Members

สวัสดีครับ กลับมาเจอะเจอกันอีกครั้งหลังผ่านเกมสำคัญนัดแรกของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ นัดนี้จบลงด้วยชัยชนะที่ท่วมท้นแต่ "หืดจับ" ของทีมเรือใบ เหนือยไม่เหนื่อยจะเห็นได้ในท้ายเกมเล่นเอาผู้จัดการทีมหนุ่มอย่าง มาร์ค ฮิวส์ เข่าอ่อนกันทีเดียว(ฮา.....)

นัดแรกผ่านพ้นไปด้วยชัยชนะและ 3 คะแนนสุดแสนล้ำค่า นั่นเพราะนัดนี้เป็นการออกไปเยือนนั่นเอง หลายคนคงจำกันได้ในฤดูกาลที่แล้วกับผลงานชนะ 2 นัดในเกมนอกบ้านจากเกมกว่า 18 นัด นั่นหมายความว่าทีมทำแต้มหล่นอย่างน้อยๆ ไม่ต่ำกว่า 30 คะแนน และถูกสบประมาทมาตลอดว่าเป็นทีมที่ "เก่งในบ้าน"

เกมนัดแรกหากไม่นับจังหวะทำประตูและจังหวะเสียวๆแล้วต้องถือว่าทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้นั้นยังเล่นไม่เข้าตากรรมการ(โดยเฉพาะนาย Saber) ในจังหวะของทีมนั้นจะเห็นได้ชัดว่ายังอาศัยเกมบอลโยนยาวไม่ผ่านแดนกลาง ซึ่งเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นคงไม่พ้นความไม่ลงตัวในสูตรเด็ด "ไอร์แลน+แบรรี่" จะเห็นได้ว่าทั้งคู่เล่นกันแบบ Basis ไม่มีจังหวะไหนเลยที่แสดงให้เห็นการสอดประสานกันอย่างลงตัว และไม่มีจังหวะไหนเลยที่ทั้งคู่จะนำบอลสร้างโอกาสให้ทีมได้นอกจากการขวางไปๆมาๆและส่งกลับหลังเพราะโดนบีบ ว่ากันตามตรงการเล่นกับทีมอย่างแบล๊กเบริ์นที่มีเอกลักษณ์การโยนบอมยาวๆจากการที่มีผู้จัดการทีมอย่าง "บิ๊กแซม" การแก้ทางที่ดีที่สุดไม่พ้นการเน้นการครองบอล ซึ่งการจะครอบครองบอลนั้นคงต้องยกให้เป็นหน้าที่ของแดนกลาง เมื่อพูดมาถึงตรงนี้คิดว่าหลายคนคงเริ่มรู้สึกตะหงิดๆกันบ้างแล้วกับการครองบอลในแดนกลางของทีมที่ยังไม่เห็นพัฒนาการจากปีที่แล้วแม้แต่น้อย


การครอบครองบอลแม้ว่าจะไม่แน่เสมอไปว่าจะนำชัยชนะมาสู่ทีม แต่นั่นก็เพิ่มโอกาสในการชนะ และเพิ่มความอุ่นใจและลดความตึงเครียดลงไปได้ แต่การจะครองบอลไว้ได้จำเป็นจะต้องมีแดนกลางที่ลงตัว รับ-เชื่อม-สร้างช่องรุก หากแดนกลางทีมใดทำได้ครบก็ย่อมลำบากแก่ฝ่ายตรงข้ามที่จะมาต่อกร

