานชิ้นนี้ ตัวผมยังไม่รู้ผลคู่ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เอฟเวอร์ตัน ว่าจะจบลงเช่นไร แต่หลังจากที่จบเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปพ่ายให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-3 เมื่อคืนวันเสาร์ ก็ทำให้อะไรที่มันค่อนข้างชัดอยู่แล้ว ยิ่งชัดขึ้นไปอีก

เพราะว่า ตอนนี้ ถ้าหากว่าทีม "ปีศาจแดง" สามารถเก็บชัยเหนือ เอฟเวอร์ตัน ได้ก็จะฉีกหนีเป็น 12 แต้ม ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 12 นัด ซึ่งดูแล้วคงเป็นเรื่องยากที่ทีม "เรือใบสีฟ้า" จะพลิกสถานการณ์กลับมาได้ เพราะดูแล้ว ดีไม่ดี จะมีพวกเขาที่พลาดเพิ่ม จนโดน ทำแต้มฉีกออกไปอีกก็เป็นได้

ต้องยอมรับครับว่ามาตรฐานในฤดูกาลนี้ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นตกลงไปมาก ไม่นับพวกบรรดาซูเปอร์สตาร์ประจำทีมเท่านั้น แต่พวกตัวเสริม พวกเกรดบีบวก อย่าง แกเรธ แบร์รี่ และเจมส์ มิลเนอร์ ปีนี้ฟอร์มการเล่นตกลงไปพอสมควร โดยเฉพาะในรายของ แบร์รี่ ที่ยิ่งเล่นก็ยิ่งแย่

ไม่จบก็เหมือนจบ

บอกตามตรง โดยส่วนตัวไม่เคยมองว่า แบร์รี่ มีฝีเท้าที่สุดยอด ขนาดที่ได้เป็นกองกลางตัวจริงของทีมระดับลุ้นแชมป์ อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยซ้ำ ที่น่าตลกคือครั้งหนึ่ง ลิเวอร์พูล พยายามจะเอาเขามาสู่ทีม แล้วปล่อย ชาบี อลอนโซ่ ออกไปจากทีมเมื่อหลายปีก่อน

ถึงตอนนี้ มันก็เป็นอะไรที่ชัดเจนแล้ว อลอนโซ่ ก้าวขึ้นไปถึงระดับโลกอยู่ในตอนนี้ ในขณะที่ แบร์รี่ ก็เป็นนักเตะธรรมดาๆ ที่ฝีเท้าหาได้ตามท้องตลาด และเป็นแค่ส่วนประกอบส่วนหนึ่งในทีมเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้สำคัญซะจนขาดไม่ได้

เจมส์ มิลเนอร์ ก็เช่นเดียวกัน ถ้าเป็นตัวเสริมลงมาแทนที่บรรดาตัวหลัก ในยามที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ ต้องการพักสตาร์บ้างมันก็โอเค แต่พอถึงยามที่เขาต้องขึ้นมาเป็นตัวหลัก เขาก็ไม่ใช่คนที่จะฝากความหวังอะไรกับทีมได้

ปัจจัยอีกอย่างก็คือ เรื่องของอาการบาดเจ็บ แม้ว่า แมนฯ ซิตี้ จะมีขุมกำลังอยู่เต็มทีม แต่คนที่สำคัญที่สุดในทีมมีอยู่ 2 คน คนแรกก็คือ ยาย่า ตูเร่ ส่วนคนที่สองซึ่งดูแล้ว สำคัญที่สุดก็คือ แวงซอง ก็องปานี ปราการหลังกัปตันทีม

