Members

ผมว่าตอนนี้แฟน ๆ แมนซีตี้ (น่าจะทั่วโลก) อยากให้มีการเปลี่ยนผู้จัดการ

แต่อย่าลืมเรื่องหนึ่งครับ 

ให้มองในแง่ธุรกิจ

1. มูลค่าผลตอบแทนจากถ้วย FA ไม่มากเหมือนพรีเมียร์ลีคหรือ UEFA

และมันโช่พลาดทั้งสองถ้วยมานานแล้ว แต่ก็ยังอยู่ได้

2. มันโช่เหลือสัญญาอีกร่วม 3 ปีครึ่ง แล้วยังเซ็นที่มูลค่าสูงมาก ถ้าปลดตอนนี้บอร์ดซีตี้จะต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาไม่ใช่น้อย ก็คงต้องวัดใจท่านชีค ว่าจะลดค่าใช้จ่ายด้านนี้ลงแล้วให้โอกาสมันโช่อีกครั้ง

หรือตามใจแฟน ๆ และมองอนาคตที่อยากเปลี่ยน

3. ถ้ามองเฉพาะถ้วยลีค ยักษ์ใหม่ 2 สี ปีศาจแดงกับสิงห์น้ำเงิน กำลังจะเปลี่ยนผู้จัดการทีมเหมือนกัน ผีแดง ยังไงก็คงยังไม่ทันกลับมาเหมือนเดิม ส่วนสิงห์ ก็ยังการันตีไม่ได้ว่าจองแชมป์แน่นอน

ในมุมมองบอร์ดแล้ว มันโช่ที่ได้ที่ 2 ตอนนี้ ผมเดาว่าฤดูกาลหน้าอาจจะมีลุ้น

4. ถ้ามองถ้วยยุโรป ผมว่ามันโช่ยังไม่ไหวครับ เจอสโมสรใหญ่ลีคอื่นแล้วง่อยตลอด ทั้ง ๆ นักเตะไม่ได้ด้อยเลย

ใจผมอยากบ๊ายบายมันโช่เหมือนกัน

อยากได้จุ๊ปป์ ไฮเกส แต่คงต้องรอดูบอร์ดกับประกาศเว็บสโมสรอย่างเดียว 

Views: 1198

Reply to This

Replies to This Discussion

ครับท่าน onitama ยังสรุปไม่ได้กันเรื่องโมเดลระยะเวลาที่ควรให้กับผู้จัดการทีม

ตัวอย่างปัญหาอื่นๆที่ท่านยกมา การรีดศักยภาพนักเตะที่ปีนี้ก็ต้องยอมรับว่าดรอปไปเยอะ

การต้องการแทคติกในระดับยุโรป และการแก้เกมให้ทัน การสร้างฐานแฟนบอลด้วยการเข้ารอบ

UCL ให้ได้ .... ผมมองไปมองมานี่ ราฟาบ๋อยอ้วนตอบโจทย์ทั้งหมดเลยนะนั่น 5555 ล้อออออเล่นนะ

หวังว่าปีหน้าบอร์ดคงแก้ปัญหานี้ได้ ผมยังอยากเห็นเกมบุกยิงคู่แข่งกระจายแบบปีที่ได้แชมป์อยู่

แต่ก็ยังอยากเห็นเราเสียประตูน้อยด้วย แหยงยุคมาร์คฮิวซ์ ยิงกระจายบุกกระจุย แต่ก็เสียกระจายไปด้วย

ถ้าต้องเอาราฟา ผมขอมันโช่เหมือนเดิมดีกว่าครับ

จริง ๆ นะ 

ยังไงผมก็ไม่ชอบสไตล์ราฟา  

ชอบกระทู้นี้มาก....กดไลค์ๆๆๆๆๆๆ
จะปลดโค้ชทั้งทีผลกระทบร้อยแปดพันเก้า ประธานสโมสรมีทีมที่ปรึกษาที่มีความสามารถสารพัดด้าน(ก็ลงทุนซะขนาดนี้) เค๊าคงช่วยกันวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียในทุกด้านและตัดสินใจสรุปทางออกที่เชื่อว่าดีที่สุดทั้งในระยะสั้นและยาว เชื่อว่าการตัดสินใจของสโมสรน่าจะดีกว่าความรู้สึกของเราๆ แน่นอน กองเชียร์ก็คือกองเชียร์เน้นหลักๆก็ชูถ้วย แต่เจ้าของเงินมีอะไรมากกว่านั้นเยอะแยะ

