Members

แมนเชสเตอร์ - ชมแมนซิตี้-สวอนซี - เซนต์ แอนดรูวส

แมนเชสเตอร์ - ชมแมนซิตี้-สวอนซี - เซนต์ แอนดรูว์ส

 
สวัสดีครับ แฟนๆแมนเชสเตอร์ ซิตี้ชาวไทยทุกท่าน ผม Big #6041204 ครับ หรือที่พี่ๆน้องๆรู้จักกันดีในนาม"บิ๊ก" หลังจากที่ห่างหายจากการเขียนกระทู้ไปครึ่งปี คราวนี้ผมจะกลับมาเล่าให้พี่ๆน้องๆฟัง เกี่ยวกับช่วงพักครึ่งภาคเรียนของผม ที่ผมได้ไปแมนเชสเตอร์ รวมถึงเมืองเซนต์ แอนดรูว์ส ในสกอตแลนด์ด้วย และสำคัญที่สุดคือได้ไปชมแชมเชสเตอร์ ซิตี้แบบสดๆเป็นครั้งแรก ในนัดที่เจอกับสวอนซี ซิตี้ในพรีเมียร์ลีก ที่เอทิฮัด สเตเดี้ยม

 

แมนเชสเตอร์เป็นเมืองใหญ่อันดับต้นๆของสหราชอาณาจักร อยู่ห่างจากเคมบริดจ์เมืองที่ผมอาศัยอยู่ประมาณ 200 กว่ากิโลเมตร ผมจึงเดินทางด้วยรถไฟจากเคมบริดจ์ไปแมนเชสเตอร์ โดยไปแวะกรุงลอนดอนก่อน

 

แมนเชสเตอร์ถือเป็นเมืองที่สำคัญมากในอังกฤษ โดยถูกเรียกว่าเป็นเมืองสำคัญอันดับ 2 ของสหราชอาณาจักรทั้งหมดและเป็นเมืองหลวงของภาคเหนือ แมนเชสเตอร์เป็นที่ๆเต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีจากทั่วทุกมุมโลก เป็นเมืองที่เหมาะกับการเรียนรู้และการลงทุนทำธุรกิจ โดยนักธุรกิจชาวบริติชหลายรายต่างก็ให้ความเห็นว่าแมนเชสเตอร์เป็นเมืองที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในสหราชอาณาจักร เมืองนี้เคยเป็นเจ้าภาพกีฬาเครือจักรภพ ครั้งที่ 17 เมื่อปี 2545 ซึ่งสนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยมก็เป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมกีฬาในครั้งนั้นด้วย

 

ประมาณสัก 15.00 น. ผมออกเดินทางจากใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์มาที่บ้านหลังใหญ่ของเรา สนามเอทิฮัด สเตเดี้ยม

 

เกมวันนั้นเริ่มประมาณ 17.30 น. แต่ผมมาถึงก่อนเวลาเพื่อมาชมบรรยากาศวันที่ซิตี้แข่งที่ดิ เอทิฮัด

 

แล้วการมาถึงก่อนเวลาก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง หลังจากที่ต้องนั่งดูผ่านวีดีโอมาเป็นสิบสิบเกม ผมก็ได้มารอที่หน้าทางเข้าสนาม เพื่อต้อนรับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้เข้าสู่สนามเพื่อเตรียมตัวลงแข่งครับ

คำเตือน: ถ้าหากสมาชิกบางท่านเห็นว่าเสียงคนไทยที่พูดอยู่ในวีดีโอต่อไปนี้ เป็นการดูถูก ยั่วอารมณ์ และดูไร้สาระ ผมขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการรับชมและขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี่ด้วยครับ (ถ้าตัดออกได้ ผมคงตัดไปแล้ว)

 

 

 

นี่คือบรรยากาศที่ซิตี้ สแควร์ ซึ่งก่อนเกมก็จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ทีมก่อนเกม รวมถึงมีวงดนตรีท้องถิ่นมาเล่นบนเวทีด้วย ส่วนใครที่อยากมาเชียร์ซิตี้แบบได้บรรยากาศ แต่ไม่มีตั๋ว ก็จะมาชมเกมสดๆผ่านจอยักษ์ที่นี่