ในนัดล่าสุดจะเห็นได้ชัดเจนกับบทบาทใหม่ของ "แบรรี่" ที่กลายเป็นกองกลางตัวรับที่ต้องวิ่งวุ่น ทั้งรับและเชื่อมเกม เล่นเอาล้มลุกคลุกคลานกันทีเดียว กับบทบาทใหม่ของ "ไอร์แลน" ที่ลดการรุกและมารับบทผู้เชื่อมเกม มันดูขัดแย้งในตัวเองพอสมควร ประการแรก "แบรรี่" ไม่ใช่ตัวรับโดยธรรมชาติ หากแต่สามารถช่วยเกมรับได้ในระดับหนึ่งพอสมควร หน้าที่หลักที่ควรให้ทำและมันจะทำให้เขาฉายแววเหมือนตอนเล่นกับทีมเก่าคือ "จอมทัพ" ในแดนกลาง บัญชาการดึงกระแสเกม ช้า-เร็ว และเป็นตัว Hold ball หรือ ตัวพักบอล ในแดนกลางนั่นเอง คาแร๊กเตอร์และสไตล์ของตัวนักเตะเองน่าจะเหมาะกับการที่ประครองเกม ยืนนิ่งๆ มองดูเกม และวางรูปแบบการขึ้นเกม ซึ่งจะดูดีกว่าการกลายพันธุ์มาเป็นนักเตะบ้าพลังวิ่งขึ้นวิ่งลงตามกระแสเกม ประการที่สอง "ไอร์แลน" โดยธรรมชาติตัวนักเตะแล้วไม่ใช่นักเตะที่จะสามารถเล่นเกมรับได้โดยธรรมชาติกลับหากเป็นนักเตะที่เติมเกมได้ดีและยังมีความยืดหยุ่นในการสอดประสานกับเหล่ากองหน้าในการรับมุขและส่งมุขด้านแท๊กติก จะเห็นได้ดังฤดูกาลที่ผ่านมาการประสานงานที่ง่ายๆของเจ้าตัวกับนักเตะพรสวรรค์อย่าง "โรบินโย่" ที่กลายเป็นจุดแข็งของทีม ดังนั้นในเกมนี้จะเห็นได้ว่าการที่ถอย "ซุเปอร์เหม่ง" ลงมาต่ำกว่าที่ควรเป็นแต่กลับกันให้ "แบรรี่" วิ่งหัวกระเซิงขึ้นๆลงๆ มันออกจะดูผิดธรรมชาติไปสักหน่อย


นั่นจึงเป็นคำถามตัวโตๆกับเกมถัดไป ซึ่งน่าจะเป็นอีกเกมที่น่าจะลองทดสอบแผนใหม่การวางตัวใหม่ได้ ว่ายังสมควรเล่นแผน 4-4-2 อยู่ต่อไปหรือไม่ ? หรือจะกลับไปหาจุดสมดุลเดิมในปีที่ผ่านมาคือ 4-3-3 ดีล่ะ ? การยืนแดนกลางของ "ไอร์แลน + แบรรี่" ดูจะยังไม่เข้าทีในตอนนี้เสียแล้ว แต่หากเป็นสูตรสำเร็จที่ว่า "ไอร์แลน + แบรรี่ + เดยอง" อาจนำมาซึ่งความแปลกใหม่ที่น่าสนใจในนัดกระชับมิตรที่จะเจอกับ "บาร์ซ่า" ยอดทีมต่างดาวจากลีคสเปน หรืออาจจะทดลองกับของจริงในการเจอทีมน้องใหม่เช่น "วูฟ" ก็น่าสนใจไม่น้อย


ในส่วนของตำแหน่งกองหน้าจะเห็นได้ชัดถึงความไม่เข้ากันของส่วนผสมที่ไม่ลงตัว แต่หากปล่อยทิ้งไว้ด้วยเวลาสักพัก สูตรสำเร็จ "โรบินโย่ + อเดบายอร์ + เตเบส + โรเก้ ซานตาครูส + เบลามี่" ก็คงจะสามารถคลอดสูตรและลูกเล่นรูปแบบต่างๆมาได้ตามแต่ระยะเวลา ซึ่งสิ่งที่ต้องการมีเพียงแค่ "เวลา" สิ่งเดียว