ผมก็มองว่าเรื่องเวลาก็มีผลฮะ

เเต่ด้วยทั้งนั้นทั้งนี้ เวลาไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยเดียวที่พวกเราเอามานั่งวิตกกัน เรารู้กันอยู่เเล้วว่าการทำอะไรให้ยั่งยืนนั้น ต้องใช้ทั้งเเผน สั้น กลาง ยาวประกอบกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ผมเองนั้นเชื่อสุดใส้ติ่งว่าทีมเรานั้นได้มีการวางเเผนระยะยาวไว้เเน่นอนอยู่เเล้ว ถ้าทีมเราเป็นทีมเศรษฐกิจวางเเผนปั้นทีมไว้ขายเเบบเศรษฐีอเมริกัน เราคงไม่ลงทุนไปกับทีมมากมหาศาลถึงขั้นคำนวนจุดคุ้มทุนยากขนาดนี้ ซ้ำยังไม่มีท่าทีจะหยุดลงทุนอีก อันนี้ส่งให้เห็นว่า ทีมเราได้เปรียบทีมที่มีเจ้าของเป็นอเมริกันเยอะนัก ทั้งหงห์ ทั้งผี พวกนั้นน่ะ เอาเข้าจริงๆหนาวๆร้อนกันทั้งนั้น(ถ้าใครใคร่อยากจะคิดให้ลึกซึ้งนะ) วันดีคืนดีมีข้ออ้างขายทีมเอากำไรเฉย ใครจะรู้ (สังเกตุมั้ย เเมนยูไม่กล้าซื้อบ้าคลั่งเเบบเมื่อก่อนเเล้ว ประหยัดนะครับ)

มา ว่ากันต่อ นอกเรื่องไปเยอะ ทีมเรานั้นมันมีเเผนระยะยาวเเน่นอน เเต่คำถามก็คือ ทรัพยากรกับการสนับสนุนมันมาขนาดนี้เเล้ว มันมากพอประมาณเเล้ว เวลาก็ประมาณนึงเเล้ว(สำหรับมันโช่ก็สามปีเเล้ว ถ้าร่วมตั้งเเต่ปฏิวัติเรือก็ปาเข้าไปหกปีเเล้ว) มันโช่เข้ามาก็ในช่วงการเก็บเกี่ยวดอกออกผลครั้งที่หนึ่งเเล้วด้วยซ้ำ  การที่จะเริ่มเก็บเกี่ยวดอกผลจากโครงสร้างสโมสรเเบบใหม่ มีชงมีเเชมป์ติดมือมั่งยย่อมควรมีเเน่นอนอยู่เเล้ว

ตอนนี้คำถามจึงไม่ใช่ มันโช่มีผลงานมั้ย ถ้าวัดเป็นถ้วยก็คือ มี มีเเน่นอน เเต่คำถามที่น่าถามกว่านั้นคือ ทีมมันยังไม่หยุดพัฒนานะ สโมสรลงทุนไปเยอะเเละยังน่าจะต่อเนื่องต่อไปอีก ย่อมต้องตั้งคำถามตามระยะทางว่า ตอนนี้เฮดโคทคนนี้ยังฝากความหวังกับการปั้นทีมระยาวได้มั้ย

ดังนั้นเราจะใช้เกณฑ์การวัดความสำเร็จเเบบไหนครับ มันก็ต้องมาตั้งคำถามเเบบฝรั่งเรื่อง ประสิทธิผล(เเอบวิชาการนิส ฮ่าๆ) ถ้าเอฟเวอตั้นโดยเดวิดมอย ลงทุนเท่านั้น ทีมมาเท่านี้ คะเเนนประสิทธิผลควรเป็นเท่าไรครับ เเล้วถ้าสวอนซีลงทุนเท่านั้น ประสิทธิผลเท่านี้ เราควรให้คะเเนน ตาลาว ด๊วฟ เท่าไรครับ เเล้วหันกลับมาดูทีมของเราเอง มันโช่เอง ควรประเมินเเล้วคิดว่า ตัวเองควรได้คะเเนนเท่าไรครับ กล่าวโดยเห็นภาพง่ายๆเเละไม่เอาอารมณ์ร่วมมายุ๊บยั๊บก็ประมาณเนี๊ยะเเหละฮะ เอาคร่าวๆ วิชาการมากกว่านี้จะไม่ใช่เวปบอลเอา

