ลิเวอร์พูลต้องการเขา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องการเขา แต่ซิตี้กุมหัวใจเขา...แม้ว่าพ่อของเขาจะเป็นเดอะค็อป

: เรื่องราวเบื้องหลังเด็กชายที่มีความสามารถมากที่สุดของสต็อคพอร์ต

  โดย : Stuart Brennan หัวหน้านักเขียนแมนเชสเตอร์ซิตี้

         : Steven Railston นักเขียนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

          [08:00, 11 ก.ค.2021 อัปเดต 10:59, 17 พฤษภาคม 2565]

พรสวรรค์อันน่าทึ่งของ “โฟเดน” นั้นมองเห็นได้ตั้งแต่อายุยังน้อย และการก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของการแข่งขันกับความสำเร็จในช่วงฤดูร้อนของเขากับทีมชาติอังกฤษนั้นจึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเลย

ในวัย 21 ปี ฟิล โฟเดน ยืนอยู่ใกล้ความรุ่งโรจน์ในยูโร2020 กับทีมชาติอังกฤษ

ใครเคยได้เห็นสิ่งนี้มา? อดีตโค้ชเยาวชนของเขาคนหนึ่ง Steve Eyre ได้บอกกล่าวเรื่องราวของฟิลว่า “เราไม่แปลกใจเลย” “ผมไม่ใช่แค่พูดแต่จริงๆ ต้องขอย้ำว่ามีคนมากมายที่ช่วยพัฒนาเขาที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่นี่เรามีผู้นำที่ยิ่งใหญ่อย่าง จิม แคสเซลล์ ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนา หัวหน้าอะคาเดมี่และสตาฟอื่นๆ อีกมากมาย

“เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับอิทธิพลมาจากครอบครัวที่ยอดเยี่ยม แต่ฉันคิดว่าเขาเป็นผู้เล่นที่มีความพยายามอย่างเต็มที่ การได้เห็นเขาสวมเสื้อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นเรื่องแรกที่มีความสำคัญที่สุด จากนั้นกับทีมชาติอังกฤษเราจึงไม่แปลกใจเลย”

“เรารู้สึกโชคดีมากที่เราสามารถช่วยเขาได้ในทางของเขา แต่ในขณะเดียวกันเครดิตก็ตกเป็นของตัวเขาและครอบครัวของเขา”

"[เรา] ภูมิใจมาก แต่มีบางสิ่งที่เราไม่เห็นเกิดขึ้น"

พรสวรรค์ของ”โฟเดน”ปรากฏชัดในวัยเด็กอายุเพียง 10 ขวบเป็นเด็กที่โผงผางและเล่นดีเกินวัย ในเกมกับเด็กๆ ของมิดเดิลสโบรห์ โดยเขายิงสี่หรือห้าประตูให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้โดยไม่เสียเหงื่อ

ดังนั้น“อายร์”โค้ชอะคาเดมี่ของบลูส์ที่คุมทีมยู-14 ในสนามข้างเคียงเห็นจึงได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่จะทดสอบเด็กคนนี้ด้วยการพาเขาออกจากกลุ่มอายุต่ำกว่าสิบ ที่กำลังนำอยู่ 10-0 และโยนเขาเข้าไปในกลุ่มเด็กโตของเขาที่เล่นอยู่

เจมี่ พอลล็อค โค้ชของโบโร่ อดีตมิดฟิลด์ซิตี้ และผู้ตัดสินของทั้งสองเกมเห็นด้วยว่าไม่เป็นไร และฟิล โฟเดนตัวน้อยก็วิ่งเหยาะๆ เพื่อเสี่ยงโชคกับเด็กๆ ที่ใกล้จะเป็นหนุ่ม

“เราเสมอ 1-1 ระหว่างช่วงพักดื่มน้ำ เจมี่ก็เอามือมาบีบฉันที่ทำอย่างนั้น และอีก 20 นาทีต่อมาเกมอื่นๆ ที่แคร์ริงตันก็จบลง และทุกคนก็ลงมาในสนามของเรา” อายร์กล่าว

“พ่อแม่เขาและโค้ชคนอื่นๆ 3 คนอยู่ข้างสนามไกลๆ เพียงเพื่อดูอัจฉริยะตัวน้อยคนนี้เล่นกับทีมใหญ่เราชนะในเกม 2-1 และฟิลทำประตูชัยด้วยการกระโดดโหม่ง”

