ปิดฉากเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตลาดซื้อ-ขายนักเตะ ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ตามเวลาเมืองผู้ดี หรือเช้าตรู่วันที่ 1 ก.ย. 51 ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย

ซึ่งก็สร้างความฮือฮากันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับการซื้อ-ขายช่วงก่อนถึงขีดเส้นตาย ที่เซอร์ไพรส์สุดๆ เห็นจะเป็น "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าตัว โรบินโญ่ หัวหอกทีมชาติบราซิลมาเสริมทัพยาว 4 ปี

แมนฯ ซิตี้ ที่เพิ่งได้เจ้าของสโมสรคนใหม่ อย่าง "อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ฟอร์ ดีเวล๊อปเมนต์ แอนด์ อินเวสต์เมนต์" กลุ่มนักลงทุนทางธุรกิจจาก ยูเออี ยอมควักเม็ดงินมหาศาลให้ เรอัล มาดริด เพื่อเป็นค่าตัวดาวเตะเจ้าของฉายา "นิว เปเล่"

โดย โรบินโญ่ ยิงให้ "ราชันชุดขาว" 25 ประตู จาก 101 นัด ขณะที่ผลงานสมัยอยู่กับ ซานโต๊ส ดาวยิงชาวแซมบ้าซัลโวไป 44 ประตู จาก 104 นัด

จากนี้คงต้องจับตาดูให้ดีสำหรับนักเตะรายนี้ เพราะตัวเลข 32.5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2,047 ล้านบาท คือค่าตัวของ โรบินโญ่ ที่กลายเป็นการซื้อนักเตะที่แพงที่สุดของพรีเมียร์ลีกไปเรียบร้อย

ทุบสถิติเก่าของ เชลซี ที่กล้าๆ จ่าย 30 ล้านปอนด์ เพื่อแลก อังเดร เชฟเชนโก้ มาจาก เอซี มิลาน และดาวยิงทีมชาติยูเครนก็ล้มเหลวไม่เป็นท่ากับความคาดหวังของแฟนบอล "สิงห์บลูส์"
นอกจากนี้ทีม "เรือใบสีฟ้า" ยังเกือบจะช็อกแฟนบอล "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการสวมบทมือที่ 3 ยื่นข้อเสนอจำนวน 30 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,890 ล้านบาท หวังฉก ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ ตัดหน้าคู่แข่งร่วมเมือง

ยังดีที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "เร้ด เดวิลส์" ใช้กล่อมผู้บริหารให้ยอมควักงบประมาณ และลงทุนไปรับดาวยิงทีมชาติบัลแกเรียถึงสนามบิน ก่อนจะพามาที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อเกลี้ยกล่อมจน ดาวเตะวัย 27 ปี ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ "ผีแดง" ได้ทันการณ์

ซึ่งการย้ายทีมของ "เบิร์บ" ครั้งนี้ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงลำดับที่ 2 ของเกาะผู้ดี ต่อจากศูนย์หน้าตัวใหม่ของซิตี้ ด้วยตัวเลขมหาศาลไม่แพ้กัน ถึง 30.75 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,937 ล้านบาท พ่วงเงื่อนไขส่ง เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ให้ "ไก่" ยืมตัวอีก 1 ฤดูกาล

จบแบบนี้ก็ต้องบอกว่าแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย ทั้ง สเปอร์ส ที่คุ้มสุดคุ้ม เพราะจ่ายให้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เพียง 10.9 ล้านปอนด์เท่านั้น ทว่าหากในยามที่ไร้ "เบิร์บ" แล้ว ไก่จะกระต๊ากได้หรือไม่ เพราะเปิดซีซั่นใหม่มาสามนัดยังไม่ชนะใครเลย

ฝั่ง แมนฯ ยูฯ เองก็สุขสมหวังไม่แพ้กัน เพราะต้องบอกว่าได้ตัวดาวยิงที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงที่สุดคนหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจาก กองหน้าวัย 27 ปี จะยิงถึง 46 ลูกจาก 102 นัดให้ "ไก่เดือยทอง" แล้ว


ต้องยอมรับว่าหมอนี้ชำชองสุดๆ ยิงให้ ซีเอสเคเอ โซเฟีย 25 ประตู จาก 50 นัด และยิง 69 ประตู จาก 164 นัด กับ "ห้างขายยา" แถมในนามทีมชาติบัลแกเรีย กดไป 43 ประตู จาก 43 นัด

เมื่อพลิกปูมประวัติการทะลวงทวารคู่แข่งของ "เบิร์บ" มาแบบนี้ คงทำให้หลายท่านหายสงสัยว่า ทำไมกัน เซอร์ อเล็กซ์ ถึงยอมลงทุนไปรับเจ้าตัวถึงสนามบินด้วยตัวเอง

สุดท้ายขอสดุดีกับความร่ำรวยของ "ไฮดร้า พร็อพเพอร์ตี้ส์" บริษัทพัฒนาทรัพย์สินใน อาบู ดาบี ตัวแทนของ "อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ฟอร์ ดีเวล๊อปเมนต์ แอนด์ อินเวสต์เมนต์" (เอดียูจี) โดยมี ดร. ซูไลมาน อัล-ฟาฮิม ประธานบริหาร

เพราะพี่แกโชว์พลังด้วยการประกาศกร้าวขอคว้าสามดาวเตะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จาก แมนฯ ยูไนเต็ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส จาก ลิเวอร์พูล และ เชส ฟาเบรกาส จาก อาร์เซน่อล มาเสริมทัพ...