เป็นบทความระหว่างเกมส์การแข่งขันกับValencia ที่ผมเขียนขึ้นมาครับ บทความสั้นๆไม่มีอะไรมาก
ฟอร์มทีมเราที่บู่ตลอดทั้งซีซั่นการอุ่นเครื่องนี้ ขัดใจผมที่ติดตามผลงานทีมมาตลอด บอกตรงๆ ทีมเราเล่นแบบไม่ลงล็อคเลย ทั้งๆที่ผู้เล่นก็คุณภาพทุกๆคน แต่ก็มีบางคนบอก อุ่นเครื่องน่า เอาอะไรมาก.... ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วยอย่างแรงครับ
มาวันนี้กับวาเลนเซีย ไม่รู้เพราะเสียงเพลง Blue moon อันกึกก้อง หรือเพราะว่ามี "คาร์ลอส เตเวซ" กับ "ดาวิด ซิลบา" ลงมาลุยพร้อมกับอเดบายอร์กันแน่ ทำให้ทุกๆอย่างที่ดูอึมครึม สลายหายวับไปไหนพริบตา เหมือนทุกอย่างเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น
และดูเหมือนมันโช่ก็ได้เล่นของอะไรบางอย่าง เมื่อเปลี่ยนตัว "เรียกเสียงฮือฮา" อย่างเตเวซ และ ซิลบา ออกในนาทีที่ 35 ซึ่งหากย้อนไปดูความจริงกันนิด จะเห็นว่านัดที่เราแพ้ดอร์ทมุนนั้น ตัวละครที่ลงในสนาม แทบไม่ต่างกันกับตอนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ไปๆมาๆ กลับสามารถแย่งชิงตำแหน่งการเล่นฝ่ายตรงข้ามได้ทีละน้อย ทีละน้อย จนกระทั่งครึ่งหลังที่เปลี่ยนแกนกลางอย่าง ยาย่าตูเร่ ออกไปบ้างละ แบร์รี่บ้างละ อเดบายอร์ โคราลอฟ คอมปานี เดอยอง บัวเต็ง จนสรุปได้ว่า คนที่อยู่ในสนาม 90นาที มีแค่ไมกาห์ ริชาร์ด คนเดียวเท่านั้นเอง
ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น คุณภาพของทีมที่ควรอ่อนลงเรื่อยๆ กลับไม่อ่อนลงอย่างที่คิด เมื่อการต่อบอลยังคงทำได้อย่างไหลลื่นไม่มีติดขัด ไวส์ ที่ลงมาใหม่ก็ทำให้เกมส์ด้านซ้ายมีสีสันในเกมส์รุก เช่นเดียวกับ AJ ที่ดูเหมือนจะเรียกความมั่นใจกลับมาจนสามารถเรียกเสียงเชียร์ดังกึกก้องไปทั่วสนาม ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม
ถ้าเป็นกุลศโลบายของมันโช่ เกี่ยวกับการเรียกความมั่นใจ ที่เรียกว่า "Tevez and Silva Time" ในช่วงเวลาสั้นๆแค่ 35นาที เพื่อปลุกของลูกทีม ก่อนที่จะส่งเด็กๆชุดที่ทำฟอร์มบู่ตลอดทัวร์อเมริกันลงไปโชว์ต่อบอลให้วาเลนเซียหงุดหงิดเล่น ก็คงต้องซูฮกจริงๆครับ
แต่ถ้าไม่ได้เป็นเพราะความจิตวิทยาที่ทำให้เด็กๆเรียกความมั่นใจกลับคืนมาโดยตั้งใจของมันโช่ ก็ต้องขอซูฮกแฟนบอลแห่งซิตี้ออฟแมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม ที่ส่งเสียงเชียร์กึกก้อง สมเป็นแฟนบอลอังกฤษ และ เดอะบลูมูนส์แฟน โดยแท้จริง
Black Jack