ผมเขียนเอาไว้ในฉบับวางแผงเช้าวันจันทร์ แฟนๆสามารถอ่านย้อนหลังได้ในเวบไซด์ สยามสปอร์ต ซึ่งเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า...และประเมินสถานะการณ์ล่วงหน้าต่อไป

        เหมือนที่ทิ้งท้ายในคอลัมน์เมื่อหลายวันก่อนหลังเกมเอฟเอ คัพว่า คู่แข่งแย่งแชมป์ปีนี้ย้ายวิกกลับมาที่เมืองแมนเชสเตอร์ เหมือนสามสี่ปีก่อน ส่วนทีมอื่นๆ ไม่ได้ดูถูกผมว่าเวลาผ่านไปจะกลายเป็นไม้ประดับหรือแย่งอันดับสามสี่ ชปล. กัน

        ด้วยความเคารพ...ถ้าผิดจากนี้ก็ด่ากันได้ แต่ว่ากันตามประสบการณ์ของโค้ชทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ โชเซ มูรินโญ สองโค้ชที่การันตีความสำเร็จและการันตีว่าจะต้องลุ้นแชมป์ ด้วยสไตล์ฟุตบอลแตกต่างกัน

        แมนเชสเตอร์ ซิตี้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด....จะเป็นคู่แข่งลุ้นแชมป์ในซีซั่นต่อไปนี้โดยมี อันโตนีโอ คอนเต้, อาร์แซน เวนเกอร์, เมาริซิโอ โปเชตติโน เป็นตัวสอดแทรก ส่วนเลสเตอร์ ซิตี้ ผมคิดว่าความมหัศจรรย์ ยังพอมีหลงเหลืออยู่ เป็นอีกทีมหนึ่งที่น่าติดตาม

        ทำไมผมถึงตีตนไปก่อนไข้ได้รวดเร็วอะไรเช่นนี้

        เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาคุมแมนฯซิตี้ โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ใครมาเสริมทีม แต่เชื่อเถอะครับ ระดับ เป๊ป มักจะได้นักเตะฝีเท้าคุณภาพมาร่วมทีมแน่นอน เพราะนักเตะก็อยากมาเล่นกับโค้ชที่พร้อมทำทีมเป็นแชมป์

        อีกทั้งสไตล์ของนักเตะเหล่านั้นน่าจะเข้ากันกับสไตล์การทำงานของ เป๊ป

        โอเค...ที่มีอยู่ถือว่าเป็นขุมกำลังที่พร้อม อาจปรับกองหลัง อาจมีมาเพิ่ม เพราะกองหลังดูมีปัญหา แต่เชื่อว่า "เรือใบสีฟ้า" มีงบประมาณจากรายได้ที่เข้าทีมเพราะผู้ถือหุ้นจากเมืองจีนมาเทเงินให้ตั้ง 13%

        ไม่ผิดกฏแฟร์เพลย์ ของยูฟา ...มีเงินให้ชอปปิ้งซื้อนักเตะ 200-300 ล้านปอนด์ สบาย

        ถ้าข่าวลือเรื่อง ลิโอเนล เมสซี จะเป็นความจริงละก้อ....ผมว่าน่าสนใจเหมือนกัน ทุกคนก็อยากเห็น เมสซี มาเล่นพรีเมียร์ลีก ดูสิว่าจะทำได้เหมือน คริสเตียโน โรนัลโด หรือไม่ ที่เล่นในพรีเมียร์ลีกแล้วไปลา ลีกา แล้วมีผลงานเก่งกาจทั้งสองลีก

        เมสซี จะเอาตัวรอดจากจังหวะบอลที่เร็วกว่าเดิม ดุดันกว่าเดิมในวัยใกล้ 30 แล้วหรือไม่

        เป๊ป คงมีนักเตะในใจที่จะบอก ไอตอร์ เบกิริสไตน์ เพื่อนเลิฟที่นั่งเป็นผู้บริหารของแมนฯซิตี้ นับว่าเป็นการแทกทีมอีกครั้งของคู่นี้ ซึ่งผมเชื่อว่าโค้ชมักเลือกทีมงานก่อนไปรับงานคุมทีมสโมสร เพราะทีมงานที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

        โค้ชคนเดียวอาจมีไอเดีย มีแนวคิดนำไปสู่ความสำเร็จ แต่เขาต้องการทีมงานที่จะช่วยกันทำภาคทฤษฏีให้เป็นผลเชิงปฏิบัติครับ ทีมงานของ เป๊ป นั้นแน่นปึ้กและเชื่อว่าเขาจะนำกลุ่มผู้ช่วยของเขาทั้งที่ปรึกษาส่วนตัว มานูเอล เอสติอาร์เต้ ที่เป็นอดีตตำนานนักโปโลน้่ำทีมชาติสเปน รวมทั้งมือขวาของเขาที่บาเยิร์น มิวนิค