ดังนั้นมันจะเห็นภาพง่ายฮะ ว่าเฮดโคทเราตอนนี้ มีประสทธิภาพเเค่ไหน อะไร ยังไง

เเละควรเก็บไว้รึเอาออก ก็เเล้วเเต่บอร์ดฮะ

^^

พอสรุปแนวคิดพี่่เต้ยได้ว่า ตอนนี้เป็นสเตจที่ 2 เพราะชี๊คเราไม่ได้ซื้อสโมสรมา

พัฒนาแล้วขายต่อแบบปลิงสโมสรอื่น เพราะยังหาจุดคุ้มทุนไม่เจอ เลยต้องพัฒนาต่อไปสเตจ 2

เงินลงทุนสเตจ1 มันโช่มาทำและเก็บเกี่ยว(แชมป์ไปแล้ว) แต่ไปสเตจ 2 และ 3 ต่อไม่ไหวเพราะได้แชมป์น้อยกว่าการลงทุน

งั้นผมขออนุญาต พี่เต้ยแตกประเด็นต่อ คือในสเตจ 2 นี่ คนมาใหม่จะต้องเอาทุนเป็นตัวตั้ง แล้วลบด้วยผลงานเป้าต่อไปคือ

แชมป์เดิม EPL และ สโมสรยุโรป UCL ผจก.คนใหม่จะต้องตอบโจทย์เหล่านี้เป็นหลัก

สเตจแรกใช้เวลา 6 ปี มันโช่ใช้ 3 ปีหลัง ยังสงสัยอยู่ว่าเฟส 2 นี่ เรื่องระยะเวลาที่เขาจะให้กับผจก.ใหม่จะเป็นเท่าไหร่

เพราะทำทีมบอลใครเข้ามาใหม่มันก็ต้องมาเริ่มที่ 0 จัดนักเตะ ปรับแทคติก สร้างทรงบอล ฯลฯ นับถ้วยใบแรกของเขาถ้าได้ก็

เป็นนับ 1 เข้ารอบลึก UCL ก็เป็นนับ 2 แต่ที่ผมห่วงนะพี่เต้ย แค่แพ้หรือเสมอในเกม EPL กองเชียร์ก็ด่ากันขรมแล้ว

ทำไม่ได้ตามเป้า ปลดอีกก็ต้องมาเริ่ม 0 นับหนึ่งกันใหม่(ในสเตจที่2) ก็หวังว่าบอร์ดจะเลือกหยิบ "คนที่ใช่" มานะ กองเชียร์

ลุ้นอะ ...มันโช่ 2 ปีเครียร์สเตจ 1 ได้ 2 แชมป์ พอเข้าเสตจ 2 ปีแรกก็เอาตัวไม่รอด มองไปมองมาโจทย์สเตจ2แบบนี้

คร๊อป น้ามู จุ๊ป อาจจะ "เอาอยู่" ต่ำกว่านั้นก็ลุ้นระทึกแหละ  

เย้ ๆ.... มีคนเข้ามาอ่านด้วย ดีใจๆ    ^_^

ไม่ครับ ผมไม่ได้หมายความว่ามีสเตจ 1,2,3 ชัดเจนขนาดนั้น เเละคงไม่ได้วัดความสำเร็จไปเเค่วัดมิติของการเเค่ได้ถ้วยใดถ้วยหนึ่ง รึก้าวเข้าไปบนถนนสายยุโรปได้เเค่รอบใดรอบหนึ่งซะทีเดียว

เอาง่ายๆ ตั้งร้านอาหารปีเเรกเป็นที่รู้จักระดับตำบลขาดทุนช่างมันขอมีตัวตนขึ้นมาก่อน  ปีสองขอเป็นที่รู้จักระดับประเทศขาดทุนยังช่างมัน(เเต่ระหว่างนี้มีตั้งโรงเรียนสอนเซฟเเละสร้างไร่ผลิตวัตถุดิบเป็นของตัวเองเเล้ว) ปีสามไประดับโลกโดยใช้เซฟ พนักงานในร้าน เเละวัตถุดิบจากตำบลนั้นไปขายทั่วโลก  เริ่มสร้างกำไรอย่างยั่งยืนละ เเบบนี้ฮะ

ผมมองว่าตอนนี้เรากำลังอยู่เเถวๆตำบล ดังนั้นการเลือกคนมาเป็นเชฟคนเเรกๆก็สำคัญฮะ ถ้าโคทดี ก็ไปต่อกันอีก เเต่ถ้ายังไม่ถึงระดับก้ปรับจูนใหม่ เอาที่สเป็กเหมาะสมกับเป้าหมายระดับประเทศ เเละมากกว่านั้นต่อไป