ปีนี้ ก็องปานี มีปัญหาพอสมควรกับสภาพร่างกาย ต้องพักทีละหลายสัปดาห์ ซึ่งช่วงที่เขาบาดเจ็บ ตัวแทนในทีมอย่าง โจลีออน เลสค็อตต์ หรือจะเป็น มาติย่า นาสตาซิช ล้วนแล้วแต่ พร้อมจะเป็นบ่อน้ำมันทุกเมื่อ ยามที่เล่นร่วมกัน ทำให้ เกมรับของ "เรือใบสีฟ้า" นั้นเปื่อยยุ่ย ตลอดยามที่ไร้กัปตันทีมคนเก่งรายนี้

ในขณะที่ ยาย่า ก็เหมือนเดิม คือต้องไปช่วยทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ทำศึกแอฟริกันเนชั่นสฺ์ คัพ ซึ่งถ้ายังจำกันได้ ช่วงที่ ยาย่า ไม่อยู่เมือปีที่แล้ว โดยในช่วงนั้น ทางด้านของ แมนฯ ซิตี้ ก็มีปัญหา ทำแต้มหกเรี่ยราด ไปพอสมควรในช่วงดังกล่าว ก่อนที่สุดท้ายจะฮึดแซงคว้าแชมป์ไปได้ในที่สุด

แต่ปีนี้ไม่เหมือนกัน ตอนที่ ยาย่า ต้องออกไปช่วยทีมนั้น ซิตี้ ก็ยังตามหลัง ยูไนเต็ด อยู่พอสมควร และกว่าจะกลับมา ก็ตามไปซะ 9 คะแนน แล้ว ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ต้องมาเจอกับสถานการณ์จ่อเสียแชมป์แบบนี้

นักเตะที่ซื้อมาก็มีส่วนเหมือนกัน ตอนแรกที่ ซิตี้ ได้ตัว ไมคอน แบ็กขวาชาวบราซิล มาจาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัว เพียงแค่ 3 ล้านปอนด์ (150 ล้านบาท) ก็มีแต่คนชมว่า เป็นการซื้อที่ชาญฉลาด และผมก็งงเหมือนกันว่า ทำไมอินเตอร์ ถึงยอมปล่อย ไมคอน มาแบบสุดถูกขนาดนี้ ต่อให้สัญญาเหลืออีกเพียงแค่ปีเดียวก็เหอะ

แต่พอได้เห็นดาวเตะแซมบ้าเล่นก็เข้าใจแล้วล่ะ ว่าทำไม อินเตอร์ ถึงตัดสินใจแบบนั้น เพราะว่าการเล่นของ ไมค่อน ในตอนนี้ไม่ได้เหลือลายความเป็นแบ็กขวาอันดับ 1 ของโลกในอดีตเลย

และสุดท้าย ตัวกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่แม้ว่าจะเป็นคนที่พาทีมเป็นแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ว่า เขาก็ยังโดนปรามาสในฝีไม้ลายมือการคุมทีมอยู่ดี และปีนี้ยิ่งชัดเจนว่า มันชินี่ เริ่มตันแล้ว

คาดว่าช่วงปิดฤดูกาล คงจะได้มีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในถิ่นเอติฮัด อย่างแน่นอน ซึ่งถ้าหากกุนซือของพวกเขาในปีหน้า ไม่ใช่ มันโช่ ก็อย่าแปลกใจก็แล้วกัน

เรื่องโดย "The Nut"

เครดิต sport.sanook.

Views: 596

Reply to This

Replies to This Discussion

สุดท้ายคือการเปลี่ยนแปลงแน่นอนครับ เชื่อผม จะมากจะน้อยแค่นั้น ไม่ว่าจะเปนนักเตะ หรือโค้ช ตอนนี้ได้แค่ทำใจยอมรับ และคอยดูกันต่อไป แมนซิตี้สู้ๆ

สงคราความเงียบ หรือจะเป็นสงคราอารายน๊อ  

..มาถึงชั่วโมงนี้ปัจจัยที่จะทำให้ทีมพลิกฟื้นได้ยังมองไม่เห็นหนทางเลย..