        มาร่วมมือกันอีกครั้ง

        ผมว่าไบรอัน คิดด์ และทีมงานอีกคนสองคนคงต้องโดนบีบให้ออกไปจากตำแหน่ง และไปหางานส่วนอื่นทำหรือไม่ก็ออกไปคุมทีมอื่น

        เป๊ป เลือกทีมงานส่วนตัวของเขาที่ภาคสนามและแน่นอนเบื้องบนผู้บริหารทั้งฝ่ายเทคนิคและฝ่ายบริหารจัดการนั้นมาจากบาร์เซโลนา รอท่าไว้่หลายปีแล้ว ตรงนี้ไม่น่ามีปัญหาและจะเป็นทีมเดียวกันกับ เป๊ป

        นี่ยิ่งทำให้มันแข็งโป๊กเข้าไปกันใหญ่

        ตอนนี้เหลือแค่ว่า...นักเตะที่จะเข้ามาเสริมทัพแมนฯซิตี้ เป็นใครกันบ้าง หน้าตาออกแบบไหนกัน ..ที่เป็นข่าวลือว่า กุนโดกัน มาจากดอร์ทมุนด์ นั้นผมคิดว่าถ้ามาก็แน่นปึ้กในแดนกลางเช่นกัน

        ส่วนแมนฯยูไนเต็ด ของ โชเซ มูรินโญ นั้นตามข่าวบอกว่าเงิน 200 ล้านปอนด์ จะทำให้ได้นักเตะคุณภาพมาและเชื่อว่า มูรินโญ ต้องการได้นักเตะที่เขาอยากได้ เหมือนในอดีตที่เขาอยากได้ เวย์น รูนีย์ แต่เขาไม่ได้ ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว เขาจะทำงานร่วมกันกับ รูนีย์

        ส่วนที่อยากได้คือ จอห์น สโตน เซนเตอร์ฮาล์ฟอนาคตไกลที่ใจไม่ได้อยู่ในกูดิสัน พาร์ค คาดว่า คริส สมอลลิง น่าจะช่วยกล่อมได้และจะกลายเป็นคู่เซนเตอร์ทั้งทีมขาติและสโมสร โอ้โห...ปึ้กไปกันใหญ่

        สโตน จะทำให้ สมอลลิง เล่นได้เนี้ยบขึ้นผมว่า..

        กองกลางนี้ อาจารย์ บู๋ บอก ปอล ป๊อกบา จะกลับมาอีกครั้ง...ถ้าเป็นจริง แผงกองกลางนี้ได้ตัวระดับโลกมา ส่วนกองหน้าผมคิดว่าที่มีอยู่นั้นไม่ต้องกลัวใคร เพียงแต่ปรับวิธีการโจมตีให้มันน่ากลัวกว่าที่ อาจารย์หลุยส์ทำ

        มีดีอยู่แล้ว... แต่ไม่ได้ใช้อย่างดีที่สุด

        มูรินโญ น่าจะทำได้

        การขับเคี่ยวกันของสองทีมนี้ทำให้ทีมอื่นๆกลายเป็นตัวประกอบไปเลยครับทั้ง อาร์เซนอล, สเปอร์ส, เลสเตอร์ ยกเว้นเชลซี ที่เป็นทีมพร้อมสอดแทรกต่อการคว้าแชมป์ ผมให้น้ำหนักมากกว่าอาร์เซนอลครับ

        เชลซีได้ อันโตนีโอ คอนเต้ มาคุมทีม ที่แน่ๆคือสไตล์การเล่นคงต่างจาก มูรินโญ ไม่มากนัก เพราะเน้นความรัดกุมเป็นหลัก ไม่รู้เหมือนกันว่านักเตะชุดนี้จะรับมือและทำตามได้ดีขนาดไหนและใครมาเสริมทีมบ้าง

        ผมเองอยากเห็น คอนเต้ มาทำงานนอกลีกและเป็นลีกที่ถูกมองว่ายากสุดๆทั้งนักเตะและโค้ช แม้มองไม่ออกว่าแบบไหน แต่เชลซีน่าจะเป็นตาอยู่ที่พร้อมงาบพุงปลา .....พวกเขาคือทีมที่อันตรายสุดๆ เป็นหอกข้างแค่ของ แมนฯซิตี้และแมนฯยูฯ

        ถ้าเลือกเป็นทีมเต็ง 1 แมนฯซิตี้ เต็ง 2 แมนฯยูฯ เต็ง 3 ต้องเชลซี ครับ

        ส่วนทางด้านปืนใหญ่  อาร์เซนอล ยังคงใช้บริการของ อาร์แซน เวนเกอร์ ซึ่งปัญหาเวลานี้คือ "โป้งไม่ปิดบัญชี" กับ กองหลัง เปราะบาง แม้จะได้ ปีเตอร์ เชก มาเซฟ 16 เกมไม่เสียประตู แต่แต้มที่ทำได้เพิ่มเป็๋นแค่แต่มสำรองรองแชมป์เท่านั้นเอง