 

 

ผมเลือกที่จะใส่เลื้อหมายเลข 10 ของโรลันโด้ เบียงคี่มาเชียร์ซิตี้ในเกมนี้ เพราะว่ามันเป็นเสื้อแข่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ตัวแรกที่ผมซื้อ แต่ก็คงไม่มีใครเห็น เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เสื้อตัวนี้จึงถูกเสื้อหนาวตัวหนาบดบังไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

หลายๆท่านคงสงสัยว่าผมจะเข้าไปในเอทิฮัด สเตเดี้ยมได้อย่างไรโดยที่ยังไม่มีตั๋วเลย ผมเอาตั๋วมาให้ทุกท่านดูครับ ตามรูปด้านล่าง

 

 

 

 

ภายในสนามผู้คนเริ่มเข้ามาประจำที่นั่งของตัวเอง บรรยากาศดีครับเวลามีคนอยู่ในสนามเยอะๆ แล้วสักพักนักเตะของทั้ง 2 ทีมก็วิ่งออกมาวอร์มอัพ

 

 

 

 

 

และแล้วเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง นักเตะของทั้ง 2 ทีมเดินออกมาจากอุโมงค์ลงสู่สนาม พร้อมลงเตะครับ แฟนๆทั้งสนามต่างก็ลูกขึ้นปรบมือ ส่งเสียงเชียร์ทีมของตัวเองเต็มที่

 

90 นาที กับการทดเวลาอีกเกือบ 15 นาที ชัยชนะก็เป็นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้จากประตูสุดสวยของคาร์ลอส เตเบซ ที่ยิงคล้ายๆกับเซร์คิโอ อกูเอโรในนัดที่เจอสวอนซีเช่นกัน 

บรรยากาศตลอดทั้งเกมมีแฟนๆซิตี้หลายคนแสดงอาการไม่พอใจในฟอร์มการเล่นของทีม ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานพอสมควร ขณะที่สวอนซีกลับเล่นได้อย่างน่าประทับใจ หลังจากที่แพ้ติดต่อกันมาหลายนัดก่อนหน้านี้ แต่ในที่สุดทุกคนก็มีความสุขที่เห็นทีมชนะ

สิ่งที่ได้เรียนรู้ใหม่อีกอย่างก็คือสกอร์บอร์ดของสนามจะไม่แสดงเวลาในช่วงของการทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้แฟนๆต้องมานับกันเอาเอง แล้วก็ค่อยมาผิวปากกันเพื่อช่วยผู้ตัดสินอีกแรง

วิเคราะห์ตัวต่อตัว โจ ฮาร์ทยังหนึบเช่นเคย ไม่เสียประตูเพิ่มอีก 1 นัด, ไมคาห์ ริชาร์ดส ขยันวิ่งขึ้นหน้ามาก แต่มักจะลงมาไม่ทัน แต่โดยรวมเล่นดีครับก่อนที่จะเจ็บถูกเปลี่ยนตัวออกไป, เกเอล คลีชี่ ขยันมาก แต่คล้ายๆไมคาห์ คุมโซนของตัวเองไม่ค่อยดีเท่าไร, แวงซองต์ กอมปานีช้ากว่าฤดูกาลก่อนมาก แต่ก็ช่วยป้องกันมิชูไว้ได้หลายครั้ง, มาทิย่า นาสตาซิช เล่นดีมากครับ แข็งแกร่ง คุมโซนเยี่ยม ช่วยเพื่อนได้ดีทั้งเกมรับและการต่อบอล

ซาเมียร์ นาสรี่ เล่นพอใช้ได้ครับ ไม่มีอะไรหวือหวามาก, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ไม่ได้เล่นในฟอร์มที่ดีที่สุด จึงโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง, ยาย่า ตูเร่ สุดจะบรรยาย ต่อบอล ส่งบอล วิ่งพาบอลไปข้างหน้า ทำได้ดีเกือบทุกอย่างเลยครับ, แกเร็ธ แบร์รี่ เด่นด้านการต่อบอลและคุมแดนกลาง และคอยบีบคู่ต่อสู้อยู่ตลอดเวลา

