"ดีลอยต์" บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจกีฬา เผย ศึกพรีเมียร์ลีก ทุบสถิติการทุ่มเงินซื้อนักเตะกระจุยกระจาย หลังบรรดาสโมสรน้อยใหญ่จ่ายเงินเสริมทัพในช่วงเปิดตลาดรอบแรกรวมถึงกว่า 31,500 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อนถึงราว 1,890 ล้านบาทเลยทีเดียว

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สร้างสถิติใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อล่าสุดมีการลงทุนในตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรกที่เพิ่งปิดตัวลงไปเมื่อวันจันทร์ที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นเม็ดเงินมูลค่ามหาศาลถึง 500 ล้านปอนด์ (ประมาณ 31,500 ล้านบาท) เลยทีเดียว ตามรายงานจาก "ดีลอยต์" บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจกีฬา เมื่อวันอังคารที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา

ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะที่ผ่านมา โรบินโญ่ กองหน้า เรอัล มาดริด โยกมาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,047 ล้านบาท) และ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 30.75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,937 ล้านบาท) พ่วงเงื่อนไขปล่อยตัว เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ หัวหอกทีมชาติอังกฤษ ชุดยู-21 ปี ให้กับ "ไก่เดือยทอง" ยืมตัว 1 ฤดูกาล อันเป็นเหตุให้การซื้อขายดังกล่าวทำให้มูลค่ารวมสูงกว่าเมื่อปีก่อน มากกว่า 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,890 ล้านบาท) เลยทีเดียว

พอล รอว์นส์ลี่ย์ ผู้อำนวยการบริษัท "ดีลอยต์" กล่าวว่า "ระดับการใช้เงินในการซื้อขายนักเตะของลีกอังกฤษ ถือว่าสูงกว่าการใช้เงินของลีกแห่งอื่นในยุโรปมาก ด้วยการที่กระแสรายได้ส่วนใหญ่ของพวกเขาที่มีการรับประกันทางสัญญาอยู่แล้ว สโมสรฟุตบอลอังกฤษกำลังพิสูจน์ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นต่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความท้าทายในปัจจุบัน ขณะที่ฟุตบอลไม่ใช่เกราะป้องกันภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจ มันก็เป็นตัวต้านทานความตกต่ำทางเศรษฐกิจไปพร้อมกันด้วย"

ทั้งนี้ เมื่อนำยอดเงินซื้อนักเตะในช่วงปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรกไปรวมกับช่วงเดือนมกราคมที่ผ่าน ผลปรากฎว่า มีการทุ่มเงินซื้อนักเตะในช่วงปี 2008 ถึงราว 675 ล้านปอนด์ (ประมาณ 42,525 ล้านบาท) ขณะที่ปีก่อนยอดรวมอยู่ที่ 531 ล้านปอนด์ (ประมาณ 33,453 ล้านบาท)

http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/080903_013.html