        การมาของ ชานิต ชาก้า คงคล้ายๆกับ โอซิล และ อเลกซิส ซานเชส มาช่วยเติมสีสัน แต่ความดุดันในเกมรุกการยิงประตูที่เด็ดขาดของพวกเขาอยู่ในความสงสัย และสไตล์การเล่นครองบอลคงแบบเดิม

        เราคงให้น้ำหนักของการครองบอลแบบ เป๊ป ว่ามีลุ้นมากกว่า เวนเกอร์

        การซื้อตัวคงต้องมองไปที่กองหลังอีกว่าจะเลือกใครมาแทน แมร์เตซัคเกอร์ ที่นับวันโรยรา ส่วน กาเบรียล เปาลิสต้า ยังไม่นิ่ง กอสซิแอลนี ก็ไม่คงเส้นคงวามากและมีจังหวะเจ็บยาวๆ หลายครั้ง

        ปืน จะลุ้นพื้นที่ชปล. เหมือนเดิม

        สเปอร์ส พัฒนาทีมได้ดีขึ้นมากกว่าเดิม น่าจะเป็นคู่แข่งที่ดี แต่มาตรฐานที่สูงส่งจากปีที่ผ่านมาน่าจะทำให้พวกเขากดดันมากขึ้น และการที่มีนักเตะไปเล่นยูโร แบบยกทีม....สภาพร่างกายจะไหวมั้ยกับการลุ้นทอปโฟร์

        เลสเตอร์ ซิตี้ คงเป็นปีที่ยากลำบากกว่าเดิม เพราะคู่แข่งจ้องเล่นงานหลังจากคว้าแชมป์ มันอาจจะตื้อกว้่าเดิม และขุมกำลังบางตำแแหน่งที่สำคัญอาจย้ายทีม ต้องระวังอีกต่างหาก ดูแล้วก็อาจจะเป็นเรื่องที่เหนื่อยขึ้นกว่าเดิมเยอะ

        ส่วน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลของผม เอ้ยของเดอะ คอป...ลุ้นได้แค่พื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก ถ้ายังใช้นักเตะชุดนี้ แต่น่าจะดีขึ้นกว่าเดิมเพราะโค้ชเก่ง เข็นนักเตะที่ไม่เก่งให้มีผลงานที่ดีได้ เพียงแต่ถ้ามีนักเตะเกรดดีกว่านี้...น่าจะทะลุไปไกล

        แต่...ถ้าหาก เจเค สามารถจัดการกับทีมนี้ได้ลงตัวเร็วขึ้น เล่นเก่งขึ้นกว่าเดิม แบบนี้มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ผมว่าคงยากนะครับ

        เยอร์เก้น คลอปป์ เป็นโค้ชที่ชอบปั้นและสร้างนักเตะให้เข้าระบบกับทีมของเขา สังเกตว่าพอย้ายบไปเล่นทีมอื่นๆ แป้กหมดเลย

        นูริ ซาฮิน, ชินจิ คางาวะ, มาริโอ เกิทเซ มีเพียง เลวันดอฟสกี้ คนเดียวที่ไปได้กับบาเยิร์น มิวนิค

        การสร้างคงต้องใช้เวลา...และนักเตะที่มีอยู่นี้ มันก็มีแววนะครับหลายคน แต่ต้องใช้เวลาอยู่ดี ขณะที่สูตรสำเร็จของแมนฯซิตี้ กับ แมนฯยูฯ นั้นเลือกโค้ชระดับโลกมาทำงาน โค้ชที่การันตีความสำเร็จ

        ตรงนั้นอาจย่นระยะทางสู่เป้าหมายได้ใกล้และเร็วกว่า

        ผมประเมินคร่าวๆจากการที่หลายทีมได้โค้ชใหม่ แต่ยังไม่มีเรื่องตัวผู้เล่น และปัจจัยอื่นๆมาส่งผล เอาไว้ช่วงก่อนเปิดฤดูกาลค่อยมาว่ากันอีกที นี่เขียนถึงเพราะมันเป็นปรากฏการณ์ตามน้ำหลังจาก โชเซ มูรินโญ กำลังจะมารับงานในโรงละคร

        แต่มันคงไม่มีอะไรเพี้ยนไปจากนี้อย่างที่ผมเขียนไปสองวันก่อน

        การลุ้นแชมป์เกิดจากการขับเคี่ยวกันระหว่างสองทีมในเมืองแมนเชสเตอร์

        ตอนนี้ไม่รู้เพื่อนบ้านจะฝั่งไหนจะเสียงดังกว่ากันนะครับ 55

Jackie

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////
Cr.siamsport. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th