กลับมามองกองหลังที่วันนี้ก็สอบผ่านแบบเฉียดเส้นรอดตายกันไป หากเล่นกันได้เช่นนี้เชื่อว่าความฝันเรื่อง Big 5 หรือ แชมป์ คงไม่ได้ฝันถึง การผิดพลาดให้กับทีมคู่แข่งมากกว่า 1 ครั้งในเกมเดียวอาจนำความพ่ายแพ้มาให้ทีมอย่างแก้ตัวไม่ได้ ดังเช่น "เนมันย่า วีดิช ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพลาดท่าให้กับ เฟอร์นันโด ตอเรส ของลิเวอร์พูล" ดังนั้นความผิดพลาดเล็กน้อยของ ริชาร์ด ดันด์ และ เวย์ บริด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างแน่นอน แม้จะนำสิ่งเหล่านั้นมาหักลบไปด้วยการบล๊อกและช่วยทีมมากมายทั้งเกมก็ตามที การนำผู้เล่นที่มีชื่อหรือมีฝีมือซึ่งสามารถกลายเป็นตัวจริงได้มาแข่งขันในตำแหน่งจึงเป็นสิ่งที่สมควรจะกระทำเพื่อกระตุ้นให้นัดเตะมีความตื่นตัวตลอดเวลา (ไปเอา อัพสัน ของเวสแฮม , เทอร์เนอร์ ของฮัล ก็น่าสน) คงต้องรอดูว่าในช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่ถึง 1 เดือนต่อไปนี้จะมีการปรับเปลี่ยนในจุดนี้้อย่างไร หรือมีวิธีการเช่นไรในการจะหล่อหลอมให้เกิดกำแพงเหล็กชั้นดีให้แก่ทีมเพื่อยืนระยะและมุ่งสู่ฝันในการชิงชัยตุ๋วไปแข่ง UCL มาให้ได้



คะแนนนัดล่าสุด

ทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ 6/10 (ฟอร์มทีมโดยรวมยังไม่สามารถพูดได้ว่านี่เป็นทีมผู้ท้าชิงตั๋ว UCL)

กองหน้า 7/10 (จบสกอร์ได้ดี แต่ยังไม่เห็นการประสานงานของกองหน้าสักเท่าไหร่)
กองหลาง 6/10 (การช่วยเกมรับถือว่าเด่น แต่การขึ้นเกมรุกกลับบอดแทบสนิท ไม่สามารถครองเกมได้หลังผ่าน 10 นาทีของครึ่งแรก)
กองหลัง 7/10 (นัดนี้ถือเป็นฟอร์มความแกร่งที่โหยหามานานในเกมรับ แม้จะยังมีจังหวะเปิ่นๆและผิดพลาดแบบไม่น่าอภัยอยู่บ้างเหมือนเดิม)
ผู้รักษาประตู 9/10 (หากให้คะแนนเต็มก็ดูเหมือนจะยกยอกันเกินไป แต่ผลงานการเซฟประตูไม่ให้ทีมโดนตีเสมอก็เป็นสิ่งยืนยันคะแนนได้ดีกว่าตัวเลขต่างๆ)

ผู้จัดการทีม 5/10 (การวางแผนและการแก้เกมในครึ่งหลังแทบไม่มีผลต่อทีม และดูเหมือนจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย ขาดการกระตุ้นทีม และขาดการเปลี่ยนแผนของเกมในระหว่างแข่งขัน)

การเปลี่ยนตัว 6/10 (ยังไม่มีการเปลี่ยนตัวที่สามารถทำให้ทีมได้เปรียบสักครั้ง การส่ง คาร์ลอส เตเบส ลงมาแทนที่ โรบินโย่ ทำให้การบีบเกมวิ่งไล่ฝ่ายตรงข้ามดีขึ้นแต่โดยรวมก็ไม่ได้ทำผลงานดีไปกว่าโรบินโย่เท่าไหร่นัก)


