Members

ดีใจจนตัวลอยสำหรับฟอร์มการเล่น 3 นัด 3 คลีนชีต เรียกว่าจังหวะพอเหมาะพอเจาะสำหรับโรเบอร์โต้ มันชินี่ โปรแกรมขนมกรุบกรอบผ่านไป 3 นัดกับการเอาชนะและยิงไปถึง 6 ประตู แต่ประเด็นสำคัญคือการที่ไม่เสียประตูให้คู่ต่อสู้หลังจากก่อนหน้านี้เอวังลงเมื่อไหร่แฟนๆลุ้นกันตูดเกร็ง บ้างถึงกับบ่นและบนบาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บ้างก็รอพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก บ้างก็โน่นคิดไปวันปีใหม่ new year กันทีเดียว ด้วยเหตุผลเหมือนๆกันคือต้องการลดสถิติการเสียประตูของทีมรักนั่นเอง แต่แม้จะมาถึงจุดนี้ก็ยังมีแฟนๆหรือบางคนบอกว่าเกมหมูๆแบบว่าข้าวเกรียบกุ้งเช่นนี้ถึงจะเป็น 'เดอะมาร์ค' ก็ชนะได้เช่นกัน บ้างเลยเถิดถึงขั้นบอกว่าชนะเยอะเสียยิ่งกว่า แต่นั่นมันเป็นลมปาก บอลมันจบและผ่านพ้นไปเสียแล้วจะหยิบจะยกอะไรต่างๆนาๆมาพูดพล่ามกันไปก็ทำกันได้ และผมก็อยากบอกว่าอย่าเอามาคิดให้รกหัวว่าใครดีกว่า เพราะบอลลูกกลมๆคิดว่าใช่แต่ไม่ใช่มีถมไป (เหมือนกับช่วงก่อนใครแทงแมนซิตี้ฯนี่เสียกับเสีย ฮา......)


วิเคราะห์วิจารณ์กันถึงฟอร์มนัดล่าสุดของทีมเรือใบสีฟ้าก็คงเป็นการไม่ยุติธรรมกับทีมสักเท่าไหร่ก็ในเมื่อรู้ๆอยู่ว่าเป็นการเล่นแบบขัดสนด้วยจำนวนผู้เล่น และทัพใหญ่ที่รอการลั่นกลองรบมันอยู่ที่วันพุธที่ 6 ม.ค. 2010 นี้ต่างหากเล่า แต่จะไม่พูดสักนิดก็ไม่ได้ กับการเล่นที่ยังแปร่งๆในการเชื่อมเกมกัน แน่นอนว่าระยะเวลายังไม่ถึงจุดเข้าใจกันระหว่างผู้จัดการกับนักเตะและแผนการเล่น รวมไปถึงนักเตะทะยอยเข้าโรงหมอกันไปเสียนี่ และนี่เพิ่งแพ๊กของเก็บกระเป๋ากลับบ้านไปอีก 2 หน่อตัวดำ แถมไอเด็กๆที่จะฝากผีฝากไข้ได้ก็ไม่มีการพัฒนาเรียกได้ว่า 18 เดือนของ 'เดอะมาร์ค' ไม่มีการดันเด็กมาเพื่อไว้กับกรณีแบบนี้เสียเลย น่าหนักใจกับนายใหญ่คนปัจจุบันเสียจริงๆ การที่ัจับเอา 'โบยาต้า' ที่ไม่รู้มันมาจากไหนไม่รู้จักไม่เคยได้ยินชื่อ แถมเพิ่งจะเคยเห็นหน้าก็วันนี้ แต่กระนั้นเห็นหน้าวันแรกโชว์ตัวครั้งแรกก็เล่นเอาคนดูถ่ายทอดสดทางเน็ตและทรุยวิชั่นปวดศรีษะไปตามๆกัน ไม่เว้นแม้แต่ผู้บรรยาย ด้วยเอกลักษณ์ส่วนสูงที่พอๆกับเจ้าไมก้า แล้วสีสันอันเป็นเอกลักษณ์พอสกัดบอลได้ทีก็มั่วกันไปทั้งแฟนบอลและผู้พากษ์ว่ามันคือไมก้าหรือโบยาต้า ?