เซร์คิโอ อากูเอโร่ ขยัน วิ่งตลอดเกม แต่เสียดายที่ยิงไม่ได้, คาร์ลอส เตเบซ ทุ่มเท ขยัน วิ่งไปทั่วสนามเพื่อหาบอลเช่นเคย และยิงประตูชัยให้กับทีม ทำให้ได้แมนออฟเดอะแมตชไป

มาริโอ บาโลเตลลี่ ขี้เกียจบ้างเป็นบางเวลา แต่ก็หาจังหวะได้ดี เกือบซัดปิดกล่องให้กับทีมได้ในช่วงทดเจ็บประวัติศาสตร์ 12 นาที, โคโล่ ตูเร่ ถึงแม้ว่าจะมีปัญหากับความไวของเวย์น เร้าท์เล็ดจ์ แต่โดยรวมก็ยังทำได้ดี และโจลีออน เลสคอตต์ไม่ได้มาทำอะไรมากนัก หลังจากที่มันชินี่ตัดสินใจส่งเขาลงมาในช่วงทดเจ็บ เพื่อที่จะเล่นแผน 3-5-2

ใครจำเกมนี้ไม่ได้ ผมมีไฮไลท์ครับ

 

ผมเดินทางออกจากแมนเชสเตอร์ในวันจันทร์ด้วยรถโค้ชปรับอากาศ เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองเซนต์ แอนดรูว์สในสกอตแลนด์ โดยผมนั่งรถโค้ชจากแมนเชสเตอร์ขึ้นไปถึงดันดี จากนั้นก็นั่งรถประจำทางลงมาที่เซนต์ แอนดรูว์สครับ

 

 

เมืองเซนต์ แอนดรูว์ส ตั้งชื่อตามนักบุญแอนดรูว์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของสกอตแลนด์ ในเขตไฟฟ์ ซึ่งติดกับทะเลเหนือ เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งกอล์ฟของสหราชอาณาจักร เนื่องจากราชสโมสรกอล์ฟของสหราชอาณาจักรตั้งอยู่ที่นี่ และเมืองนี้ได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกอล์ฟระดับเมเจอร์ "ดิ โอเพิ่น แชมเปี้ยนชิพ" อยู่บ่อยๆนั่นเอง เมืองนี้มีประชากรอยู่ประมาณ 18,000 คน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คือนักกอล์ฟจากทั่วทุกมุมโลกที่มาใช้บริการสนามกอล์ฟที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในโลก รวมถึงคนที่มาเที่ยวชายหาดอีกด้วย

 

ไหนๆก็มาถึงเซนต์ แอนดรูว์สแล้ว ผมจึงต้องขอลองไปชิมปลากุเลา(หรือที่รู้จักกันดีในชื่อปลาแฮดดัค)สกอตแลนด์ ทอดกรอบซะหน่อย อร่อยใช้ได้เลยครับ แนะนำ!

ใครจะเรียกว่าฟิชแอนด์ชิพส ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าจะให้ของแท้ ต้องมีถั่วลันเตาด้วยนะครับ 

 

วันที่ 2 ในเซนต์ แอนดรูว์ส ตื่นเช้ามาก็ได้มาลองอาหารเช้าแบบดั้งเดิมของสกอตแลนด์เลย มีอาหารที่คนไทยคุ้นเคยดีก็คือไข่ดาว, มะเขือเทศอบ, เห็ดอบ, เบคอน, ขนมปังทอด, ถั่วต้ม(ถั่วต้มแล้วครับ)หรือ Baked bean, และแป้งทอด ส่วนที่คนไทย(รวมถึงผมด้วย)อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยก็คือไส้กรอกแบบชิ้นหรือ Lorne sausage, แบล็คพุดดิ้งหรือเลือดบ้านเรานั่นแหละครับ แล้วเอามาอบ, ฮิกกิสหรือเครื่องในแกะบด แล้วเอามาอบ, และสุดท้ายก็คือสโคนมันฝรั่ง

 