ที่กลัวที่สุดคือการที่จะเป็นเหมือนเชลซีในจุดที่ตกต่ำที่สุดเมื่อไม่นานมานี้ T^T

อย่าไปเสียใจเลย...ขนาดแชมส์เก่ามาดริดยังตามหลังบาซ่าตั้ง16แต้มทีมที่ได้ชื่อว่าราชัน...ยังอยู่อันดับสามของลาลิก้าแล้วเราหละทีมที่กำลังจะยิ่งใหญ่ อย่าได้แค่ร์เลยกับที่สอง รักษาอันดับนี้เอาใว้ให้ดีที่สุดก็พอ เพื่้ิ้อฤดูกาลหน้าเราจะกลับมาเพื่อคว้าแชมส์6รายการ ฮึอึ 

ขอเเสดงความคิดเห็นร่วมด้วยเเล้วกัน....

กรณีนักเตะนั้นขอบอกตามตรงเลยว่าเกือบไม่เห็นด้วยทั้งหมด เนื่องจากกรณีฤดุกาลที่ผ่านมาก็นักเตะชุดนี้เเหละที่ทำผลงานได้งามหยดขนาด ส่วนฤดูกาาลนี้ในช่วงต้นของฤดูกาลก็ทำผลงานได้น่าสนใจทีเดียว ปัญหาที่ผมมอง อาจขออนุญาตมองต่างไปที่เรื่องของจิตวิทยา ระบบการฝึกซ้อม การปรับเปลี่ยนเเทคติกโดยรวมเเละเเทคติกรายเกมส์ที่ส่งผลถึงฟอร์มที่ขึ้นๆลงๆในตอนหลัง

ส่วนเรื่องนักเตะที่ขอพูดเฉพาะจาะจงลงไปหน่อยนั้น ขอพูดกรณี เเบรรี่ กับ มิลเน่อ , ผมมองว่าสองชื่อที่พูดถึงนี้เป็นชื่อคนที่เล่นเพื่อทีม เป็นตัวอย่างของความทุ่มเท ไม่ก่อปัญหาภายในทีมอย่างไม่มีข้อสงสัย วินัยดี เล่นตามเกมสที่สั่งโดยตลอด(เเม้ไม่พอใจก็ไม่ปริปากบ่น ทำต่อไปอย่างมืออาชีพ) ทุ่มเททุกนัดที่ได้ลง ไม่มีเรื่องทางลบซักนิส เรื่องทำลายสปิริตทีมไม่ต้องพูดถึง ไม่มีออกมาเป็นระยะๆให้ใครต้องปวดหัว ผมว่าพวกนี้คือนักกีฬาตัวอย่างในเรื่องนิสัย เป็น rule model ที่เด็กๆควรเอาเยี่ยงเอาอย่าง , ส่วนกรณีที่เล่นทุ่มเทขนาดนี้เเล้วผลงานที่ออกมาดีมั้ยนั้น เยกเป็นรายประเดน ของเเบรรี่ก่อน เเบรรี่นั้นรู้ก็รู้กันอยู่ว่าช้า เเต่สิ่งที่เเบรรี่มีมาชดเชยคือ ทางบอลที่ดีเเละสมองของการจ่าย บอล เเบรรี่เป็นนักบอลไม่กี่คนในทีมเเมนซิตี้ที่คุมจังหวะเกมสได้ ( ที่เหลือมีเตเบส กับ ยาย่า เเต่เเบรี่อยู่ในตำเเหน่งที่เหมาะสุด) การเลือกใช้เเบรรีนั้นจึงต้องระมัดระวัง หนัก เเข็ง เเต่ช้า จะให้วิ่งไล่ก็ต้องให้วิ่งไล่ในพื้นที่ที่จำกัด จะมาให้นั่งวิ่งไล่ทุกพื้นที่ในสนามย่อมไม่ได้ ต้องหาพื้นที่ให้เค้าเเละที่เหลือเอาเพื่อนที่มีศักยภาพร่างกายมีกว่ามาช่วยประคองไว้ (ไม่ใช่เอากราเซียมายืนคู่) ยกตัวอย่างการใช้งานนักเตะเเนวช้าเเต่หนักเเละจ่ายบอลดีเเบบ เฟรานี่ ให้ดูตัวอย่างมอยใช้เฟรานี่ เป็นตัวจ่ายบอล เเละเเทคนัก พาบอลไปกับตัวบางครั้งเเละสร้างพื้นที่ให้เค้าอยู่ เเบบนั้นน่ะ พอโอเค เเต่เเบบรี่มีข้อจำกัดไง จะให้ลงทุกนัดก็ไม่ไหว เพราะหลายนัดก็ต้องการกองกลางที่เร็วกว่า ก็ต้องเลือกปรับใช้เอาให้เหมาะสม , ส่วนกรณีมิลเน่อนั้น ผมตามดูตั้งเเต่อยู่วิลล่าเเล้ว ตำเเหน่งที่ทำให้เกิดเเละหล่อออกมาเลยคือกลางตัวรุก เพราะสไตร์ขยัน ดุดัน เเละจ่ายบอลด้วย จึงทำให้เป็นตัวเชื่อมเกมสไสตจ่าย+ขยันที่ดี(เเต่ไม่ใช่พวกพาบอลไปกับตัวนะ) พอมาซิตี้ ตอนเเรกโดนยืนขวาบ้าง เเบคบ้าง ออกมาบ่นไม่ถนัดอยู่เเว๊บเดียว เเวบเดียวจิงๆ เเต่พอไม่ได้ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปจนโชวผลงานในไสตร์กลางริมเล้นตัวขยันได้อย่างเยี่มยอดเหมือนท่ผ่านๆมา

