ขอเชิญผู้ที่สนใจในฟุตบอลและรักในงานเขียนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ www.footballpost.net หากคุณอยากฝึกฝนและพัฒนาตัวเองในการเป็นคอลัมน์นิสต์กีฬา สามารถส่งบทความคอลัมน์เกี่ยวกับฟุตบอลและส่งมาได้ที่  football-post@hotmail.com หรือโทรมาได้ที่ วอร์ม 0851289949 (ความยาวหนึ่งหน้าหระดาษ a4 ลีกใดก็ได้)

ปล. สามารถเข้าไปอ่านบทความเกี่ยวกับฟุตบอลได้ทุกวันที่ www.footballpost.net 

วินาทีที่โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือทีมเศรษฐีพันล้าน บรรจุงถีบ “เทพในคราบซาตาน”นาม “คาร์ลอส เตเวซ”ลงสนามนาทีที่66 ในเกมที่แมนฯซิตี้ตกเป็นรองผู้มาเยือน”เชลซี”0-1 ก่อนที่ “เตฟ”จะตอบสนองเจ้านายด้วยการลงมาเป็น”ซูเปอร์ซับ”จ่ายคิลเลอร์พาสให้”นาสรี่”หลุดเข้าไปยิงประตูแซงชนะเชลซี 2-1 ชนิดที่แฟนบอลเจ้าบ้านอดเก็บความดีใจไว้ไม่อยู่ ประหนึ่งคล้ายๆได้แชมป์พรีเมียร์มาครอง

จากชายผู้ที่ถูกมองเป็น”ขบถลูกหนัง”ปฏิเสธการลงสนาม โดดซ้อม หนีกลับบ้าน อีกสรรพเพเหระที่”เตเวซ”ออกอาการงอแงใส่”แมน.ฯซิตี้”ทั้งที่รับรายได้อยู่ในระดับคนอย่างเราไม่อาจหาได้ทั้งชีวิต แต่”เตเวซ”กลับทำตัวเอาแต่ใจ จนถึงขั้นมันชินี่ประกาศแตกหักจะขาย”เตเวซ”ทิ้งในช่วงซัมเมอร์ให้ได้

แต่สุดท้าย ท้ายสุดกลับไม่มีสโมสรไหนกล้าพอลงทุนกับ “นักเตะ”มากปัญหารายนี้ ทำให้ในที่สุด”เตฟ”ต้องฝืนทนอยู่กับเรือใบสีฟ้าต่อไป วินาทีนั้นแฟนบอลต่างพากันชูป้ายขับไล่”เตเวซ”ด่าทอกันชนิดไม่เผาผี เช่นเดียวกับมันชินี่ที่ไม่ได้แยแสแคร์”อดีตกัปตัน”รายนี้แต่อย่างใด

เมื่อนาทีนั้น”เรือใบ”กำลังแล่นฉิวติดเทอร์โบ ทิ้งห่างแมนฯยูชนิดหายห่วง ด้วยฟอร์มการเล่น”เดินหน้าฆ่ามัน”ทั้งอเกวโร่ กุน เอดิน เชโก้ หรือแม้กระทั่ง”เกรียนโอ้”มาริโอ  บาโลเตลลี่ ต่างสลับหน้ากันลงมายิง ชนิดไม่ต้องเหลียวหลังไปอ้อนวอนพึ่ง”เตเวซ”ดาวซัลโวคนเก่าของทีมแต่อย่างใด

แต่แล้วเมื่อฟอร์มทีม”เรือใบ”เริ่มดาวน์ลงไปเรื่อยๆ จากที่เคยถล่มกระจาย เริ่มชนะด้วยประตู่จุ๋มจิ๋ม จากหลังที่เคยแน่นหนา เริ่มถูกเจาะประตูมากขึ้น แถมฟอร์มการเล่นเป็นทีมเยือนเริ่มเป๋ ชนิดออกนอกบ้านเมื่อไรมีเสียแต้มตลอด