คงต้องรอดูว่า "แมนเชสเตอร์ซิตี้" จะลบคำสบประมาทและคำถามของการหล่อหลอมนักเตะในเวลาอันสั้นได้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของ "ป๋าเหี่ยว" หรือแม้แต่คำสบประมาทของ "ป๋าแพนด้า" เหล่านี้คงมีแต่ "ป๋าฮิวส์" ที่จะให้คำตอบกับเราได้ในอนาคต

Views: 332

Reply to This

Replies to This Discussion


ค่า stat ครับ
เชย์ เซฟลูกสำคัญได้ดีครับ ปีนี้ถ้า แมน ซิตี้ ไม่เสียประตูง่ายๆ อย่างฤดูกาลที่แล้ว คงได้ลุ้นยาวๆ
ส่วน มาร์ค ฮิวส์ ยังขัดใจ เวลา แก้้เกม แต่ยังไงก็ต้องให้โอกาสฮิวส์ครับ เพราะฤดูกาลนี้คงเครียดกว่าฤดูกาลที่แล้วหลายเท่า
ผมเข้ามาอ่านเเล้ว เห้นด้วยหลายครับ

วันนั้น นั่งดูทรูวิชั่นอยู่ อุตส่าขัดใจเเฟนมานั่งดูเเมนซินัดเเรก (เพราะเวลาเดียวกันนั้น มี AF เลยต้องเกิดการเเย่งทีวีกันหน่อย 55++)

ดูไปเเรกๆ ก็น่าสนใจดี ครึ่งเเรกเห็นด้วยกับคุณเซเบอร์ซู๊ดด ๆ / โชคดี ที่ได้ประตูเเรกเร็ว ยิงสะใจหลาย /กลางเราเป็นอะไรฟระ ไม่สนันสนุนการบุก ไม่ช่วยเกมสรับ เกิดไรหว่า .... ดีนะ ที่เเบรี่ขยัน(เป็นบ้าๆๆ) วิ่งไล่ประกบตำเเหน่ง+พื้นที่ จนปิดช่องว่างที่ไอร์เเลนด์สร้างไว้ได้ ไม่รู้พี่โล้นเป็นอะไร งงตำเเหน่งรึขี้เกียจไม่ทราบ เปิดพื้นี่กลางจัง / มีบายอมาช่วยต่อเกมสบ้าง เเต่ซักพักไม่รู้บายอหายไปไหน(ไม่รู้โดนสั่งให้ไปเฝ้าตำเเหน่ง(อย่างเดียว)รึป่าว)ไม่ลงลึกมาต่อบอลเหมือนเคย .. หลังก็เข้าบอล"โฉ่งฉ่าง"บ้าง ...ดีนะ ที่จังหวะสุดท้าย สกัดเส้นยาเเดงผ่าเเปดออกไปได้ตลอด .. ต้องยอมรับจิงๆ ว่า"หลังไม่เสียประตู" เเต่ก็ไม่สามารถ"เริ่มเซทบอล"เเละ ตั้งบอลจากหลังได้เช่นกัน (เเละเเน่นอน ยังไม่ต้องหวังจากกลางในตอนนี้ฮะ) / .ครึ่งเเรกก็ดูไปเสียวไปฮะ อิอิ....................
ครึ่งหลัง เกิดไรขึ้นไม่ทราบ เเก้เกมสได้ดีจิง เเบรี่กับไอเเลนเริ่มเล่นกันได้บ้าง โดย ไอเเลนเริ่มลงมาต่ำเเละยืนเหมือนกลางรับนิดๆด้วย /เกมสก็เริ่มเซทได้บ้างเเล้ว หลังเริ่มเข้าบอลจังหวะเเรกเเละเคลียรได้ปลอดภัยขึ้น เกมส์เริ่มเซฟ มีรูปมีร่างมากขึ้น มีผลัดกันบุก ผลัดกับรับตามจังหวะ ไม่โดนพับสนามบุกเหมือนครึ่งเเรก / จนกระทั่งมีการเปลี่ยนตัว เอาเตฟลงเเทนโรบิ้น ในช่วงท้ายๆของครึ่งหลัง เเละตอนนี้เองที่โยก เบลามี ไปยืนเป็นบีกซ้ายเเทนโรบิน -----> สังเกตกันมั้ย ปีกซ้าย จี๊ดดดขึ้นเยอะ ^_^ / นับว่าเเก้เกมสได้ตาถึงจิงๆ อิอิ ชม ๆ / เตฟก็ขยันตามเครื่องหมายการค้าดี จนในที่สุดก่อนจบเกมส ไอเเลน ที่เกมส์นี้ที่ไม่มีบทบาทกับเกมสเท่าที่ควร อาศัยจังหวะผีบอก เล่นลูกเเปลก ยิงได้ซะงั้น!! เเบบอึ้งๆกันไป / ........ จบเกมส