ส่วนที่มองว่า โคทมาใหม่เเล้วเริ่มใหม่จาก 0 อันนี้ผมมองต่างฮะ เหมือนเซฟที่เข้ามาช่วงรอยต่อระหว่างจังหวะตำบลกับประเทศเเหละฮะ เราก็ควรเลือกที่มาสานต่อจากระดับอาหารเดิมได้เเละสามารถพัฒนาอาหารเราให้อร่อยขึ้น ถ้าใครมาเเล้วถึงขนาดเริ่มจาก 0 อันนี้ไม่ใช่เชฟเเล้วฮะ อันนั้นมันเเค่พ่อครัว เเละคนไปเลือกมาควรโดนตีกระโหลกฮะ

ส่วนที่บอกว่า เลือกใครมาเป็นเซฟก็โดนด่า อันนั้นเเน่อยู่เเล้วฮะ เเต่ให้มองว่า ถ้าโดนด่าว่าอาหารอร่อยเเต่ถ้าทำตรงนั้นเพิ่มอีกนิสตรงโน่นเพิ่มหน่อย จัดจานให้สวยขึ้นบ้าง ผมว่าเซฟเเบบนี้โอนะ (เหมือนโคทที่คุมชนะ เเต่โดนเเขวะเล็กๆว่าเเต่ถ้าเล่นสวยกว่านี้จะดีนะ รึอะไรเทือกน้าน) เเต่ถ้าวันไหนเซฟที่เลือกมาโดนตำหนิว่า อะไรฟระ มีเครื่องปรุงเกรดเอชั้นเลิศ ราคาเเพงหามาจากต่างตำบลอย่างยากก  ปรุงอาหารความอร่อยได้เเค่นี้เองเหรอ เกรดบีบ้าง ซีบ้าง อร่อยไม่สม่ำเสมอ เเต่หน้าตาอาหารสวยนะ เเบบนั้นน่าคิดครับ

มันก็เลยเป็นคำถามเเหละครับ ว่าอยากพาเซฟคนไหนเดินไปด้วยกันในระยะยาว ถึงเเน่นอนเซฟทั้งสองคนทำอาหารออกมาขายได้ในระดับตำบล (ในตอนนี้)ได้ทั้งคู่ อาจขายดีอยู่พักใหญ่ด้วยเอ้า  เเต่ระยะยาว เเนวโน้มมันบอกได้ฮะ

ผมมองเเบบนั้นฮะ ผมไม่ได้มองว่ามันโช่ไม่เก่งนะ ผมมองว่าเเต่ละคนมีดีมีเเย่เเละมีข้อจำกัดของเเต่ละคนเป็นคนๆไป สโมสรต้องเลือกใช้ให้ดีฮะ

ปล . ส่วนเรื่องสเตจสองที่ถามว่าจะใช้เวลาเท่าไร ตอบเป็นตัวเลขยากฮะ เเต่ถ้าผมอธิบายตามข้างบนไม่รู้จะพอเข้าใจความมั่วมึนงงของผมรึเปล่า   ผมเเอบมองเองว่า เสตจ2(ตามความหมายของท่าน) น่าจะมีเป้าหมายที่สร้างตัวเองเป็น โกลเบิลเเบรนด์ โดยใช้เวลา ใช้สื่อ เเละใช้ความสำเร็จในถ้วยระดับยุโรปเป็นเครื่องมือเบิกทางประกอบกันไป คิดเหมือนเรื่องร้านอาหารเเหละฮะ ถ้วยยุโรปเป็นเเค่เครื่องมือนึงเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก เเต่ไม่พัฒนาไปลึกขึ้นอาจเป็นคำถาม เต่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดฮะ เรื่องโรงงานสร้างวัตถุดิบ เรื่องโรงเรียนผลิตพนักงานก็เป็นเกณฑ์วัดด้วยเช่นกันฮะ

ผมมองว่าบอร์ดคงเกากบานเรื่องพวกนี้หนักกว่าขาวิจารณ์คีบอร์ดเเบบเราเยอะ

ปล.2 อย่าเรียกผมว่าพี่เลยฮะ ผมอายุไม่เยอะหรอก ถ้าเรียกไอ้เต้ยได้จะเป็นพระคุณอีกต่างหาก 

