Members

(น่าสนใจ) Action Replay : การกลับมาของ เอล นินโญ?

(น่าสนใจ) Action Replay : การกลับมาของ เอล นินโญ?

หนึ่งประตู หนึ่งแอสซิสต์ ในเกมพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้แฟนบอลเชลซีได้เฮดังๆ เมื่อคืนวันอาทิตย์ ว่าแต่ตอร์เรสพร้อมจะกลับมาคืนฟอร์มเก่งแค่ไหน



ผลจากเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นอกจากแฟนบอลเชลซีจะสมหวังกับผลสกอร์ที่ได้รับ พร้อมสามคะแนนเพื่อพาตัวเองกลับไปอยู่อันดับสองของตารางแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเขาพึงพอใจเป็นพิเศษคือ การเริ่มเห็น เฟร์นานโด ตอร์เรส มีแนวโน้มว่าจะกลับมาคืนฟอร์มเก่งอย่างที่เขาเคยเป็นก่อนสวมชุดสีน้ำเงินในลอนดอน

จาก 58.5 ล้านยูโร ที่โรมัน อับราโมวิช ควักจ่ายให้ลิเวอร์พูลในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2011ศูนย์หน้าเจ้าของฉายา “เอล นินโญ” เปลี่ยนจากเพชรฆาตระดับท็อปของยุโรป มาเป็นสัญลักษณ์แห่งการใช้เงินไม่คุ้มค่าตัวในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ อย่างรวดเร็ว จำนวน 24 ประตูในลีกฤดูกาลแรกที่แอนฟิลด์ ลดเหลือเพียง 16 ประตู เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูกาลที่สี่ในชุดสิงโตน้ำเงินคราม นับจนถึงเกมเฉือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้เมื่อวันอาทิตย์

ประตูแรกในลีกของดาวยิงทีมชาติสเปนภายใต้การคุมทัพของโชเซ มูรินโญ เกิดจากความพยายามมาแล้วทั้งสิ้น 13 ครั้งด้วยกัน และมันกลายเป็นประตูชัยล้ำค่าที่พาสิงห์บลูมีชัยเหนือคู่แข่งแย่งแชมป์อย่างแมนฯ ซิตี้ ด้วยการรับของขวัญที่มาติยา นาสตาซิช และโจ ฮาร์ท ร่วมกันประเคนให้เข้าไปยิงอย่างง่ายดาย


ไม่มีใครคิดจะปฏิเสธความผิดพลาดในแนวรับของเรือใบสีฟ้า แต่อีกมุมหนึ่งต้องยอมรับว่านี่คือผลตอบแทนจากการทำงานอย่างหนักตลอดทั้งเกมของเอล นินโญ ไม่นับรวมการฝึกซ้อมนอกสนามที่ เดอะ แฮปปี้ วัน เคยออกปากชมด้วยตัวเองว่า เฟร์นานโด ตอร์เรส คืออีกหนึ่งนักเตะที่ลงทุนลงแรงไม่น้อยไปกว่าใคร

หลังจากสองประตูในเกมถล่มชาลเก้ บนเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก - อีกหนึ่งประตูในนาทีที่ 90 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้ตอร์เรสยิงได้ถึง 3 ประตู จาก 2 นัด ทั้งยังเป็นการยิงสองนัดติดต่อกันที่เราไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักจากตอร์เรสในเวอร์ชันสิงห์บลู แถมในเกมจมเรือใบสีฟ้าที่เดอะ บริดจ์ เรายังได้เห็นอะไรดีๆ จากผู้ชายคนนี้อีกอย่างน้อยถึงสองจังหวะด้วยกัน

เฟร์นานโด ตอร์เรส

เกมพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้
ประตู
แอสซิสต์

ยิง
เข้ากรอบ
เลี้ยงบอล
 (สำเร็จ)
โหม่ง
1
1
5
3
8 (3)
4

จังหวะแรกคือการลากบอลผ่านกาเอล กลิชีไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนปาดเข้ากลางมาให้อังเดร ชูร์เล ทำประตูแบบง่ายๆ และกลายเป็นแอสซิสต์ที่ 13 ในเกมพรีเมียร์ลีกให้เชลซี แซงหน้า 12 แอสซิสต์ที่เขาเคยทำตอนอยู่กับลิเวอร์พูลไปเรียบร้อย 

ส่วนอีกจังหวะคือการทะลุทะลวงไปทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะแต่งบอลกลับมายิงด้วยเท้าขวาเต็มข้อ แต่โชคร้ายที่บอลพุ่งไปโดนคานเต็มๆ อย่างน่าเสียดาย 

ทั้งสองจังหวะเป็นอะไรที่เราเคยได้เห็นกันจนชินตาในคราบหงส์แดง แต่แทบไม่มีให้เห็นเลยหลังจากที่เขามีค่าตัวแพงที่สุดเท่าที่เชลซีเคยจับจ่ายใช้สอยมา และถ้าจะมองกันในระยะยาว นี่อาจเป็นสัญญาณที่ดีและมีความหมายกว่าหนึ่งประตูชัยที่เจ้าตัวทำได้ในเกมนี้เสียอีก