ความจริงที่ว่าโฟเดนเป็นเด็กกว่าในกลุ่มอายุของเขา ยิ่งทำให้ผลงานน่าประทับใจยิ่งขึ้น และอายร์ก็เห็นศักยภาพแล้ว

“ไม่ใช่ว่าเขามีสัญชาตญาณที่ดี – แต่โฟเดนเป็นแสงที่ส่องประกายตลอดเวลา” เขากล่าว

“ซิตี้มีอะคาเดมี่ระดับจูเนียร์ เหมือนกับโรงเรียนก่อนวัยเรียน ซึ่งจะมีผู้เล่นอายุน้อยหลายร้อยคนเข้ามา ก่อนที่จะสมัครเรียนในอะคาเดมี่” เขากล่าว

“ดังนั้นเราทุกคนต่างก็ตระหนักดีถึงเขาเมื่อเขาเข้ามาในระบบอคาเดมี่”

“ฟิลไม่ใช่ความลับของใคร คุณสามารถเดินข้ามเข้าไปในโดมที่ Platt Lane เวลาสี่โมงเย็นเพื่อดูเด็กผู้ชายหลายร้อยคนฝึกซ้อมและพบเขาทันทีท่ามกลางกลุ่มเด็กๆ

“ครั้งแรกที่ฉันเห็นเขา เขาเป็นเหมือนเสาสัญญาณไฟ เขาเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป และตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ในพรีเมียร์ลีก”

“มีเด็กจำนวนมากที่มีความกระตือรือร้น แต่มีบางสิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับฟิล”

“เมื่อเขาเข้ามาในอะคาเดมี่ของเรา เขาจะอยู่ที่สนามซ้อมก่อน เขาจะอยู่บน astroturf กับน้องชายของเขาซึ่งยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ แล้วสอนวิธีเล่นฟุตบอลกับพ่อของเขา ก่อนที่เขาจะไปเข้ากลุ่มเด็กอายุต่ำกว่าเก้าขวบ

“ฉันคิดว่าเขาเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเห็นกับลูกบอลที่อยู่กับเท้าของเขา และบอกเขาเมื่อตอนอายุสิบขวบ”

“ตอนอายุ 9 ขวบ ผมดูเขาเลี้ยงบอลไปทั่วทั้งทีมหลังจากได้บอลจากผู้รักษาประตู และในก้าวต่อไปเขาจะให้เพื่อนร่วมทีมทุกคนมีส่วนร่วมด้วยการส่งบอลที่ปลอดภัย”

ในตอนแรกของการตัดสินใจของ”โฟเดน”ค่อนข้างเป็นการหักหาญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฟิลรุ่นก่อนหน้าเป็นแฟนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าครอบครัวที่เหลือของเขาจะเป็นทีมบลูส์

เทอร์รี จอห์น หัวหน้าอะคาเดมี่ระดับต้นของซิตี้ได้จัดงานในชุมชนที่โรงเรียนประถมศึกษา Bridge Hall ของ Foden ตรงข้ามรางรถไฟจากบ้านใน Edgeley ของเขา

จอห์น ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายจัดหางานที่ลิเวอร์พูล มีพรสวรรค์ในการสอดแนมโดยธรรมชาติ ตามคำพูดของจิม แคสเซลล์ หัวหน้าอะคาเดมี่ของซิตี้ในขณะนั้น

“เทอร์รี่มีสายตาที่ยอดเยี่ยมในการสังเกตเห็นบางอย่างในตัวเด็กที่ต่างออกไป บางทีจากการประสานงานของเขา หรือจากสไตล์การวิ่ง บางทีก็อาจจะเป็นแค่ใบหน้าที่ทะเล้น! นั่นคือวิธีการสรรหาบุคลากรของเขา” แคสเซลล์กล่าว

“เทอร์รี่อยู่เบื้องหน้ากับหัวหน้าฝ่ายสรรหา แบร์รี่ พอยตัน และพวกเขาสองคนที่พยายามมากที่สุดในการจัดตั้งอะคาเดมี่รุ่นเยาว์ พยายามดึงดูดผู้เล่นอายุน้อยที่เก่งที่สุดที่เราสามารถทำได้ ยูไนเต็ดก็ทำแบบเดียวกัน”

