แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ใช่และไม่เคยเป็นทีมชั้นนำมาก่อน แต่มานาทีนี้ สัญญาณเริ่มส่งออกมาเรื่อยๆ ว่า จุดที่ดวงจันทร์กลายเป็นสีฟ้า อยู่ไม่ไกลเกินฝันนักแล้ว
Blue moon
You saw me standing alone
Without a dream in my heart
Without a love of my own...
จากวันที่เพลง Blue moon ประติดประต่อท่วงทำนองขึ้นในยุค 30 มันถูกส่งต่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตกในมือของศิลปินมากหน้าหลายตา หนึ่งในนั้นคือ เอลวิส เพรสลี่ย์, แฟร้งค์ ซินาตร้า และ บ็อบ ดีแลน
มันถูกนำมาเกี่ยวโยงเข้ากับวงการลูกกลมๆ เริ่มแรกที่ ซันเดอร์แลนด์ กับเกมเอฟเอ คัพ 1973 นัดชิงชนะเลิศ กระทั่งจับพลัดจับผลู Blue moon กลายมาเป็นสมบัติของกองเชียร์ เรือใบสีฟ้า ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
และจากที่เคยเปล่งเสียงร้องกันในยามฉลองการเลื่อนชั้นขยับดิวิชั่น วันดีคืนดี มันก็กลับกลายมาเป็นเพลงสำหรับร้องเพื่อไขว่คว้าหาเกียรติยศสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอล คลับ เสียอย่างนั้น
Blue moon, You saw me standing alone, Without a dream in my heart, Without a love of my own...
จาก เมน โร้ด มาสู่ ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม, จากเป็นทีมที่บริหารกันแบบคนกันเอง People Club สู่การเป็นทีมระดับอินเตอร์เนชั่นแนลด้วยการเข้าเทกโอเวอร์ของนักธุรกิจไทย แล้วจากการเป็นทีมหนีตาย ก็กลายมาเป็นทีมร่ำรวยที่สุดในโลกภายใต้การบริหารงานของกลุ่มทุนจากอาบูดาบู สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เน้นย้ำความสำคัญไว้ว่า จากทีมที่มีเป้าหมายเพียงดิ้นรนอยู่รอดในทุกฤดูกาล กลายมาเป็นทีมที่ต้องการตั๋วไปเล่นถ้วยใหญ่สุดของยุโรป-ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อไปให้ถึงอย่างเร่งด่วน
มันเริ่มมาตั้งแต่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กระโจนเข้าสู่วงการลูกหนังอังกฤษ ด้วยการทุ่มเงิน 82 ล้านปอนด์ซื้อแมนฯ ซิตี้ มาจากเจ้าของเดิมตอนซัมเมอร์ 2007 และเริ่มมีการจ่ายเงินซื้อนักเตะราคาแพง-ผิดปกติของทีมระดับซิตี้-เข้าเสริมกำลังทัพ
ทว่าแม้จะจบที่อันดับ 9 ซึ่งเป็นอันดับที่น่าพอใจในสายตาหลายๆ คน สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือสวีดิช ก็โดนตะเพิดพ้นตำแหน่งไปอยู่ดี โดยมี มาร์ค ฮิวจ์ส ขยับจากเก้าอี้กุนซือ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส มาที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม
กระนั้น ให้หลังจากการเปลี่ยนแปลงเก้าอี้กุนซือไม่นาน เก้าอี้ผู้บริหารก็มีความเปลี่ยนแปลงใหญ่โตเกิดขึ้นเช่นกัน พ.ต.ท. ทักษิณ ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกง ทรัพย์สินถูกอายัติ และมีกลุ่มทุนอาหรับ อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป อินเวสต์เมนท์ แอนด์ ดีเวลล็อปเมนท์ ลิมิเต็ด (เอดียูจี) เข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรต่อในช่วงท้ายของตลาดนักเตะซัมเมอร์ 2008 ที่นั่นก็ทันเวลาพอดีในการกระชากตัว โรบินโญ่ กองหน้าซูเปอร์สตาร์บราซิเลี่ยนของ เรอัล มาดริด เข้ามาประเดิมโครงการพันล้านด้วยค่าตัวสถิติเกาะอังกฤษ 32.5 ล้านปอนด์
หนึ่งซีซั่นผ่านไปพร้อมกับผลงานทรงๆ ทรุดๆ แพ้มากกว่าชนะ ไม่เข้าตากรรมการที่วางเป้าเอาไว้กับตั๋วลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือโทรฟี่บอลถ้วยสักรายการ ซึ่งก็อาจเป็นสาเหตุให้ เอดียูจี โดย ชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน (เจ้าของสโมสร) เลือดเข้าตา เดินหน้ากว้านสตาร์พันล้านเข้าร่วมทีมแบบที่ความฮือฮาจะเป็นรองก็เพียง เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ของสเปนเท่านั้น
แมนฯ ซิตี้ ดำเนินยุทธวิธีช่วงซัมเมอร์ด้วยการซื้อแหลก นั่นเป็นสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ทว่าสิ่งที่เหนือไปกว่านั้นก็คือ พวกเขาพยายามตัดแข้งตัดขาเพื่อน (ศัตรู) ร่วมลีกอย่าง อาร์เซน่อล, ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน และแอสตัน วิลล่า ซึ่งเป็นทีมในวรรณะใกล้เคียงกันกับพวกเขา
อเดบายอร์ กับ โคโล่ ตูเร่ คือหัวใจสำคัญในทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ตลอด 2-3 ปีหลัง, โจลีออน เลสค็อตต์ ช่วยให้แนวรับทีมทอฟฟี่ปึ้กขึ้นจนไปลุยยุโรปได้สม่ำเสมอ, แกเร็ธ แบร์รี่ คือกัปตันทีมของแอสตัน วิลล่า หากไม่มีปมปัญหาเรื่องย้ายทีมเกิดขึ้น ขณะที่ เตเวซ ก็แน่นอนว่าเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยให้ยูไนเต็ดครองแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อกัน 2 ซีซั่นล่า
เมื่อ ซิตี้ แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่ศัตรูโดยตรงถดถอยกำลังลง นั่นจะหมายความว่าอะไร?
สาวกเรือใบสีฟ้าต้องทนทุกข์กับช่วงเวลาที่เมืองถูกฉาบด้วยสีแดงมานานกว่า 3 ทศวรรษ
แต่มาตอนนี้ นาทีนี้ สีฟ้า กำลังแพร่กระจายขยายอาณาจักรออกไปช้าๆ แล้วอีกไม่นาน ราตรีที่ดวงจันทร์จะกลายเป็นสีฟ้าเต็มดวง ก็คงอยู่ไม่ไกลเกินไขว่คว้าเหมือนที่เคยเป็นมา
Blue moon, You saw me standing alone, Without a dream in my heart, Without a love of my own...
โดย SOCCER FEVER
http://www.siamsport.co.th/Column/091028_115.html