Members



        เมื่อศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษเริ่มเดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของฤดูกาล 2012-2013 บรรดาคอลูกหนังทั้งหลายคงเริ่มที่จะเห็นเค้าลางและพอจะเดาสถานการณ์ออกบ้างแล้วว่า ทีมไหนจะแหกโค้ง หรือว่าทีมไหนจะเข้าโค้งงามๆ แบบเข่าติดพื้นและเข้าเส้นชัยไปในที่สุด...


        ความมันส์ของการลุ้นตารางคะแนนช่วงโค้งสุดท้าย ทั้งลุ้นแชมป์และลุ้นตกชั้นคงจะสนุกไม่แพ้กัน ตัวแปรขึ้นอยู่กับความถี่หรือช่องว่างของคะแนน 3-4 ทีม ที่มีสิทธิ์ลุ้นเท่านั้น!! 555

        เรื่องโควตาที่ลุ้นตกชั้นนั้นเอาไว้ก่อนครับ มาพูดถึงโควตาของทีมที่มีสิทธิ์แย่งแชมป์กันดีกว่า

        ...ในอดีต การลุ้นฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของผมนั้น การเชียร์ทีมรักอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้คว้าแชมป์ลีกก็มีอุปสรรคคือทีมใหญ่ๆ อยู่ 3 ทีมเน้นๆ เลยก็คือ พวกบรรดาบิ๊กเนมทั้งหลายได้แก่ เชลซี, อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล เมื่อถึงเวลา 3 ทีมนี้ลงเตะ ผมจะเชียร์ทีมฝ่ายตรงข้ามโดยอัตโนมัติ 555 (ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นอยู่)

        ...แต่ช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ ผมขอใส่ชื่อทีมที่เป็นอุปสรรคในการคว้าแชมป์ของแมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่มมากขึ้นมาอีก 2 ทีมครับ ได้แก่ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ และ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เป็นที่รู้กันว่า เพื่อนร่วมเมืองแมนเชสเตอร์อย่างแมนฯ ซิตี้ ได้สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นคู่ปรับกับปีศาจแดงอย่างเต็มตัวและชัดเจน ตั้งแต่มีมหาเศษฐีเมืองน้ำมันเข้ามาเป็นเจ้าของทีม

        แมนฯ ซิตี้ มีนักเตะระดับโลกย้ายเข้าย้ายออกจากทีมกันเป็นว่าเล่น ด้วยเม็ดเงินมหาศาลจากเจ้าของทีมที่มีเหมือนกับกดสูตรโกงเกมและให้กันแบบไม่มีวันหมด 555

        ... นั่นก็บ่งบอกได้ว่า ทีมอย่างแมนฯ ซิตี้ จะอุดมไปด้วยนักเตะชั้นยอดไปอีกนาน จนกว่าเจ้าของทีมจะถังแตก และเมื่อไหร่ที่แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดพลาดขึ้นมา พลาดในที่นี้หมายถึง ฟอร์มตก และ รักษามาตรฐานเดิมในระยะยาวเอาไว้ไม่ได้ แมนฯ ซิตี้ นี่แหละครับ จะเป็นทีมแรกที่ลงชื่อเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอังกฤษแทนเพียงแต่ตอนนี้ ขอแค่หาสมดุลของทีมที่ลงตัวที่สุด และมีผู้จัดการทีมแบบ "เข้าใจรากฐานของทีม" และ "ไม่ฉาบฉวย" ชนิดที่จะเปลี่ยนใครก็เปลี่ยน

        ...ความคิดเห็นผมนะครับ แมนฯ ซิตี้ จะน่ากลัวกว่านี้อีกเยอะ ถ้า โรแบร์โต้ มันชินี่ ยังอยู่คุมแมนฯ ซิตี้ไปอีกอย่างน้อย 3 ปี

        ขอพูดถึง สเปอร์ส กันบ้างครับ ...ไก่เดือยทองในสายตาของผม มักจะเป็นทีมที่ท่าดีทีเหลวอยู่บ่อยๆ สังเกตได้ว่าทุกยุคทุกสมัยของสเปอร์สไม่เคยขาดผู้เล่นดีๆ เลย สเปอร์ส ถือว่าเป็นทีม ทีมหนึ่งที่มีผู้เล่นที่มีเชื่อเสียงมากมายอยู่ในทีมมาโดยตลอด แต่ผลการแข่งขันในบางนัดอาจไม่ค่อยโดนใจสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อพบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อิอิ ...