เท่าที่ดู ก็ดูเเล้ว ในสายตาผม ผมว่า มีเเวววววนะ มีสิทธิ์พัฒนาได้อีกกเยอะ
ถึงเกมสนี้จะตะขุกตะขิกไปบ้าง เเต่ก็มีโอกาสพัฒนา พัฒนาเร็วๆนะฮะ.....เเฟนๆรอดู อิอิ
หัวใจแทบวายเหมือนกัน ได้โกลว์เซพหลายลูก บายอ เล่นดีมากทีเดียว
รวยซะอย่าง เดียวทุกอย่างก็ดีเอง
กองหน้ายังขาดๆเกินๆ โอกาศได้ประตูหลายครั้งจึงหลุดลอยไป น่าเสียดาย แต่พอใจที่สร้างโอกาศได้หลายครั้ง รอโชคเสริมอีกนิด จะหล่อขึ้นอักโข กองหลังระยะสุดท้ายรวนเรไป ขาดสมาธิไปมาก น่าจะรวบรวมสติคุมเกมให้ช้าลง ครองบอลให้ได้ต่อเนื่อง เพื่อตัดการรุกให้ขาดตอนสะดุดลงบ้าง

โชคดีที่คานบนนักเตะคนที่สิบสองช่วยเซฟไว้ได้

ต้องหายาแก้หืดไว้ข้างตัวซะแล้ว

โดยรวมดีขึ้นกว่าเก่า
เชย์ บอกว่า ให้ระวังหลังหน่อย อย่าหวังแต่จะยิงประตูเพิ่ม

ขอให้มั่นใจว่าปราการหลังปิดสนิทจริง

ชนะแค่ลูกเดียวก็พอใจแล้ว
รอแค่ click
ชอบตรงคะแนน

ผมว่าฮิวจ์ยังเก่งไม่พอ ถ้าเทียบกับระดับของนักเตะในทีมนะ
สำหรับผม ว่าว่าปัญหาของCityตอนนี้คือ เสียบอลง่ายเกิน เรามีตัวholdingบอลในแดนหน้าแล้ว แต่แดนกลางของเรา ไม่มีเลย พี่มาร์ค เขาเล่น 4-4-2 โดยแดนกลางมีไอแลน และ แบรี่ ผมว่านี่คือหนึ่งในเหตุผลที่พี่มาร์ค พยายามเล่นบอลยาว
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือนัดเจอwolve ในครึ่งหลัง พอซิตี้พยายามโยนจากหน้าเขตตัวเองไปด้านหน้า ไม่มีใครเก็บบอลได้เลย เก็บได้ก็โดนแย่งไปได้ง่ายๆซะงั้น
รอดูนัดเจอ ปอมปีอีกทีครับ เผื่อพี่มาร์คจะเปล่ยนรูปเกมบ้าง

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.