อิอิ ^_^

5555 คุณเต้ยตอบได้เห็นภาพเลยนะครับ เหมือน OTOP ไทยไปสู่ Global Brand 

แบบนี้ "บ๋อย" อ้วนหมดสิทธิ์ซินะ เพราะเป็นแค่บ๋อย มันโช่เป็น "พ่อครัว" แล้้วตอนนี้มุ่งหา "เชฟกระทะเหล็ก"

แตกประเด็นอีกนิด....ผมว่าร้านอาหารนี้มันยังขาด "ดราม่า" ในสเตจต่อไปครับ เพราะเดี๋ยวนี้เขาไม่ได้กินอาหาร

อย่างเดียวครับ แต่ต้องกินอาหารบวกด้วย ++++ ในที่นี้น่าจะเป็นดราม่า เหมือนสตาร์บั๊คที่ดื่มกาแฟ+อเมริกัน

ไลฟ์สไตล์ ผมจุดประเด็นนี้ขึ้นมาเพราะว่า ชี๊คใช้เรือใบไม่ใช่เพื่อ "ต่อยอดธุรกิจ"อื่นๆครับ

แต่ใช้มันเป็น "Power of Media" สำหรับรัฐอาบูดาบี ซึ่งเป็นฐานธุรกิจใหญ่ของชี๊ค เช่นสายการบิน เอทิแฮด

ไปจนถึงลูกหลานว่านเครือทั้งหลายที่จะเอา Brand มาผูก ปีที่แล้วเรือสร้างเรตติ้งกระจุยกระจายจากดราม่าคว้าแชมป์

สเตจต่อไป "การเลือกเชฟ" น่าจะออกแนวแรงๆ ทำอาหารได้อร่อยมากๆ เป็นข่าวได้เรื่อยๆ มูจึงน่าสนใจ แต่สิงห์

คว้าไปแล้ว ถ้าเอาพวกนิ่งๆแบบเปเยกรินี่มา หรือคนอื่นๆ บอร์ดคงต้องมั่นใจว่าทำอาหาร "อร่อย"จริงๆ

เพราะไม่มีสีสันอย่างอื่นหมกตัวอยู่ในครัวอย่างเดียว .... ส่วนกองเชียร์อย่างพวกเราอยู่แผนก "กินอย่างเดียวขอให้

อร่อย" ก็พอแล้ว (ดูชูถ้วย) ช่วงนี้คงต้องรอดูบอร์ดอะครับคุณเต้ย ไม่แน่พวกเดาๆแบบเราอาจเงิบก้ได้ 555

ปล.ขออภัยสมาชิกท่านอื่นๆรวมถึงเจ้าของกระทู้ที่ผมลากออกนอกเรื่องฟุตบอลทั่วไปซะเยอะ แฟนเรือใบท่านอื่น

อยากถกประเด็นก็เชิญได้เลยครับ 

อ้าวว ซวยเเล้ว เเอบมันสส......555++

ใช่ครับ ตั้งเเต่กระเเสขายวัฒนธรรมนำการบริโภคดังเมื่อ 10 ปีที่เเล้วเห็นจะได้ คนโลกเก่าโลกใหม่ก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาเกาะกระเเสวัฒนธรรมนี้อย่างไม่ขาดสายอย่างที่ท่านว่าเเหละฮะ อันนี้ไม่ทราบอีท่าไหน ไม่รู้บริษัทที่ปรึกษากลุ่มเศรษฐีอาหรับคนใดมาเจาะกระเเสนี้โดยใช้วัฒนธรรมฟุตบอลเป็นใบเบิกทางก็ไม่ทราบ ฟุตบอลอังกฤษเลยเเจ๊คพอร์ทไปเพราะเข้าถึงได้ง่ายในช่วงนั้นเเละยังราคาถูก+มีตัวเล่นเยอะกว่าลีกเสปนมาก( ตอนนี้ลีกอังกฤษเริ่มเต็มเริ่มไปฝรั่งเศษเเล้ว) เเต่อนาคตถ้ามองระดับโกลเบิลต้องเริ่มดูเพราะเรื่องเเบบนี้ต้องวัดฝีมือการพ่วงของคนที่มาทำด้วย ว่าได้เเค่ไหนเเละอยากไปเเค่ไหน โชคดีที่อาบูดาบีทุนหนานะเนี่ย เลยไม่วัดผลกันเเค่ชั่วข้ามคืน หวังเก็บกินกันไปนาน ทั้งในเเง่ world media เเละ world financial movement ( จึงๆ มี world cuture lanadscape ใหม่อีก เเต่ถ้าเอามาพูดยาวไปละ ...ฮ่าๆ)