อย่างที่ทุกคนรู้กัน ฟอร์มของตอร์เรสเริ่มหดหายนับตั้งแต่ย้ายจากเมอร์ซีย์ไซด์มาอาศัยทำมาหากินที่ลอนดอน ไม่เพียงความผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยบริเวณหน้าปากประตูหลายต่อหลายครั้ง ความปราดเปรียวและเกรี้ยวกราดที่เคยมียังหายไปสิ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องยอมรับว่า นอกจากปัญหาเรื่องความมั่นใจแล้ว สภาพร่างกายของเจ้าตัวก็มีส่วน บ่อยครั้งที่เราเห็นตอร์เรสไม่กล้าพาบอลฉีกกองหลังเหมือนอย่างที่เป็น หรือถูกคู่แข่งเบียดแย่งบอลไปได้ง่ายๆ ทั้งที่ในวันที่เขาท็อปฟอร์ม การสปีดหนีกองหลังเข้าไปทำประตู คือจุดขายที่ใครต่อใครยอมควักเงินจ่ายด้วยค่าตัว 50 ล้านยูโรขึ้นไปทั้งนั้น

ข่าวดีก็คือ ไม่ว่าผลงานเมื่อวันอาทิตย์จะเป็นเพียงฟอร์มชั่วครั้งชั่วคราวหรือการกลับมาแบบถาวร แต่ตอร์เรสผู้ดุดันคนนั้นกลับมาแล้ว หากไม่นับรวมสองจังหวะกระชากใจที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าข้างต้น สถิติก็บ่งบอกชัดเจนว่าดาวยิงสเปนคือคนที่กล้าเล่นตัวต่อตัวมากกว่าใครในสนาม เขาพยายามลากบอลผ่านกองหลังถึง 8 ครั้งด้วยกัน (สำเร็จ 3 ครั้ง) แถมยังถูกทำฟาล์วมากที่สุด (4 ครั้ง) ซึ่งเป็นข้อยืนยันได้ว่าแนวรับเรือใบสีฟ้าปวดหัวมากน้อยแค่ไหนกับการจัดการศูนย์หน้าหมายเลข 9 ของฝั่งสิงห์บลู

ขณะที่การดวลกันกลางอากาศ ดาวยิงสเปนก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เขาแย่งโหม่งได้ถึง 4 ครั้งในเกมดังกล่าว มีโอกาสยิง 5 ครั้ง (เข้ากรอบ 3 ครั้ง) มากที่สุดของเชลซี และเป็นรองเพียงเซร์คิโอ อเกวโร ศูนย์หน้าของซิตี้ที่เป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่าเพียงคนเดียว


หลังจบเกม มูรินโญอาจไม่พูดอะไรถึงฟอร์มของตอร์เรสมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจังหวะที่กุนซือโปรตุกีสเข้าไปแสดงความยินดีกับแฟนบอลได้รับการจับตามองมากกว่า แต่เชื่อแน่ว่าลึกๆ แล้ว เขาคงยินดีไม่น้อยหากตอร์เรสจะคืนฟอร์มกลับมายืนเป็นหัวหอกตัวหลักให้ทีมได้เสียที เช่นเดียวกับที่แฟนบอลสิงห์บลูทั้งหลายคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าให้กำลังใจ และภาวนาให้จอมล่าตาข่ายชาวสแปนิชรายนี้ไม่เจ็บ ไม่จน ไม่ฟอร์มหดหายเหมือนเคยเร็วเกินไปนัก

เพื่อพวกเขาจะได้ชม เฟร์นานโด ตอร์เรส ทำอะไรที่มันสมกับเป็น “เฟร์นานโด ตอร์เรส” พร้อมพาทีมประสบความสำเร็จให้คุ้มค่าตัวที่เจ้าของสโมสรยอมควักจ่ายไปเมื่อ 3 ฤดูกาลก่อนหน้านี้เสียที


ติดตาม พลพงศ์ จันทร์อัมพร ทาง 

ที่มา http://www.goal.com/th/

ติดตามข่าวสารทีมได้ที่ http://mcfc.in.th/

Views: 689

Reply to This

Replies to This Discussion

งั้นๆอะดูกุนเป็นตัวอย่างนี่สิ เค้าเรียกว่าของจริง ที่ยิงเรือใบได้ไม่ใช่ตอเรสเก่ง แต่เป็นเพราะกองหลังกับประตูพลาดเองต่างหาก ถ้าลูกนั้นยิงไม่เข้าก็ไม่ต้องเล่นบอลแล้วให้ ใครยิงก็เข้าลูกแบบนั้น

ถูกต้องเลยครับ

ความถึก ความขยันกล้าแกร่งของเ้จ้าตอ  มาพร้อมกับลุคใหม่ผมทรงสกินเฮด หุหุ

ผมว่าความมั่นใจสำคัญ มูมีดีตรงจิตวิทยากระตุ้นนักเตะ ตอๆให้โผล่ขึ้นมาเกิดใหม่ได้ แต่ยังงัยก้อไม่เชียร์ครับ แค่พูดตามที่เห็นพอ อิอิ

ถุ๊ย!!!!!

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.