ดังนั้นเรื่องนักเตะเจาะจงไปที่สองคนนี้ผมมองว่า มีความทุ่มเทเเละไม่ก่อให้เกิดปัญหาอะไรอยู่เเล้ว อยู่ที่การเลือกใช้เเละการวางเเผนการใช้งานมากกว่า ว่าทำได้เหมาะสมรึเปล่า (ซึ่งนักเตะในทีมนี้มักยอมอยู่เเล้วในการที่ต้องสำรองในเกมสที่ไม่เหมาะสมบ้าง ไม่มีปัญหาอะไรนี่หว่า ..)

ดังนั้นจึงขออนุญาตมองกันที่ภาพกว้างขึ้นเเละมุมต่อไปคือเรื่องจิตวิทยาภายในทีม การบริหาร เเละการวางเเทคติกโดยรวม+รายเกมส์ ..ทีมโดยรวมไม่เเน่ใจเลยนะว่าจิตวิทยาดีรึเปล่า?เพราะอาการของเกมสล่าสุดมันดูเเป่วๆยังไงไม่รู้ ใครได้ดูก็น่าจะมีคำถามว่ามันเกิอะไรขึ้นฟระ ไร้ใจ รึวางเเผนไม่ดี รึมีปัญหาภายในไรป่าวเนี่ย จิตใจดูไม่ค่อย เอา !!กันเลย ส่วนความสัมพันธ์ภายในทีมระหว่างนักเตะกับนักเตะตอนนี้ก็ไม่มีดูมีท่าท่าทีเลยนะว่าใครหมางใครรึเปล่า ก็คงโอเเหละ ...ส่วนโคทไม่รู้? อิอิ.. ครั้นเรื่องการวางเเทคติกโดนรวม พวกต่อบอลสั้น หลายจังหวะ ติดสิสัยรับต่ำ นำเเล้วไม่ค่อยเอาต่อในบางเกมสไรเงี๊ยะ ก็มีเพื่อนๆร่วมวิจารณ์กันมาทั้งฤดูกาลละ คงไม่ต้องพูดไรมาก เห็นๆกันอยู่ .... ต่อมาจะรุมว่าโคทอย่างเดียวก็ไม่รู้ว่าถูกต้องรึเปล่า ( เเต่ผมเชื่อว่า ทีมไม่ดี คนรับผิดชอบคนเเรกคือโคท 55++)เพราะเราไม่รู้ว่า อาการจริงๆที่เกิดขึ้นในตอนนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เเมนชินี มีปัญหากับบอร์ท(ซึ่งมีคนใหม่เข้ามา)รึเปล่า ใช้เกมสฟุตบอลเป็นเกมสการเมืองภายในรึเครื่องต่อรองจะทำอะไร อะไรรึเปล่า อันนี้ไม่รู้ ซับซ้อนเกินน