จนแล้วจนรอดด้วยฟอร์มกระท่อนกระแท่นของ”แมนฯซิตี้”มาเรื่อย จนถึงนัดเปลี่ยนชะตา เมื่อ”แมนซิตี้”สะดุดแพ้ทีมน้องใหม่อย่าง”สวอนซี”ซะดื้อๆ 0-1 ขณะที่คู่แข่งตัวฉกาจอย่าง”ผีแดง”แมนฯยูกลับยเดินคว้าชัยเหนือเวสต์บรอมฯในวันเดียวกันแบบไม่ระบมเท้า ทำให้ยูไนเต็ดแซงซิตี้ได้ในที่สุด

เลือดในกายของมันชินี่แทบแตกซ่าน ในที่สุดก็คิดได้ว่า ยังมีอาวุธลับอย่าง”เตเวซ”อยู่ และหลังจากที่เตเวซกลับมาเตะบอลจริงจังอีกครั้งในรอบ 6 เดือน เตะในทีมสำรองไปเพียงสองนัดก็กลับมาสู่ชุดใหญ่ภายใต้การอนุญาตจากนายใหญ่ทั้งที่โทษของเตเวซที่ทำไว้กลับเป็นทีมมันหนักหนาสาหัสแท้ๆ

แต่เมื่อหันหน้าไปพึ่งใครไมได้ และซื้อใครเพิ่มไม่ได้ มันชินี่จึงต้องหันกลับมาใช้ “ม้าพยศตัวเก่า”นาม”เตเวซ” แถมม้าตัวนั้นกลับมาโชว์ฟอร์มพาทีมกลับมาจากความตายได้ด้วยแล้ว มันชินี่ยิ่งมั่นใจว่า  “เตเวซ”คือ กุญแจลับที่กลับมานำซิตี้ไปสู่บังลังก์แชมป์

จนลืมไปว่า นักเตะผู้เดียวกันนี้แหล่ะที่เคยเกือบทำให้สปิริตของสโมสรเกือบพังทลายลงมาแล้ว แต่วินาทีนี้ทีมมหาเศรษฐีกลับหันมาเรียกนักเตะผู้นี้ว่า คือ อาวุธลับในการนำทีมสู่แชมป์ทั้งที่แมนฯซิตี้ ยังมีนักเตะระดับคุณภาพล้นทีมให้พึ่งพา ทั้งขุมกำลังหลักและสำรองในชุดใหญ่ เมื่อเทียบตัวต่อตัวอาจเรียกได้ว่า แข็งแกร่งกว่าสมัยเชลซีในยุคโชเซ่ มูรินโญ่ ด้วยซ้ำก็เป็นได้

และแล้วความจริงก็ปรากฎว่า “เตเวซ”ไม่ใช่เทพเจ้ามาจากไหน เมื่อนัดล่าสุดมันชินี่ปล่อยเตเวซลงสนามอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน ท้ายสุดจึงทำได้แค่แบ่งเสมอสโต๊ค 1-1 จนถูกแมนยูทิ้งห่างไป 3 แต้มเต็ม ด้วยจำนวนนัดเตะที่เท่ากันแล้ว

แต่ดูเหมือนมันชินี่ยังไม่หมดความเชื่อมั่นใน”เทพเจ้า”ลูกหนังคนนี้ เมื่อเตรียมจะส่ง”เตเวซ”ลงเป็นตัวจริงเสียเลยในแมตช์เจอซันเดอร์แลนด์ ไม่ทราบว่า มันชินี่จะหวังอะไรจากชายชื่อ เตเวซ กับนักเตะที่ใครๆก็รู้ว่า ไม่มีใจอยู่กับทีมนานแล้ว

ผลลัพธ์ว่า มันชินี่ตัดสินใจถูกหรือผิดที่กลับมาใช้”เตเวซ”เป็นอาวุธลับคงมีอย่างเดียว คือ บั้นปลายตอนจบฤดูกาลนั่นเองครับ

“ซาตานติดปีก”

ปล. สามารถเข้าไปอ่านบทความเกี่ยวกับฟุตบอลได้ทุกวันที่ www.footballpost.net