ก่อนอื่นผมเดินออกไปชมชายหาดเซนต์ แอนดรูว์ส สวยงามมากครับ ลมพัดเย็นสบาย(หนาวมาก) เสียดายที่แดดไม่ออก อาคารบ้านเรือนก็ดูสวยงามไปอีกแบบครับ ดูแล้วน่าจะ 100+ปี ทั้งนั้น

 

 

ผมได้มีโอกาสไปเยือน 2 สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในเมือง นั่นก็คือปราสาทและโบสถ์เซนต์ แอนดรูว์ส

8 รูปต่อไปนี้คือปราสาทเซนต์ แอนดรูว์ส

 

 

 

 

 

 

 

 

ปราสาทเซนต์ แอนดรูว์ส คาดว่าถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1200 ซึ่งหมายความว่าตัวปราสาทถูกสร้างขึ้นหลังโบสต์ 2 ปี ทั้ง 2 สถานที่ได้ผ่านสงครามในอดีตมาอย่างมากมายและไม่ได้มีการอนุรักษ์อย่างจริงจัง จึงทำให้เหลือแต่ซากปรักหักพังให้ชนรุ่นหลังอย่างพวกเราได้ชมกัน

6 รูปต่อไปนี้คือโบสถ์เซนต์ แอนดรูว์ส

 

 

หอคอยเซนต์ รูลส์

 

 

 

 

ผมเดินชมเมืองไปเรื่อยๆ เซนต์ แอนดรูว์สเป็นเมืองที่ไม่ได้ใหญ่มาก ทำให้การเดินรอบเมืองใช้เวลาไม่มากนัก

ต่อมาผมได้เดินลอด เวสต์ พอร์ท 1 ในไม่กี่ประตูเมืองในสหราชอาณาจักรที่ยังเหลืออยู่

 

 

อีก 1 สถานที่สำคัญของเมืองนี้ก็คือมหาวิทยาลัยแห่งเซนต์ แอนดรูว์ส มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของสกอตแลนด์ และเก่าแก่เป็นอันดับ 3 ในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ รองจากอ็อกซฟอร์ดและเคมบริดจ์ ก่อตั้งขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1410-1403 ซึ่งก็เท่ากับประมาณ 600 ปีพอดี ในปัจจุบันเซนต์ แอนดรูว์สเป็น 1 ในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร

 

ภายในวิทยาลัยเซนต์ ซัลวาทอร์

 

 

หอคอยของวิทยาลัยเซนต์ ซัลวาทอร์

 

ในที่สุดก็มาถึงวันสุดท้ายของการเดินทาง เช้าวันพฤหัสบดีอากาศดีเป็นพิเศษครับ แดดออก ฟ้าเปิด ผมเลยถือโอกาสเดินไปที่ชายหาดเซนต์ แอนดรูว์สอีกรอบเพื่อถ่ายรูปสวยๆเก็บไว้ครับ

สวยไม่สวย ลองเอาไปเทียบกับที่ถ่ายก่อนหน้านี้ดูนะครับ แดดนะแดด ดันมาออกวันที่เรากลับ ใครมาสหราชอาณาจักรก็ต้องเจอแบบนี้ทั้งนั้นละครับ

 

ผมเดินทางกลับด้วยรถไฟจากสถานีลิวชาร์สตรงสู่สถานีคิงส ครอสในลอนดอน และกลับเคมบริดจ์อย่างสวัสดิภาพครับ

ชานชาลาในสถานีรถไฟคิงส ครอสในลอนดอน

 

ทั้งหมดนี้ก็คือการแอ่วเหนือไปแมนเชสเตอร์และเซนต์ แอนดรูว์สของผม หวังว่าทุกๆท่านคงจะเพลิดเพลินกับการอ่านสารคดีเชิงท่องเที่ยวของผมนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใด แนะนำติชมได้นะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ

 

สวัสดีครับ

Views: 2447

Reply to This

Replies to This Discussion

gclub ดาวน์โหลด อาหารการกิน และบ้านเมืองเค้าน่าอยู่มาก

อยากไปๆๆๆ สักครั้งในชีวิต ^^

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.