Members

เกม ลูกหนังกับเรื่องดราม่ามันเข้ากันยิ่งกว่าอะไรดี หลายครั้งที่ทีมบางทีมกำลังจะแพ้ แต่สุดท้ายสามารถพลิกนรกกลับมาได้จนคว้าชัยชนะไปครองหน้าตาเฉย หรือบางทีมที่ปีนจากหุบเขาอเวจีทะลุขึ้นมาเข้าแชมป์ได้ก็มีให้เห็น แน่นอนว่านี่คือเสน่ห์ของฟุตบอล และทำให้กลายเป็นกีฬาที่ครองใจผู้คนทั่วโลกในยุคนี้
 

แกเร็ธ เบล (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ชนะ เวสต์แฮม ยูไนต็ด 3-2 , วันที่ 25 ก.พ. 2013)
            สดๆ ร้อนๆ สำหรับความแรงเกินห้ามใจของ แกเร็ธ เบล ปีกซ้ายทีมชาติเวลส์ ที่โชว์ฟอร์มแรงเกินห้ามใจเหลือเกิน ช่วงที่ผ่านมาซัดไป 6 ประตูจาก 8 แมตช์หลังสุด แน่นอนว่าชัยชนะของ "ไก่เดือยทอง" ส่วนหนึ่งมาจากฝีเกือกของ เบล อย่างในแมตช์ล่าสุดที่คว้า 3 คะแนน ในเกมเยือน เวสต์แฮม ก็แหมใครจะคิดว่า สเปอร์ส จะชนะเพราะเหลือเวลาแค่นาทีเดียวเท่านั้น


             เรื่องแบบนี้หากเกิดกับทีมอื่นๆ คงถอดใจไปแล้ว เพราะบุกแทบตาย ยิงกระจายไม่ได้ประตู แต่เมื่อ สเปอร์ส มีชายหน้าวานรอยู่ในทีม ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้เสมอ และเท้าซ้ายที่แสนฉมังเมื่อสักไกเมื่อไหร่โอกาสได้ประตูมีเกือบเต็มร้อย และวันนี้ (วันจันทร์) เจ้าตัวก็ไม่ทำให้สาวก "น้องไก่" ผิดหวัง โดยส่งบอลทะยานฟ้าแหวกอากาศก่อนฮุบลงบริเวณษสามเหลี่ยมประตู ก่อนจะสงบนิ่งที่ก้นตาข่าย ในนาที่ที่ 89





เดวิด แพล็ตต์ (อังกฤษ ชนะ เบลเยียม 1-0, มิถุนายน 1990) 
            สำหรับแฟนบอลทีมชาติอังกฤษ ยุคนั้นคงไม่ลืมความยิ่งใหญ่ของ "สิงโตคำราม" ชุดคว้าแชมป์โลก 66 โดยในศึกเวิลด์ คัพ 90 ทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" ฟอร์มดีไม่มีย้วย แม้สุดท้ายแล้วจะไม่ได้สมปรารถนาก็ตาม สำหรับตอนนั้น พอล แกสคอยน์ เป็นนักเตะที่คอยขับเคลื่อนเกมให้กับ อังกฤษ และนำพวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย พบ เบลเยียม


            เกมนี้ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ทำผลงานได้เหนือกว่า แต่ อังกฤษ ตั้งรับได้อย่างแข็งแกร่ง และเกมมีทีท่าจะจบลงด้วยสกอร์ 0-0 และมีลุ้นที่ต้องดวลจุดโทษตัดสิน (ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ว่า บ็อบบี้ ร็อบสัน ผู้จัดการทีม เลือกใครยิงจุดโทษ) แต่จุดเปลี่ยนชีวิตเกิดขึ้นในช่วงนาทีสุดท้าย เมื่อ อังกฤษ ได้ฟรีคิก และ แพล็ตต์ โชว์สเต็ปเทพด้วยการวอลเล่ย์ทั้งๆ ที่หันหลังอยู่ บอลพุ่งเสียบข่ายอย่างงดงาม และนั่นคือประตูที่นำพวกเขาทะลุรอบ 8 ทีมสุดท้าย





แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ชนะ บาเยิร์น มิวนิค 2-1 , พฤษภาคม 1999) 
          ยุคนี้สโมสรลูกหนังเมืองผู้ดีไม่มีใครยิ่งใหญ่เท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่แน่นอนว่าหนึ่งในช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ และยังคงอยู่ในความทรงจำของสาวก "ผีแดง" (อาจรวมทั้งแฟนบอล บาเยิร์น) คงหนีไม่พ้นประวัติศาสตร์ในนัดชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนามคัมป์ นู เพราะมันเกิดปรากฎการณ์นาทีสุดท้ายเปลี่ยนชีวิต


          แมตช์นี้ แมนฯ ยูฯ มีปัญหาใหญ่เพราะ รอย คีน กับ พอล สโคลส์ 2 คีย์แมนสำคัญติดโทษแบน และสถานการณ์ของพวกเขายิ่งหนักอึ้งเมื่อโดน "เสือใต้" ได้ประตูนำไปก่อน ซึ่งรูปเกมก็ย่ำแย่เพราะ บาเยิร์น ไล่ยำอยู่ข้างเดียว แถมมีโอกาสทำประตูที่สองหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายโชคลาภวาสนาไม่เป็นใจก็เลยนำแค่ประตูเดียว


          อย่างไรก็ตาม เรื่องดราม่าเกิดข้นอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อ เดวิด เบ็คแฮม บรรจงเปิดลูกเตะมุมให้ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ยิงตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และเกมทำท่าจะต้องต่อเวลาพิเศษ แต่จังหวะเตะมุมของ "เบ็คส์" ส่งบอลเข้าทางปืน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สะกิดบอลเข้าไปตุงตาข่าย ส่งให้ แมนฯ ยูฯ นำ 2-1 และ "เสือใต้" ยังไม่ทันหยิบบอลออกมาเขี่ย ท่านเปาก็เป่านกหวีดยาวหมดเวลา และนั่นคือถ้วยที่ทำให้ "เร้ด เดวิลส์" คว้าทริปเบิ้ลแชมป์อย่างน่าเหลือเชื่อ





อันเดรส อิเนียสต้า (เชลซี เสมอ บาร์เซโลน่า 1-1, เมษายน 2009) 
          แม้ว่าประตูของ อิเนียสต้า ในนาทีสุดท้ายจะไม่ได้เจ๋งที่สุด แต่ถือว่าโคตรสุดยอดขอบอก เพราะประตูนี้ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของขุนพลทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก


          เชลซี อยู่ในสถานการณ์ที่ดีมากๆ เพราะขาข้างหนึ่งของพวกเขาก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแล้ว หลังจากที่พวกนำ บาร์ซ่า 1-0 ที่สนามสแตมฟอร์ด และดูเหมือนว่ายักษ์ใหญ่แห่งลีกกระทิงดุ ไม่มีปัญญาที่จะยิงประตูเสมอได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอยู่ในช่วงทดเจ็บ เรื่องที่สาวก "สิงห์บลูส์" ต้องหัวใจสลาย เพราะไม่เคยคาดคิดมันจะเกิดขึ้น


          จังหวะดังกล่าว ไมเคิ่ล เอสเซียง เตะพลาดในเขตโทษ ส่งผลให้บอลไปอยู่กับ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งเขาบรรจงผ่านบอลไปให้ อิเนียสต้า โดยเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อตะบันลูกหนังแม่งเหมือนจับวาง โดยลูกบอลพุ่งทะยานแหวกอากาศผ่านตัว มิชาเอล บัลลัค และลอยหนีมือ ปีเตอร์ เช็ก เข้าประตูไปอย่างสุดสวย ขอบอกว่าประตูนี้ทำให้ บาร์ซ่า ทะลุไปถึงรอบชิง และผงาดคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่