การจับเด็กมาเล่นในครั้งนี้ของมันโช่ สอบผ่านในด้านทัศนคติและทัศนวิสัยที่ดี และคงจะได้ใจนักเตะไม่มากก็น้อย รวมถึงเป็นการหว่านอวนทอดแหดักเอาให้หมดว่าใครที่พอจะแทนที่ใครในยามวิกาลได้บ้าง ใครที่เป็นจุดอ่อน ใครที่รอวันเวลาแจ้งเกิด ใครที่จะดองมันไว้ดี และในรายของคนที่สอบผ่านในสนามวันนี้ในใจของมันโช่คงไม่ทราบได้ แต่ในรายของ Saberคุง คนน่ารักคนนี้คงไม่ให้ผ่านสำหรับเวทีพรีเมียร์ลีคสักราย


แม้ว่า 'โบยาต้า' จะจับมือประสานงานกับ 'ไมก้า ริชาร์ด' ในครึ่งแรก 'วิลเซ็นต์ กอมปานี' ในครึ่งหลัง และจบการเปิดตัวแบบไม่ทำให้ทีมเสียประตู แต่ในเกมนี้เจ้าหนูอายุ 19 ปี ไม่ได้พิสูจน์อะไรให้ได้เห็นในสายตา และเมื่อโจทย์ปัญหามาถึงด้วยวัยละอ่อนก็ไม่ได้ทำให้เข้าตาเท่าไหร่นัก ในหลายจังหวะการละเล่นแบบง่ายๆของเขาเกือบสร้างปัญหาให้ทีมกับการจ่ายบอลใกล้ๆตัวเท่านั้น เป็นการเล่นที่ถือว่าปกติในบรรดานักเตะอายุ 19 ปีที่จะเซฟตัวเองจากข้อผิดพลาด นั่นถึงเป็นคำตอบที่ว่าใช้ไม่ได้กับเวทีพรีเมียร์ลีค เพราะหากคุณจะอยู่รอดในระดับมืออาชีพขั้นสูง ด้วยวัย 19 ปี เจ้าหนูโบยาต้านั้นจำเป็นต้องแสดงวุฒิภาวะของนักเตะวัยเก๋าออกมาให้ได้เห็นกันบ้าง (แต่ตอนดูทรุยวิชั่นผู้บรรยายบอกว่าความจริงโบยาต้าเป็นกองกลาง ก็งงๆอยู่ว่าที่แท้จริงเล่นตำแหน่งไหน ?)

ในรายของ 'ไวส์' ที่คนหวังกันไว้และก็มีลีลาและการจ่ายบอลรวมถึงความกล้านั้นก็สอบผ่านแต่ยังไม่ถึงระดับเล่นในพรีเมียร์ลีคเต็มตัว ด้วยวัย 20 ปี ที่มีทักษะและลีลาพริ้วแต่การเล่นเป็นปีกนั้นยังคงต้องเพิ่งความเร็วในการวิ่งไปกับลูกบอลหากต้องการแจ้งเกิดกับลีคที่ได้ชื่อว่าเล่นเกมเร็วที่สุด รวมถึงยังต้องเพิ่มส่วนหน้าเพื่อรับแรงปะทะหากต้องการเล่นในลีคที่มีสถิติการเข้าปะทะระหว่างผู้เล่นมากที่สุด คำตอบของเจ้าหนูไวส์คงเป็นไปในเรื่องของการเสริมสร้างร่างกาย 'คริสเตียนโน่ โรนัลโด้' เป็นตัวอย่างคำตอบที่ดีที่สุดในยุคกับผู้เล่นที่มีลีลาลากเลี้อยและความแข็งแกร่งควบคู่ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้จัดการทีมว่าจะได้ให้โอกาสกับเจ้าหนูน้อยวัย 20 คนนี้ขนาดไหน !?

สุดท้าย 'เบนจานี่' คงไม่ต้องพูดอะไรมากมายเพราะบางคนที่เป็นแฟนบอลยุคหลังๆอาจถามว่ามันคือใคร ? แทบไม่ได้เห็นหน้าตากันมากมายหลังจาก 'เดอะมาร์ค' ดองยาว ตกเป็นสำรองของ 'ไคเซโด' และ 'เบลลามี่' หลังจากนั้นยิ่งการมาของ 'อเดบายอร์' และ 'ซาตา ครูส' กองหน้าผิวหมึกก็เงียบหายไปทันที ด้วยอายุอานาม 30 ปีนั้นเรียกว่าไม้ใกล้ฝั่ง แต่มันโช่ก็ไปงัดจากโลงมาทดสอบฝีเท้า และคงได้เห็นกันว่า 1 จังหวะ 1 ประตู ด้วยคำพูดนี้คงเป็นอะไรที่สวยงามสำหรับเพชรฆาตหน้าประตู เพราะขอโอกาสแค่ 1-2 ครั้งก็พลิกให้เป็นประตูได้ทันที แต่เดี๋ยวก่อน.....หากมองที่เวลา 90 นาทีแล้วรวบรวมสถิติอย่างไม่เป็นทางการ Saberคุง ขอบอกๆ กองหน้าผิวหมึกรายนี้จับบอลจากการส่งและกระแทกมาให้ราวๆ 24 ครั้ง แต่ใช้ประโยชน์หรือสร้างประโยชน์ต่อได้เพียง 8 ครั้ง !! มันน้อยไปไหมหากเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า ? เข้าชงบอลได้ 6 ครั้ง และทำจังหวะยิงประตูได้เองแค่ 2 ครั้ง และได้ 1 ประตู !? และในการเข้าคู่ประสานงานกับกองหน้ามะขามข้อเดียว 'เตเวส' ถึงจะอ้างอิงไม่ได้เนื่องจากไม่เคยเล่นกันจริงๆจังๆมาก่อน แต่พูดได้อย่างเดียวว่า หายไปจากจอ !? ถ้าว่ากันตามตรงแม้จะเป็นเจ้าชายวุ่นวาย 'โรบินโญ่' ที่แฟนๆบ่นกันชิบ แต่ก็ยังเห็นหมอนั่นในจอ ไม่ว่าอัดตราการวิ่งไล่บอล ความทุ่มเท้ที่พยายามเจือกไปขอบอล แย่งบอล เวลาบุก แต่กับกองหน้าผิวหมึกนี่แทบหายไปจากจอทันทีที่เริ่มครึ่งหลัง หากไม่มีชื่อเป็นผู้ยิงประตูแฟนบอลที่นั่งชมอาจลืมไปว่าวันนี้ทีมแมนซิตี้ฯเล่นระบบกองหน้า 2 คนในครึ่งหลังก็เป็นได้ (ฮา)