ซิตี้เชื่อมโยง Foden กับสโมสรเยาวชนในท้องถิ่น Reddish Vulcans เพื่อให้เขาได้ลิ้มรสการแข่งขันฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย และเขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชุดจูเนียร์ที่พิชิตชัยชนะได้ตลอดของพวกเขา

ในทีมที่แข็งแกร่ง วัลแคนส์ มีอนาคตกับเบิร์นลีย์, เมซ กู๊ดริดจ์ และอดีตนักเตะรุ่นเยาว์ของลิเวอร์พูล ดิเอโก้ ลัตตี แต่เด็กคนหนึ่งมีความเป็นผู้นำเหนือคนอื่นๆ โดยการเปรียบเทียบที่ไม่ใช่ทางด้านร่างกาย

สตีฟ วิลเลียมส์ โค้ชวัลแคนส์กล่าวว่า: “ฟิลเป็นผู้เล่นที่โดดเด่น ฉันบริหารสโมสรฟุตบอลรุ่นเยาว์ที่ดีมาเป็นเวลา 12 หรือ 13 ปี และเขาเป็นคนเดียวที่ฉันคิดว่าจะทำให้อยู่ในระดับสูงสุด”

“ตอนอายุ 6, 7, 8 ขวบ คุณมักจะเล่นกับเด็กที่ไม่เคยเล่นฟุตบอลมาก่อน และผู้เล่นที่ดีสามารถโดดเด่นได้ แต่ฟิลโดดเด่นกว่าผู้เล่นที่เก่งที่สุด เราชนะทุกทีม และฉันคิดว่าถ้าเราสามารถเล่นกับทีมที่ดีที่สุดทั่วประเทศ จากลอนดอน เบอร์มิงแฮม ไม่ว่าที่ใด เราจะเอาชนะได้เรามีทีมที่ดีเช่นนี้

“กับสโมสรเยาวชนที่ดีที่สุดจากลิเวอร์พูล ที่ดึงดูดเยาวชนของเอฟเวอร์ตันและลิเวอร์พูล และกับสโมสรท้องถิ่นอย่างเฟลตเชอร์ มอสส์ ที่มีนักเตะหนุ่มยูไนเต็ดอย่างมาร์คัส แรชฟอร์ด ฟิลเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในสนามเสมอ และนั่นคือในทุกเกมที่เขาเล่น.

“ผมคิดที่จะทุ่มเงินให้เขาสร้างเขาขึ้นมา เพราะผมพูดเสมอว่าเขาจะเล่นให้ทีมชาติอังกฤษก่อนอายุ 23 ปี และเขาก็ทำได้ก่อนอายุ 20 ปี!”

แต่เขาอยู่ที่”วัลแคนส์”นั้นสั้นและน่ารัก และทันทีที่เขาอายุแปดขวบเขาก็ถูกอะคาเดมี่ของซิตี้ตะครุบตัวไป

United และ Liverpool ก็ต้องการเขาเช่นกัน แต่ City ได้ครอบครองหัวใจของเขาไปแล้ว และสร้างความประทับใจให้กับครอบครัวของเขา จนถึงจุดที่เขาไม่ได้สนใจอะคาเดมี่อื่น

Cassell กล่าวว่า: “เมื่อถึงเวลาที่เด็กหนุ่มๆทั้งหลายจะเข้าอะคาเดมี่ – เรา, United, Liverpool – และที่อื่น ๆ เด็กเก้าขวบย่อมตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้ แต่พ่อแม่และปู่ย่าตายายของเขาจะเป็นคนตัดสินใจแทน คุณไม่ได้แพ้ที่เสียเด็ก 9 ขวบให้กับสโมสรอื่น แต่คุณสูญเสียเขาจากการตัดสินใจของพ่อแม่ของเขา และนั่นคือสิ่งที่เราเป็น

“เราจะซื่อสัตย์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ และวาดภาพให้กับพวกเขา และในขณะนั้นเราเสนอโอกาสที่ยอดเยี่ยมให้พวกเขาได้ก้าวหน้าในสโมสร”