 
เดวิด เบ็คแฮม (อังกฤษ เสมอ กรีซ 2-2, ตุลาคม 2001)
         เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยช่วงเวลานั้น อังกฤษ โดน กรีซ นำอยู่ 1-2 ต่อหน้าต่อตาสาวกลูกหนัง "สิงโตสามตัว" โดยพวกเขาต้องการอย่างน้อย 1 คะแนนเพื่อจะได้ผ่านไปเล่นศึกฟุตบอลโลก 2002 รอบสุดท้าย แบบอัตโนมัติ ซึ่งหากสกอร์ยังเป็นแบบนี้ โอกาสที่ตั้งเอาไว้ก็จะหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย


         ดูเหมือนว่าในสถานการณ์ตอนนั้นชาวอังกฤษ และคนที่หลงใหลเกมลูกหนังเมืองผู้ดีต่างทำใจกันแล้วว่า ทัพ "สิงโตคำราม" คงต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟเพื่อชิงตั๋วไปเล่นที่เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น แต่อยู่ดีๆ ความหวังอันน้อยนิดก็เริ่มมีแสงเปล่งประกายเมื่อพวกเขาได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบ เขตโทษในช่วงนาทีสุดท้าย และ เดวิด เบ็คแฮม ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมือสังหารฟรีคิกขั้นเทพ รับหน้าที่ตะบันจังหวะนี้พร้อมแบกความหวังของคนทั้งชาติเอาไว้


          แน่นอนว่า "เบ็คส์" ไม่ทำให้คนทั้งชาติผิดหวัง เมื่อซัดฟรีคิกข้ามกำแพงมนุษย์ ก่อนจะพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม โดยสกอร์ที่เสมอกัน 2-2 ทำให้ อังกฤษ คว้าอันดับ 1 ของกลุ่ม และได้ไปหม่ำปลาดิบจิ้มกิมจิอย่างเอร็ดอร่อยเอ็นจอยรูปาก ที่สำคัญประตูของเขาทำให้แฟนบอลเพื่อนร่วมชาติลืมจังหวะโง่ๆ ที่โดนใบแดงในเกมกับ อาร์เจนตินา จนเป็นเหตุให้ทีมตกรอบ ในศึกเวิลด์ คัพ 1998





เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 3-2, พฤษภาคม 2012)

          เมื่อฤดูกาลที่แล้วถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับพรีเมียร์ลีก เพราะไม่มีเกมไหนที่จะจบซีซั่นได้ดราม่าขนาดนี้ คิดดูก็แล้วกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด 8 คะแนน จนกระทั่งวันสุดท้ายของซีซั่น "เรือใบสีฟ้า" ได้แชมป์เพราะมีผลต่างประตูได้เสียดีกว่า "ผีแดง" คิดดูก็แล้วกันว่ามันน่าเจ็บปวดขนาดไหนสำหรับสาวก "เร้ด อาร์มี่" ที่ต้องเห็นโทรฟี่สมัยที่ 20 หลุดมือไปหน้าตาเฉย


          สถานการณ์ในตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องชนะ ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งพวกเขาทำได้สำเร็จ และลุ้นให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่สามารถเก็บ 3 คะแนนในเกมพบ ควีนส์ปาร์ค ซึ่ง ปาโบล ซาบาเลต้า ทำให้ความหวังของ สาวก "เรือใบสีฟ้า" เบ่งบานยิ่งขึ้นเมื่อซัดประตูนำไปก่อนในครึ่งแรก และยังมีโอกาสที่จะทำประตูเพิ่มแต่ไม่สำเร็จ