        แต่ช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ ช่วงที่ แกเร็ธ เบล แบ็กซ้ายหน้าคล้ายลิงฟอร์มกระฉูดแตกมาเรื่อยๆ นั้น ทำให้ฟอร์มโดยรวมของสเปอร์สดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจจะด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างรวมกัน สเปอร์ส ในตอนนี้จึงกลายเป็นทีมที่น่ากลัวมากๆ อีกทีมหนึ่งเลยทีเดียว

        มาถึงช่วงเวลาของการกาชื่อทิ้งกันบ้าง ...บอกตามตรงว่าในทาง ทฤษฎี ทีมที่ยังสามารถลุ้นแชมป์ได้อยู่ก็มีประมาณ 5 อันดับแรก ก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี้, สเปอร์ส, เชลซีและ อาร์เซน่อล

        ถึงคะแนนจะห่างกันมากพอสมควร แต่ในทางทฤษฎีแล้ว มันก็เป็นไปได้ ถึงโอกาสมันจะน้อยมากก็เถอะส่วนในทางปฏิบัตินั้น ขอกาชื่อ อาร์เซน่อล ออกไปก่อนนะครับ ไอ้ปืนใหญ่เป็นทีมที่ดีมีรูปแบบการเล่นที่สวยงามแต่ขาดความคงเส้นคงวา และที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ นักเตะในทีมไม่สามารถทดแทนกันได้ และประสบการณ์บนเวทีใหญ่ๆ ของแต่ละคนยังไม่มากพอที่จะยืนระยะในฟุตบอลโหดๆ อย่างพรีเมียร์ลีกได้

        แถมในฤดูกาลนี้ กุนซือสมองเพชรอย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องมาเจออุปสรรคกดดันเพราะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากผู้หลักผู้ใหญ่ในทีมและแฟนบอลอันเป็นที่ (เคย) รักอย่างหนักหน่วง ทำให้ฤดูกาลนี้อาร์เซน่อลเรียกว่าเข้าขั้นวิกฤตเลยทีเดียว

        ทีมต่อมาที่ขออนุญาตกาชื่อล่วงหน้าเลยคือ ศัตรูที่โคตรอันตรายอย่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เหตุเพราะว่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เชลซี ยกพลไปเยือน แมนฯ ซิตี้ แล้วก็ต้องผิดหวังกลับออกมาโดยไม่มีคะแนนติดไม้ติดมือ จุดเปลี่ยนแมตช์นี้คงจะไม่พ้นลูกจุดโทษของพี่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ยิงพลาดไป ทำให้ แมนฯ ซิตี้ กลับสู่เกมและเอาชนะไปได้ 2-0 และด้วยฟอร์มของเชลซีในฤดูกาลนี้มันแปลกๆ อาจจะเป็นเพราะการเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่ด้วยครับ จึงไม่ค่อยลงตัว ...ดังนั้นผมขอตัดชื่อเลยน้าาาา

        ต่อมาอันดับ 3 เจ้าไก่เดือยทอง ...อย่างที่บอกไปครับว่า สเปอร์สเป็นทีมที่น่ากลัวแต่! ผมมองว่าทีมอย่างสเปอร์สยังไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะรักษามาตรฐานฟอร์มอันร้อนแรงของทีมตัวเองให้ดี ในช่วงเวลาที่กดดันที่สุด คือโค้งสุดท้ายของซีซั่น ดังนั้นในทางปฏิบัติผมขอตัด!!

