Members

คุณคิดว่า แมนฯซิตี้ จะทำได้ไหม ? บิ๊กแมตซ์ !! UCL : 'เจ้าบุญทุ่ม' หวั่นที่ต้องเจอกับ 'เรือใบ'

คุณคิดว่า แมนฯซิตี้ จะทำได้ไหม ?
บิ๊กแมตซ์ !! UCL : 'เจ้าบุญทุ่ม' หวั่นที่ต้องเจอกับ 'เรือใบ'



มันไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลยที่จะต้องรู้ภาษาสเปน เพื่อที่เข้าใจข่าวสารที่ประกอบไปด้วยภาพ ในหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ Monday's Mundo Deportivo หนังสือพิมพ์ชื่อดังแดนกระทิงดุ ซึ่งมักเสนอข่าวเอนเอียงมาทางบาร์ซ่า...

หนังสือ พิมพ์เสนอข่าวเกี่ยวกับความรู้สึกของแฟนบอลจำนวนมากซึ่งรู้สึกหมดหวัง ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปะทะกับทีมที่ฟอร์มร้อนแรงอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งมันก็เป็นเสน่ห์ของฟุตบอลที่ทีมใหญ่ๆมาเจอกันเอง แต่จะมีเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป เพื่อกรุยทางในการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ความประหม่าเกี่ยวกับการจับฉลากในวันจันทร์เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึง การเปลี่ยนแปลงในด้านจิตใจของยอดทีมจากสเปน ความจริงแล้วพวกเขาไม่ควรจะกลัวใครเลย แต่ความเชื่อใจของแฟนบอลเริ่มถดถอยลงเรื่อยๆ ในการที่จะต้องมาเจอกับ แมนฯ ซิตี้

ตัวเร่งปฏิกริยาของยอดทีมจากแคว้นคาตาลันเพื่อให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงก็คือ การแพ้ประตูรวม บาเยิร์น มิวนิค 7-0 ในรอบรองชนะเลิศเมื่อฤดูกาลที่แล้ว การแพ้ที่ทำให้พวกเขาขายหน้าต้องย้อนกลับไปที่การแพ้ อินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 2010 และ เชลซี เมื่อปี 2012 ทำให้พวกเขาทำการเปลี่ยนแปลงทีมเพื่อที่จะกลับมาคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้ อีกครั้ง โดยที่ เคราร์ด มาร์ติโน่ เทรนเนอร์ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสไตล์การเล่นแบบ ทิกิ-ทาก้า ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อดีตกุนซือของทีม เคยสร้างไว้ เพื่อที่จะทำให้เป็นสไตล์ของเขาเอง

ตั้งแต่ที่ บาร์เซโลน่า ประกาศแต่งตั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขึ้นเป็นผู้จัดการทีม พวกเขาภูมิใจอย่างยิ่งกับหลักปรัชญาของพวกเขา คือ ผู้เล่นตัวเล็กสามารถเล่นฟุตบอลที่สวยงามได้ กับผู้เล่นที่ตัวไม่สูงมากนัก ชาบี เอร์นานเดช , อันเดรส อิเนียสต้า และ ลิโอเนล เมสซี่ โดยที่ความสูงของแต่ละคนคือ 170 ซม. เท่านั้น แต่ทั้ง 3 คนนี้ สามารถเป็นแกนหลักและช่วยทีมคว้าแชมป์ได้มากมาย


การ แพ้ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบรองชนะเลิศ เมื่อปีที่แล้ว ทำให้เกิดคำวิจารณ์มากมายว่า บาร์ซ่านั้นต้องการผู้เล่นที่ตัวสูงเพื่อที่จะสามารถสู้กับทีมที่นักเตะตัว สูงๆในยุโรปได้ อย่างไรก็ตาม มาร์ติโน่ ได้อธิบายว่า “ทีมของเขานั้นมีปัญหาในการป้องกันลูกตั้งเตะ” (ซึ่งจะโดนทดสอบโดย ยาย่า ตูเร่ และ อัลบาโร เนเกรโด้) โดยได้พูดต่ออีกว่า “เราไม่ค่อยมีผู้เล่นตัวสูงๆ”

“พวกเขาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาหรือยัง” มันยังเป็นคำถามที่ บาร์เซโลน่า ยังต้องพยายามหาคำตอบต่อไป และการที่จะเจอ แมนฯ ซิตี้ จะเป็นบททดสอบแรกที่สำคัญมากในเวทียุโรปสำหรับพวกเขาหลังจากแพ้ บาเยิร์น มิวนิค มันเป็นบททดสอบที่ดีสำหรับ มาร์ติโน่ เพื่อจะพิสูน์ว่าเขาจะประสบความสำเร็จใน คัมป์ นู หรือไม่