          ครึ่งหลังเกมพลิกไปอย่างน่าเหลือเชื่อ เมื่อ ฌิบริล ซิสเซ่ กับ เจมี่ แม็คกี้ ซัดคนละลูกนำ "คิวพีอาร์" แซงหน้า แมนฯ ซิตี้ โดยตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในมือของ "ผีแดง" แล้ว แต่ เอดิน เชโก้ ช่วยเพิ่มความหวังให้ต้นสังกัดด้วยการซัดตีเสมอในนาทีสุดท้ายของเกม โดยสถานการณ์ตอนนี้ก็ยังคงเป็น แมนฯ ยูฯ ได้แชมป์ แต่แล้วพระเจ้าส่ง "กุน" มาพร้อมตะบันลูกหนังเข้าประตูในนาทีสุดท้ายของการทดเจ็บ และนั่นทำให้ "เพื่อนบ้านที่แสนน่ารำคาญ" กลายเป็นหนามทิ่มแทงหัวใจ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และเหล่าเกรียนแดงทั่วโลก จนน้ำตาไหลอาบแก้ม





ไมเคิ่ล โธมัส (ลิเวอร์พูล แพ้ อาร์เซน่อล 0-2, พฤษภาคม 1989)
          สถานการณ์ของ อาร์เซน่อล ในตอนนั้นมีเหตุผลเดียวที่จะทำให้พวกเขาได้แชมป์ก็คือต้องชนะ ลิเวอร์พูล และสกอร์ต้องไม่น้อยกว่า 2 ลูกเท่านั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากๆ เพราะการเล่นในแอนฟิลด์ (ยุคนั้น) เป็นอะไรที่ยากที่สุด เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าสนามเหย้าของ "หงส์แดง" มีไม่กี่ทีมที่จะบุกมาเอา 3 คะแนนได้


           ในเกมสุดท้ายของซีซั่น เหมือนสวรรค์ขีดเส้นให้ "เดอะ กันเนอร์ส" กับ ลิเวอร์พูล ต้องแย่งแชมป์กัน โดยเงื่อนไขของ "เดอะ เร้ดส์" แค่แพ้ไม่เกิน 1 ประตูก็ได้แชมป์ โดยสถานการณ์ในตอนนั้นเจ้าบ้านถูก อาร์เซน่อล นำอยู่ 1 ลูก จาก อลัน สมิธ และสกอร์ยังคงอยู่เท่าเดิมจนกระทั่งในช่วงทดเจ็บ นรกก็มาเยือนแอนฟิลด์อย่างไม่น่าเชื่อ


            เมื่อ ไมเคิ่ล โธมัส มีโอกาสซัดประตู และก็ไม่ผิดหวังเมื่อเขาส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ เล่นเอาสาวก "เดอะ ค็อป" เงียบกริบ ส่วนเสียงเฮดังสนั่นเป็นของแฟนบอล "ไอ้ปืนใหญ่" โดยในปี 1991 ลิเวอร์พูล ตัดสินใจดึงตัว โธมัส มาร่วมทีม แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้โชว์เทพเหมือนที่ทำกับพวกเขาได้เลย  
 




Create Date : 27/2/2556 
เครดิต สยามสปอร์ต

Views: 775

Reply to This

Replies to This Discussion

 แต่แล้วพระเจ้าส่ง "กุน" มาพร้อมตะบันลูกหนังเข้าประตูในนาทีสุดท้ายของการทดเจ็บ และนั่นทำให้ "เพื่อนบ้านที่แสนน่ารำคาญ" กลายเป็นหนามทิ่มแทงหัวใจ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และเหล่าเกรียนแดงๆๆๆทั่วโลก จนน้ำตาไหลอาบแก้ม 555 เกรียนแดง ชอบๆ ^^

อะไรกัน?????? ลืมประตูนาที 90+4 ของพอล ดิกคอฟเมื่อปี 99 ได้อย่างไร?????? ไม่มีประตูนี้ ไม่รู้วันนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะไปเล่นอยู่ลีกไหน

ว๊าวววว เรารอด

จดจำได้ทุกวินาทีต่อวินาทีไม่มีวันลืมเลยครับ ลูกนี้เป็นลูกประวัติศาสตร์จริงๆๆ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.