“แต่สิ่งที่เรามีเช่นกัน คือทีมงานที่ยอดเยี่ยม การโค้ชและการสรรหาที่ยอดเยี่ยม การสรรหาบุคลากรเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในงาน อย่าพลาด และเมื่อคุณได้พวกเขาเข้าทำงานแล้ว คุณจะต้องได้รับบริการที่ดี

“เรามีผู้เล่นหลายคนที่ก้าวหน้า เราคิดว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับการหาเด็ก 9 ขวบที่ดีที่สุด แต่มันเกี่ยวกับการสรรหาเด็ก 9 ขวบที่จะเป็นเด็กอายุ 20 ที่ดีที่สุด และเราทำได้ดีทีเดียว”

Eyre กล่าวเสริมว่า “เขาไม่เคยพลาดการฝึกซ้อมและไม่เคยมาสาย ดังนั้นจึงเป็นอิทธิพลที่ดีที่นั่น และพ่อแม่ของเขาก็ให้ความไว้วางใจกับอะคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คนที่ยอดเยี่ยมบางคนในอะคาเดมี่นั้นได้นำเขาสู่การพัฒนาของเขาแล้ว แต่คนที่ทำได้มากที่สุดคือตัวเขาเอง”

ในไม่ช้าก็เห็นได้ชัดว่า Foden ต้องการความท้าทายมากกว่าการวิ่งวนรอบเพื่อนของเขา

“ผมบอกพ่อของเขาตอนอายุ 9 ขวบว่าฟุตบอลวัยผสม(ฝึกกับรุ่นเด็กที่มีอายุมากกว่า)จะเป็นช่องทางด่วนสำหรับฟิล ในขณะที่เขาก็สามารถรับมือกับมันได้” อายร์ หนึ่งในผู้ดูแลของอะคาเดมีที่ดูแลโฟเดนในขณะนั้นกล่าว

“จากนั้นผมก็ถามเขาว่าจะมาเพิ่มอีกสองสามคืนได้ไหมเมื่อเทียบกับสองคืนปกติ ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ที่ Platt Lane เสมอ โดยเรียนรู้เกมผ่านโค้ชหลายคน”

Eyre รู้ดีว่าก่อนที่เขาจะโยนฟิลลงไปในทีมกับพวกหนุ่มๆ ในเกมกับ โบโร โฟลเดนสามารถทำได้มากกว่าการรับมือกับความกดดัน

“เราจะให้เขาลงซ้อมกับรุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี” เขากล่าว “ตอนแรกเป็นการสอนให้เขาหลีกเลี่ยงการปะทะกันแค่หาช่องว่างเล็กๆ ซึ่งตอนนี้เราเห็นเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และอยู่ในระดับสูงสุดเมื่อเราสร้างความมั่นใจให้กับเขา เขายังเรียนรู้วิธีเข้าหาพูดคุยกับพวกเด็กที่โตกว่า เมื่อรู้ว่าพวกนั้นเริ่มไม่พอใจเขาจนจับอาการได้

“เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันที่เราจะไม่พรากเด็กจากวัยเด็กของเขา ดังนั้นเขาจึงยังได้ฝึกสองสามคืนกับเด็กอายุต่ำกว่าเก้าและต่ำกว่าสิบ เพราะนั่นก็เป็นสิ่งสำคัญมากเช่นกัน ตลอดทั้งสัปดาห์เมื่อตอนอายุ 9 ขวบเขาจะฝึกกับเด็กๆ ทุกคนจนถึงรุ่นอายุ 14 ปี

“สำหรับผม นั่นเป็นเหตุผลใหญ่ที่ว่าทำไมตอนนี้เขาถึงลดช่องว่างในการติดต่อสื่อสารกับรุ่นพี่ได้ และเมื่อมีการคบหาสมาคมกันเขาก็รับมือกับมันได้”

ขณะที่เขาเลื่อนชั้นไปตามกลุ่มอายุแต่ยังคงอยู่ในกลุ่มเด็กผู้ชายที่เขาตัวเล็กกว่า มีความกังวลเล็กน้อยเรื่องส่วนสูงและส่วนสูงของเขาอาจรั้งเขาไว้

แต่โค้ชที่ร่วมงานกับเขาไม่มีข้อสงสัยเลย เนื่องจากความสามารถของเขานั้นมันยอดเยี่ยมมาก