คิดว่ามันโช่คงได้คำตอบในใจก่อนกระโจนลงสู่ตลาดซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นแนวรุก มิดฟิลล์ แผงหลัง จะอุ่นใจก็ผู้รักษาประตูนี่แหละ คำถามคือ เตเวสเพียงคนเดียวกับกองหน้าจอมเจ็บตามประวัติอย่างซานตา ครูส จะเพียงพอกับการเล่นในเดือนม.ค.หรือไม่ ? คำถามต่อมาคือแดนกลางที่เจ็บระงมควรจะหาตัวใดมาเติมเต็มเพื่อไม่ให้หลุดจากการไล่ล่าอันดับ 4 หรือไม่ ? คำถามสุดท้ายว่ากองหลังที่เจ็บระงมและดูท่านัดต่อไปคงต้องให้ ไมก้าเร่งฟิตมายืนคู่กอมปานี จะไปรอดหรือไม่จนกว่าจะหายเจ็บกัน ? และถ้าจะซื้อตำแหน่งไหลเร่งด่วนแบบต้องเอาให้ได้ก่อน คำตอบจะออกมาให้เราเห็นใน 2 สัปดาห์ของการซื้อขายปีใหม่นี้เอง แต่ถ้าจะให้ Saberคุง แนะนำอยากให้ลองๆมองหาตัวสำรองจากกาฬทวีปดูสิ ใกล้แข่งแล้วด้วย นักเตะผิวหมึกอิ้งเจ็ทเหล่านี้มีดีที่แข็งแกร่ง ไม่ต้องกลัวงอแงเวลาโดนปั๊มหนักๆแน่นอน

หากใครจะบอกว่าทำไม Saberคุง ไม่ยอมวิเคราะห์แผนการเล่น หรือว่าการวางตัวนักเตะสักหน่อย ก็คงต้องบอกว่า รอผ่านไปสัก 1-2 เดือนเสียก่อน เพราะตอนนี้ดูแล้วเหนื่อยใจแทนนักเตะ แต่ละคนงัดความสามารถที่มีไม่ถึงขีดสุด ตูดเกร็งเพราะว่าต้องปรับตัวตามแผน ไอครั้นความเคยชินแบบแผนของ 'เดอะมาร์ค' มันก็ยังมีอยู่ บางทีหลังโดยเฉพาะฟูลแบ๊คลอยสูงก็เห็นๆกันบาง บางครั้งตัวตัดเกมจะลอยสูงแบบแผนเดิมก็เห็นๆกันอยู่ และบางทีอาการหวงบอลก็มีกันเยอะ คงต้องรอให้หลอมรวมกันอย่างน้อยๆก็ให้ดูดีๆที่เดือน ก.พ. ก็แล้วกัน เขาว่ากันว่านั่นคือโค้งสุดท้ายล่ะ ใครจะรอด ใครจะตกชั้น ใครจะแชมป์ ใครจะไปยูโรป้า มันเห็นเงากันตอนนั้นแล..........


แต่บอกได้คำเดียวว่า ย่างก้าวของมันโช่เป็นการย่างเดินแบบสุขุม ผิดกับการวิ่งก้าวกระโดดแบบฮิวส์ ดังนั้นกับทีมแบบนี้ทีมเล็กเล่นด้วยค่อนข้างยากทีเดียวเชียวล่ะ *0*

(สาธุ........กองหลังๆๆๆๆ ขอแหล่มๆอีกสัก 1 ตัวเต๊อะ)
****ไม่มีรูปประกอบเพราะคนเขียนขี้เกียจ VO_oV

Views: 146

Reply to This

Replies to This Discussion

มาลงชื่อ
ขอบคุณสำหรับบทความครับ
เมื่อคืนดูแล้วเรือตื้อๆ พิกลครับอาจเพราะใช้ตัวที่เพิ่งขุดมาผสมเลยไม่ค่อยลงตัวมังครับ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.