เเต่เท่าที่รู้คือ ตอนนี้ในบอร์ทของทีมมีการเปลี่ยนเเปลงขึ้นเเล้ว คงต่องตามมาดูเเละลุ้นกันต่อไปว่า บอร์ทจะเปลี่ยนเเปลงเเละเเก้ปัญหาทั้งเรื่องโคท เรื่องการบริหารทีม เเละเรื่องกฎการเงินในอนาคตยังไงบ้าง ..... ต้องตามดูกัลยาวๆ.....ฮ่าาาๆ

(พิมเหนื่อยเเฮะ ^"^  555++ )

ผมเห็นด้วย สุดท้ายมันโช่ก็ต้องรับผิดชอบ การเลือกใช้นักเตะในแต่ละเกมส์ ก็เลือกเอง จัดตัวลงเอง แท็คติกต่างๆ ก็เป็นคนสั่งเอง

นี่ถ้าผลล่าสุดออกมาไม่เสียหายขนาดนี้ ไม่เจอลูกเสียประตูแรกเร็วไป โจฮาทซองไม่แตก ไม่ส่งคืนประตูพลาดจนเสัยลูกสาม หรือหน้าเรายิงได้สัก 2 ลูก  ก็คงไม่มีแพะเกิดขึ้น

ความเข้าใจใน...ทีม...มันหายไป ?

ฤดูกาลกาลที่แล้วที่ฟอร์มดีเด่นในช่วงต้นฤดูกาลไม่ใช่อะไรที่เข้าใจยาก เพราะตอนนั้นสโมสรอื่น ๆ เน้นที่จะเปิดเกมส์สู้ทีมใหญ่ ๆ ทำให้นักเตะโดยเฉพาะกองหน้ายิงกระจาย แต่กลับกันฤดูกาลกาลนี้ทีมอื่น ๆ จะเน้นลงมาตั้งรับทั้งหมดและโต้กลับไว ทำให้พื้นที่ในการจ่ายบอลทะลุลดน้อยลง พอส่งไปก็ถึงประตูพอดี ดูได้จากฤดูกาลที่แล้ว ซิลบา นาสรี่ ยาย่า จ่ายบอลทะลุบ่อย ๆ แต่ฤดูกาลนี้ได้แต่เลี้ยงบอลหาพื้นที่ ทำให้นักเตะต่างจากฤดูกาลที่แล้วตรงที่เหนื่อยหนักกว่าจะหาพื้นที่ได้ เพราะนักเตะลงไปยืนคุมพื้นที่แน่นไปหมด ไม่ต่างกับพับสนามตั้งรับ ทำให้กองหลังของเราต้องดันขึ้นสูงพอเจอโต้กลับไวก็หลุดเอาง่าย ๆ นักเตะของเราคุณภาพสูงอยู่แล้ว แต่เมื่อพื้นที่ในแดนหน้ามันน้อยทำให้ต้องอาศัยตัวรับขึ้นเติมเพื่อให้่ช่องเปิด 

ทีมเราต้องหาตัวยิงไกล เจ๋ง ๆ สักตัว ไม่งั้นเจาะไม่เข้า ก็ทำอะไรไม่ได้เลย

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.