คราวนี้ก็มาเจาะจงกันที่ คลัสเตอร์ฟุตบอลเล็กๆอย่างเรากับเกมสการเงินระดับโลกเเบบนี้เเหละครับ เข้าใจรึยังทำไมชิคถึงเย็นใจ เพราะมันเป็นเเค่งานเล้กๆหน่วยหนึ่งซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเมื่อไรก็ได้ในเกมส์ใหญ่ๆเเบบนั้นเองฮะ ตอนนี้นับว่าเราโชคดีที่คุณพี่เจ้าของคนเก่าเค้าเลือกเเนะนำขายให้ชิค ไม่ใช่เงินหนาเหมือนกันเเต่สัญชาติอื่น ตอนนี้เมื่อเห็นภาพรวมอันสุดมันสสของวงการฟุตบอลเเบบเราๆเเล้ว

ก็เชียร์กันต่อปาย .............. เฮ้ เรือสู้ๆ

( ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเถียงกันเป็นเถียงกันตายเลยฮะ ประโยชน์ของการเชียร์ฟุตบอลไม่น่าที่จะอยู่ตรงนั้น มันสนุกตรงที่บรรเทิงในกีฬาที่เราชอบ(เเบบถอนหัวไม่มีทางขึ้น) กับได้อยู่ในสังคมดีๆที่เราทุกคนมีส่วนร่วมต่างหากฮะ มันสสกว่าเยอะ ^_^)

(กระซิบ) เห็นเค้าว่าคุณพี่เจ้าของเก่า เค้าเป็นเพื่อนกันท่านชีคน่ะครับ 

5555 ขอบคุณครับ ถกกับคุณเต้ยมันดี ไม่มีไฝว้ อิอิอิ มองภาพรวมถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงเชฟ

ก็รับได้แล้วครับ...จากมุมมองแบบภาพรวม เบิร์ดอายวิว แต่ยังขาดมุมจากพ่อครัวมันโช่ ที่อาจจะมีเหตุผล

ของเขาล้งเล้งออกมาจากครัว เราไม่ได้เห็นว่า มันฝรั่งชั้นดีที่ซื้อมาอาจมีปัญหา หรืออยู่ๆตู้เย็นเสียช่างไม่

มาซ่อม คุณภาพอาหารเลยแย่ ถ้าให้ทำจานใหม่รับรองระดับเชฟมิชลิน 5 ดาว อะไรแบบนี้ก็ได้ จริงๆเรา

เป็นแค่คลัสเตอร์หนึ่งจริงๆ มองจากเกมระดับโลกของชี๊ค ทั้ง World Media World Financial

Movement ทีมงานเขาคงปวดกระบาลน่าดู  ไว้วันหลังผมคงต้อง ขอความรู้เรื่อง world culture

landscape จากคุณเต้ยบ้าง จะได้มองเรือใบลำที่เชียร์ได้กว้างขึ้นอีก...ขอบคุณที่ร่วมแลกเปลี่ยนกันครับ ^-^

อ่านความเห็นของแต่ละท่านเพลินเลย มันส์หยด

เท่าที่เช็คข่าวไปๆมาๆ

ผมว่า...

ยังสรุปอะไรไม่ได้เลยครับ - -'

ที่บอกว่าเอาไบรอัน คิดส์ มาแทนพอมานึก ๆ แล้วก็ไม่น่าจะจริง ไม่เห็นจะได้อะไร นอกจากกดดัน เพราะถ้าแทน ก็น่าจะประกาศปลดก่อน

เปเยกรีนี่ ที่มีข่าวใกล้เคียงสุด ก็บอกไม่มีการทาบทาม เอ๊ะ ยังไง

ผมว่าสุดท้ายเราจะได้พ่อครัวคนเดิมซะละมั้ง

แต่ถ้าหาดีกว่ามันโช่ไม่ได้ ผมก็โอละครับ

ถ้าจะเปลี่ยนก็ขอแบบ น้ามูกับปู๋จุ๊บไปเลย อยากได้แค่2คนนี้พอแต่อีกคนที่ผมอยากได้คือ อูไน เอเมรี่ผมว่าเค้าทำทีมได้ดีเหมือนกันตอนคุมบาเลนเซียขนาดบาเลนเซียเป็นหนี้บานยังทำทีมได้ที่ 3ทุกฤดูกาล(ความชอบส่วนตัว)

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.