“มันไม่เคยเป็นปัญหาเพราะเขาเก่งเกินตัว” แอร์กล่าว “เราเคยจัดช่วงรับทักษะเพื่อให้เด็กๆ เข้าใจถึงวิธีการเล่น แต่เขาเคยทำมันมาก่อนที่เราจะนำไปฝึกด้วยซ้ำ”

“เขาเป็นผู้เล่นโดยธรรมชาติที่สามารถเคลื่อนตัวไปกับลูกบอล และระยะ 5-10 หลาในการเล่นเพื่อแย่งชิงจากคู่ต่อสู้ มันอยู่ในหลักสูตรการฝึกซ้อมของเราที่อะคาเดมี่ แต่เขาทำมันแบบออร์แกนิก และมีทักษะของผู้เล่นระดับโลกอยู่ในตัวแล้วแม้แต่ในวัยนั้น”

“เขาเป็นผู้เล่นที่รับลูกบอลที่ดีที่สุดที่ผมเคยร่วมงานด้วย คีแรน ทริปเปียร์เป็นผู้จ่ายบอลและจ่ายบอลที่ดีที่สุด แดเนียล สเตอร์ริดจ์ทำประตูได้ดีที่สุด และเบ็น มีและมิคาห์ ริชาร์ดส์ก็โหม่งบอลได้ดีที่สุด แต่ฟิลก็ทำได้ดีที่สุดในสิ่งที่เขาทำ”

“โค้ชดีๆ หลายคนที่เคยร่วมงานกับเขาที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะสามารถให้การสนับสนุนด้านแท็คติกแก่เขาได้ และมันก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาในฐานะโค้ชที่จะฝึกซ้อมเพื่อช่วยให้พรสวรรค์ตามธรรมชาติเติบโตขึ้น”

“เราเต็มใจทำ - ด้วยความถ่อมตนไม่เคยโม้หรือโอ้อวดเลย - กับการพูดอย่างมั่นใจว่าเด็กคนนี้สามารถเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกได้”

เขาได้รับการเรียกตัวครั้งสำคัญในแผนของ Gareth Southgate กับทีมชาติอังกฤษและได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ”

โฟเดนลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 2 เกมแรกของทัวร์นาเมนต์ กับโครเอเชียและสกอตแลนด์ แต่ต้องนั่งสำรองตั้งแต่นั้นมาโดยไม่ได้ลงเล่นกับสาธารณรัฐเช็ก เยอรมนี และยูเครน และเข้ามาแทนในช่วงต่อเวลาพิเศษในชัยชนะเหนือเดนมาร์กในรอบรองชนะเลิศ

อาการบาดเจ็บที่เท้าทำให้โฟเด้นต้องนั่งซ้อมก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ และมีโอกาสได้ลงเล่นอย่างน่าสงสัย แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอายร์คิดในใจว่าหากซูเปอร์สตาร์ซิตี้ฟิตพร้อมลงเล่น เขาจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความแตกต่างที่สำคัญได้แม้ว่าโอกาสนั้นจะมาจากม้านั่งสำรอง”

เขากล่าวว่า: “เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะได้เล่นในรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ หรือบางทีเขาอาจจะไม่ได้ลง”

“ไม่มีอิมแพคที่ดีกว่านี้ในทัวร์นาเมนต์หรือสำหรับทีมชาติอังกฤษ เขาแสดงให้เห็นว่าเมื่อคืนก่อนเขาหิวกระหายมาก และตอนนี้เขาน่าจะเล่นได้ถึง 6 ตำแหน่งตั้งแต่ออกสตาร์ท”

"การมีเขาเป็นซับอิมแพ็ค เขาจะไม่ต้องการแบบนั้น แต่สำหรับแกเร็ธ เซาธ์เกต มันวิเศษมาก"

“ถ้าเกมต้องการคุณภาพและพลังงาน หรือการสนับสนุนแท็คติกในเชิงรับ เพราะตอนนี้เขาสามารถทำงานทั้งสองฝั่งสนามได้ ผมคิดว่าเขาเป็นทรัพยากรที่น่าทึ่งสำหรับอังกฤษและเซาธ์เกต”

