มีเทพเจ้าฟูโดเมียว ( เทพเจ้าแห่งไฟ หรือเทพเจ้าแห่งพลัง ) องค์สีดำ หน้าตาดุ มีเขี้ยว มือขวาถือดาบ มือซ้ายถือสร้อยลูกประคำ
สร้างในสมัยจักรพรรดิซากะ ปี คศ. 774 - 835 แกะสลักโดย Koboo Daishi ผู้ก่อตั้งนิกายชินกอน โดยคำสั่งของจักรพรรดิซากะ แต่เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัด Takaosan Jingoji ที่เกียวโต
ในปี คศ. 939 ได้เกิดกบฏขึ้น จักรพรรดิซากะ ได้สั่งให้พระคันโจนำเทพเจ้าไปทำพิธีกรรมเพื่อสันติเป็นเวลา 3 อาทิตย์ ในวันสุดท้ายของพิธีคือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คศ. 940 กบฏก็ได้ถูกปราบปรามโดยสิ้นเชิง และเมื่อเตรียมจะนำกลับเกียวโต ได้เกิดนิมิตรขึ้นว่า ไม่สามรถเคลื่อนย้ายเทพเจ้าฟูโดเมียวได้ เพราะหนักคล้ายหินก้อนใหญ่มาก เนื่องจากยังไม่บรรลุจุดมุ่งหมาย จะขออยู่เพื่อบรรเทาทุกข์ให้ผู้คนต่อ จักรพรรดิซากะจึงสั่งให้พระคันโจ หาที่ประดิษฐานองค์เทพเจ้า พระคันโจจึงได้บูรณะวัดร้างแห่งหนึ่งเพื่อประดิษฐานองค์เทพเจ้าฟูโดเมียว บนพื้นที่ 165,000 ตรม.
วัดนาริตะซัง เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ โอ่โถง ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติ สองข้างทางเดินสู่วัดต้องเดินขึ้นบนเนินขั้นบันไดสูงพอประมาณ มีโคมไฟอยู่กลางประตู บริจาคโดยตลาดปลา สองข้างประตูมีทวารบาล ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เฝ้าอยู่ มีกระถางธูปวางไว้หน้าลาน มีเจดีย์ 3 ชั้นอยู่ด้านขวามือ ด้านหน้าเป็นศาลาใหญ่ ที่ดูใหม่มาก รอบ ๆ บริเวณก็ดูไม่เก่าแก่ เมื่อเดินอ้อมทางซ้ายศาลาใหญ่เข้าไป เดินขึ้นบันได จะเจอศาลาเล็ก ๆ อีกสองแห่งด้านใน จึงได้เห็นร่องรอยของความเก่าแก่ ด้วยศาลาไม้ และไม้แกะสลักต่าง ๆ ที่เป็นแบบญี่ปุ่นที่นิยมทำกันในสมัยก่อน เดินลึกเข้าไปด้านบนจะเป็นที่ตั้งของเจดีย์ไดอิโตะ มีความสูงประมาณ 58 เมตร สร้างในปี คศ. 1984 โดยบรรจุคำสวด และสารที่ทำให้เกิดสันติภาพในโลกไว้ในแคบซูลกาลเวลา และภายในประดิษฐานเทพเจ้าฟูโดเมียว
ในปีหนึ่ง ๆ มผู้คนมากราบไหว้มากกว่า คน เพื่อขอพรให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง โดยเฉพาะพวกซูโม่จะมากราบไหว้ก่อนการแข่งขัน
มีงานประจำป เทศก Setsubun ประมาณสัปดาห์ที่สามของเดือนกุมภาพันธ์
Tags:
-
▶ Reply to This