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นเสน่ห์ก็คือ การวางแผนแท็กติคสำหรับ แมนฯ ซิตี้ ที่หวังจะจัดการ บาร์เซโลน่า ซึ่งได้แรงจูงใจจากการเติบโตของทีมจากปีที่แล้ว เนื่องจาก ทีม “เรือใบสีฟ้า” นั้นต้องการที่จะพัฒนาจากการที่สู้ทีมใหญ่ๆไม่ได้เลย ให้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในยุโรป

หลังจาก แกรี่ คุ้ก ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของทีม เมื่อเดือนกันยายน ปี 2011 แมนฯ ซิตี้ ก็ไล่ล่าตัวซีอีโอคนใหม่มาอย่างยาวนานและท้ายที่สุดก็แต่งตั้ง เฟอราน โซเรียโน่ อดีตซีอีโอของทีม “เจ้าบุญทุ่ม” เป็น ซีอีโอ คนใหม่ของพวกเขา และ โซเรียโน่ ก็เอาทีมงานของเขาที่เคยร่วมงานกันสมัยอยู่ บาร์เซโลน่า มาทำงานร่วมกันที่ แมนฯ ซิตี้ เพื่อช่วย ไบรอัน มาร์วู้ด ในการเปลี่ยนแปลงด้านธุรกิจฟุตบอลของสโมสร




การได้ เฟอราน โซเรียโน่ เข้ามาทำงาน ทำให้พวกเขาสร้างรากฐานในการพัฒนานักเตะเยาวชนโดยมี บาร์เซโลน่า เป็นแบบอย่าง ซึ่งได้ออกแบบสนามซ้อมและตอนนี้กำลังก่อสร้าง โดยมีแรงจูงใจจาก "ลา มาเซีย" ศูนย์พัฒนาเยาวชนของบาร์เซโลน่า

นักเตะทีมชาติสเปนย้ายเข้ามา แมนฯ ซิตี้ มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเซ็นสัญญากับ อัลบาโร่ เนเกรโด้ และ เฆซุส นาบาส 2 นักเตะทีมชาติสเปน ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับผู้จัดการทีมคนใหม่ มานูเอล เปเยกรีนี่ ผู้ที่เป็นที่เคารพนับถือของผู้คนที่ คัมป์ นู และเกือบจะได้เป็นผู้จัดการทีมของทีม “เจ้าบุญทุ่ม” ที่อยากได้เขามารับช่วงต่อจาก ตีโต้ บีลาโนบา ที่ลาออกจากทีมเพราะเป็นโรคมะเร็ง


ผู้คนส่วนใหญ่พูดกันว่า บาร์เซโลน่า นั้นสามารถที่จะเก็บชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยความแข่งแกร่งของทีมงาน และการที่ผู้เล่นในทีมพูดภาษาสเปนกันอาจทำให้เล่นได้สะดวกขึ้น

หลัง จาก 2 ปีที่พยายามที่จะเลียนแบบและปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการเล่นแบบ “อาซูลกราน่า” แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสที่จะแสดงให้เห็นว่า พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรปแล้ว

เมื่อฤดูกาลที่แล้วมีอีกหนึ่งคู่ที่ถือว่าเป็นบิ๊กแมตซ์เช่นเดียวกับคู่นี้ คือ แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เรอัล มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย มันเป็นแมตซ์ที่เหลือเชื่อมากหลังจากในนัดแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เปรียบ 1 ประตู แต่ในนัดที่ 2 แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเหลือ 10 คน ทำให้ เรอัล มาดริด แซงชนะไปอย่างน่าเสียดาย


คุณคิดว่า แมนฯซิตี้ จะทำได้ไหม ?

อ้างอิงจาก BBC
แปล-เรียบเรียงโดย รัฐนันท์ จงพิพิธพร

ที่มา : hikicker
ติดตามข่าวสารทีมได้ที่ http://mcfc.in.th/

Views: 875

Reply to This

Replies to This Discussion

ผมว่าต่างคนต่างเกรงนะเจอกันในช่วงที่เรือขาขึ้น ต่างดาวเหมือนขาลงนิดหน่อย อยู่ที่ความพร้อมของทีม และใครจะพลาดอ่ะ

คุณคิดว่า แมนฯซิตี้ จะทำได้ไหม ? บิ๊กแมตซ์ !! UCL เลยนะ ทำได้แน่นอนถ้าเล่นในฟอร์มที่ดีที่สุด

ได้แน่นอนครับ

ขนทีมงานจากสเปนมาเปนขโยงไมนะให้มันรู้ไป 5555

คิดว่าทำได้เพราะทั้งทีมมี

ความกระหายชัยชนะจึงทำได้ทุกอย่าง

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.