        และในตอนนี้ ก็เหลือเพียงแค่ แมนฯ ยูไนเต็ด ผู้เป็นจ่าฝูง และ แมนฯ ซิตี้ ผู้ตามตูดจ่าฝูง กับแต้มที่ห่างกันอยู่ 12 แต้ม ก็เรียกได้ว่าห่างอยู่พอสมควร ... ดังนั้น! ผมจึงขออออออ ไม่ตัด!! เหตุที่ไม่ตัดเพราะว่า มันมีประสบการณ์ที่น่ากลัวและน่าจดจำเป็นบทเรียนอยู่ครับ 555

        แฟนๆ แมนฯ ยูไนเต็ด หลายๆ คนคงจำกันได้เป็นอย่างดีนะครับ เหตุเกิดขึ้นเมื่อเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แมนฯ ยูฯ จับหูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างแน่นไว้ในมือข้างนึงแล้ว แต่!นักเตะที่ชื่อ กุน อเกวโร่ ดันซัดประตูในอีกสนามนึง ทำให้ แมนฯ ซิตี้ กระชากถ้วยกลับไปอย่างแรงจนหูถ้วยแทบจะหลุด! และดับฝันแมนฯ ยูฯ ลงชนิดตกตะลึงกันทั้งโลก

        แฟนแมนฯ ยูฯ อย่างผมก็อยู่ในอาการช็อกสิครับ ในมือถือแก้ว (แต่ไม่บอกว่าข้างในเป็นอะไร 555) ...ผมนั่งตาค้างอยู่กับจอใหญ่ๆ ที่แปะอยู่ที่ข้างฝาสักระยะเวลาหนึ่ง พี่ผมคนนึงเป็นแฟนลิเวอร์พูล และนั่งอยู่ข้างๆ ผม หัวเราะใส่ผมเบาๆ หึหึหึ แล้วพูดว่า "มันเกิดขึ้นจริงๆ ว่ะเกรท" น้ำตาผมแทบจะไหล...

        ดังนั้นบทเรียนนี้จึงสำคัญยิ่งสำหรับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับแมนฯ ยูฯ ไม่เว้นแม้กระทั่งเหล่าเร้ด อาร์มี่ ทั้งหลาย

        และประมาณกลางๆ เดือนเมษายน แมนฯ ยูฯ จะต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ แมนฯ ซิตี้ อีกด้วย แมตช์นั้นอาจจะเป็นแมตช์ตัดสินแชมป์อย่างไม่เป็นทางการก็เป็นไปได้...

        ถ้าการตัดชื่อแต่ละทีมออกในแบบที่ผมวิเคราะห์ เมื่อมันถึงเวลาแล้วเกิดพลิกล็อกขึ้นมา บอกตรงๆ ครับ ว่า "อาย" และ "ขออภัย"

        สุดท้ายนี้...หวังว่าท่านป๋าแพนด้าคงจะเน้นและวางแผนอย่างรัดกุมสุดชีวิตเพื่อไม่ให้รถขนถ้วยพรีเมียร์ลีก ยูเทิร์นกลับไปที่เอติฮัด สเตเดี้ยม อีกครั้งแน่ๆ

 

http://www.siamsport.co.th

Views: 566

Reply to This

Replies to This Discussion

ถึงจะบอกว่าไม่คาดหวังอะไรแล้วสำหรับแชมป์ลีก(แต่ก้อยังแอบหวังลึกๆอยู่ครับ อิอิ) 12 มันดุเยอะไปหน่อย แต่มันจะดูน้อยลงทันที ถ้าแมนยูแพ้สักเกม ให้หลือแค่ 9คะแนน ก่อนปลายฤดูกาลที่แมนยูต้องเจอ แมนซิตี้ เชลซี อาเซน่อล แบบนี้ยังพอให้ได้ลุ้นบ้าง แต่คจะยาก ขอเอาที่2 กับแชมป์เอฟเอคัพน่าจะพอใจแล้ว ส่วนที่น่าลุ้นกว่า คือ สเปอร์ เชลซี น่อล ทีมไหนจะหลุดออกจากวงโคจรท้อป4 อดไปเล่น ucl ถ้าเปนน่อล(อดีตทีมรัก)คงจะเสียใจด้วยบ้างไม่มากก้อน้อย อิอิ