“สิ่งที่ผมเชื่อในตัวฟิลคืออารมณ์ของเขาช่างเหลือเชื่อ แต่อาจยังไม่มีคนพูดถึง และค่อนข้างชัดเจนว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นและเร็วขึ้นเกือบทุกเดือนในขณะนี้ นั่นเป็นข่าวที่น่าอัศจรรย์สำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้”

“เขาแข็งแกร่งขึ้นและเร็วขึ้น และเมื่อเขาได้ลงสนามเขาทำผลงานได้อย่างหิวกระหาย ไม่ว่าเราจะปกป้องผลการแข่งขันด้วยการครองบอลอย่างปลอดภัย หรือไล่ตามผลการแข่งขันด้วยการเจาะเกราะและทักษะ เขาเป็นคนที่คู่ควรกับแจ็ค กรีลิช”

“มันอาจจะเป็นการเสี่ยงทายว่าใครจะได้ลงสนาม แต่เขาเป็นผู้เล่นที่เก่งมาก เข้าใจเกมจริงๆ และทำทุกอย่างที่จำเป็นในการท้าทาย ดังนั้นเราหวังว่าเขาจะได้ลงเล่น”

“บางทีเขาอาจจะไม่ แต่กับทีมชาติอังกฤษสามารถส่งผลกระทบได้ควรมีเขา”

“เขาได้รับความชื่นชมจากวิธีการเล่นเป็นทีม แต่ฟิลใช้เวลาหลายปีในแง่ของการทำงานหลายๆ ส่วนเพื่อให้ได้มาหรือคงไว้ซึ่งผลลัพธ์”

แต่ถ้าอังกฤษคว้าแชมป์ได้ นั่นหมายถึงผลดีสำหรับโฟเดนและสำหรับประเทศโดยรวม?

Eyre ตอบกลับ: "มันคงจะมีความหมายมาก การอยู่ที่นั่นได้เห็นชัดว่ามียูโทเปีย”

“การได้ลงเล่นจะเป็นแบบนั้น การได้อยู่ที่นั่นเป็นเรื่องดีที่สุด แต่สำหรับคนอื่นๆ ในประเทศที่โชคไม่ดีพอที่ไม่ได้อยู่ในสนาม แค่ได้ฉลองไปพร้อมกับคลื่นแห่งความอิ่มเอมที่กระจายไปทั่วประเทศก็มีความสุขแล้ว...

“เราจะต้องจัดการเรื่องนี้ทั้งเกมและระหว่างนั้น แต่เราควรจะชนะ เรารอมานานสำหรับความสำเร็จของถ้วยรางวัล

“ผมจะบอกว่า ผมคิดว่ามีงานทำที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นทั่วประเทศในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาในอะคาเดมี่ฟุตบอล ความเชี่ยวชาญมากมายจริงๆ เพื่อช่วยให้ผู้เล่นอายุน้อยมีความสมดุลย์ มีผู้คนที่รอบรู้ ผู้สนับสนุนด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีขึ้น รวมถึงอาหารและโภชนาการ"

“เขามีโอกาสยิ่งใหญ่ที่สุดในการเล่นให้กับทีมที่ดีที่สุดในโลกกับเฮดโค้ชที่ดีที่สุด

“ทีมจะต้องพิสูจน์โดยรักษาสิ่งที่อยู่ในกำมือที่แน่นในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมา และยับยั้งฝ่ายตรงข้ามที่โดดเด่น และเจาะลึกในแชมเปี้ยนส์ลีกและเก็บถ้วยรางวัลที่ใหญ่ที่สุดของทั้งหมด"

“ในแง่ของสิ่งที่เขาสามารถทำได้เพื่อทีมของเขา ท้องฟ้ามีขีดจำกัด เพราะเราโชคดีมากที่หวังว่าเราจะได้เจอเขาอีก 15 ปีหรือมากกว่านั้น เราอาจกำลังพูดถึงอาชีพที่ยาวนานของ Ryan Giggs"

“ด้วยช่วงเวลานี้ เขาสามารถกลายเป็นผู้เล่นที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดตลอดกาลในแง่ของเหรียญรางวัล และเขาสามารถเล่นให้ทีมชาติอังกฤษได้มากเท่าที่เดวิด เบ็คแฮมทำ เพราะเขายังมีเวลาที่อยู่เคียงข้างเขา”