ขอชนะอย่างเดียวพอเเล้วจ่ะ ไม่ได้ไม่เป็นไรทำดีที่สุดเเล้ว ปีหน้าเอาใหม่

แฟนผี...อายเป็นด้วยเหรอ เห็นเวลาชนะแบบโกงๆทำเป็นดีใจออกนอกหน้านอกตา

..แมนยูซีซั่นนี้กับซีซั่นทีี่แล้วแตกต่างกันมาก..

..แตกต่างกันเพราะสิ่งเดียวคือ ..RVP !!

ฟอร์การเล่นแมนยูเทียบแมนซิตี้ไม่ได้ แต่ก้อเก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำ

แมนยูมีความหวังทุกนาที แม้ช่วงทดเจ็บ เพราะนักเตะคนนี้แหละ 

สำหรับเส้นทางที่เหลืออีก 11 แมทช์ของพรีเมียร์ลีก..

..คงยากที่จะเกิดปรากฏการณ์พลิกนรกโกงความตายได้อีกสำหรับซิตี้..

..มาุึถึงชั่วโมงนี้ เราคงต้องการตำแหน่งรองแชมป์กับแชมป์เอฟเอคัพเท่านั้น++

อดีตย้อนกลับไม่ได้...แต่ผมก็ชอบนึกถึงเสมอในฤดูกาลนี้

เช่นลูกที่เซโก้ยิงสโต๊กวินาทีสุดท้าย ลูกจะผ่านเส้นอยู่แล้ว

กองหลังสโต๊กดันสไลด์สุดตัวตัดออกมาได้ แทนที่จะได้ 3 คะแนน

เหลือ 1 คะแนน หายไป 2 อีกนัดคือบุกซันเดอแลนด์ทั้งเกม โดนลูกผีจับยัดของ AJ เด็กเก่า

หายไป 3 แต้มเลย และแสบสุดๆนัดเจอแมนยู นาทีสุดท้ายโดน RVP ยิงแฉลบน้าศรีผีจับยัดไปลงตรงกกเสาพอดิบพอดี

หายไปหลายแต้มเลยเพราะเจอกันเองไป-กลับ ไม่งั้นแต้มห่างไม่เกิน 5 แต้มหรอก แล้วท้ายๆผีต้องเจอเรือ สิงห์ ปืนด้วย

มีลนลานแน่ เรามีโอกาสแซงโค้งสุดท้ายแบบสะใจเหมือนปีที่แล้ว

 แต่ตอนนี้ผีนำ 12 แต้ม แทบจะผิวปากเล่นได้เลย สามารถแพ้ได้ตั้ง 4 นัดและเราต้องชนะให้หมด

เลิกหวังดีกว่า EPL แค่ทำให้ดีที่สุดอย่าให้ใครมาแซงที่ 2 ไปให้ได้ ไปเน้น FA ซึ่งถ้าไม่พลาดเรามีโอกาสตัดเชือกหรือ

ไปเจอผีในรอบชิง ต้องเตะล้างแค้นชนะผีให้แฟนๆเรือให้ได้ การชนะผีมันรู้สึก ฟินนนนนนน มากกกกก สำหรับผม

รองๆจากได้แชมป์เลย 555

ดูแล้วถ้วยสีฟ้าสวยกว่าถ้วยสีแดงผีแดงเยอะ

เรือใบ ใสสะอาด คอยดูนะ ผีเอ้ย

เรือสู้ไม่ถอยอยู่แร้ว อิอิ รอแมนยูแหกโค้ง555

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.