อย่างไรก็ดี เม็ดเงินที่หมุนเวียนใช้จ่ายในการช็อปปิ้งนักเตะหลายคนอาจจะมองว่า บางคนเหมาะกับราคาที่แสนแพงหรือบางคนก็ฝีเท้าดี แต่ทำไมค่าตัวถูก ด้วยเหตุนี้ทำให้ล่าสุด ''THE CIES FOOTBALL
OBSERVATORY'' เว็บไซต์เกี่ยวกับการสำรวจประเมินเรื่องราวๆ ต่างของวงการลูกหนังจากสวิตเซอร์แลนด์ ทำการประเมินนักฟุตบอลที่มีมูลค่าในตลาดนักเตะของยุโรป โดยล่าสุดได้มีการจัด 20 อันดับ หรือ ''ท็อป ทเวนตี้'' ออกมาเป็นอย่างไรบ้างไปติดตามกัน
        

        อันดับที่ 20 หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล)


         มูลค่าทางตลาดของศูนย์หน้าฟันจอบทีมชาติอุรุกวัย อย่าง หลุยส์ ซัวเรซ อยู่ที่ราว 32 - 37 ล้านปอนด์ (ราว 1,536-1,776 ล้านบาท) หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ด้วยการทะลวงตาข่ายถึง 30 ประตูในทุกรายการให้กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลที่ผ่านมา

        ถึงแม้ว่าในด้านพฤติกรรมส่วนตัว ซัวเรซ จะเป็นนักเตะที่ชอบสร้างปัญหาให้ตัวเองสม่ำเสมอเช่นการกลายร่างเป็นซอมบี้ กัดแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ปราการหลังของ เชลซี แต่ในเรื่องฝีเท้าเขาก็ยังได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก และเขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าตอนนี้เค้ากำลังอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพค้า แข้ง และเป็นนักเตะที่มีมูลค่าสูงที่สุดของลิเวอร์พูล ในเวลานี้ ซึ่งเป็นที่หมายตาของทีมยักษ์ใหญ่ในสเปนอย่าง เรอัล มาดริด โดยคาดว่าค่าตัวของศูนย์หน้าฟันเหยินรายนี้จะสูงถึง 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,400 ล้านบาท) เลยทีเดียว



        อันดับที่ 19 ซานติ กาซอร์ล่า (อาร์เซน่อล)


         เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็กทีมชาติ สเปน รายนี้ถือเป็นหนึ่งในการซื้อตัวที่ดีที่สุดของ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้หลังจากเจียดเงิน 17.3 ล้านปอนด์ (ราว 865 ล้านบาท) คว้าตัวมาจาก มาลาก้า เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว

        กาซอร์ล่า ประเดิมซีซั่นบนแผ่นผู้ดีด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมด้วยการทำ 12 ประตูและผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูอีก 12 ครั้งและยังมีอิทธิพลอย่างมากในการบัญชาเกมแดนกลางของ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลที่ผ่านมาจนช่วยทีม ''ปืนใหญ่'' คว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จโดยคาดกันว่าตอนนี้หากมีการย้ายทีมเกิดขึ้น กาซอร์ล่า จะมีค่าตัวราว 31-36 ล้านปอนด์ (ราว 1,488-1,7258 ล้านบาท)



        อันดับที่ 18 โธมัส มุลเลอร์ (บาเยิร์น มิวนิค)


        โธมัส มุลเลอร์ ถือเป็นเพชรอันล้ำค่าที่ บาเยิร์น มิวนิค ไม่ต้องเสียเงินซื้อมาเลย เพราะเป็นผลผลิตส่งตรงจากอะคาเดมี่ของสโมสรเอง โดยคาดกันว่า ตอนนี้มูลค่าการซื้อขายของดาวเตะรายนี้นั้นไม่ต่ำกว่า 38 ล้านปอนด์ (ราว 1,824 ล้านบาท) แน่นอน
 
        มุลเลอร์ พึ่งจะก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่ของ ''เสือใต้'' ไม่กี่ปีแต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของกองกลางวัย 23 ปีรายนี้ ซึ่งได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เขาเป็นส่วนสำคัญที่พา บาเยิร์น มิวนิค คว้าทริปเปิลแชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา พร้อมกับก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย



        อันดับที่ 17 เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (บาร์เซโลน่า)


         เชื่อได้เลยว่าต้องมีหลายคนสงสัยว่า เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ มีชื่อติดโผนี้ได้อย่างไร เนื่องด้วยฟอร์มการเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ออกจะธรรมดาด้วยซ้ำ แต่ถ้ามองกันดีๆ จะเห็นได้ว่า บาร์เซโลน่า และ สเปน นั้นได้ประโยชน์อย่างมากกับการเล่นที่แสนจะธรรมดา แต่ชาญฉลาดของเขา

         มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนรายนี้ทำหน้าที่เสมือนผู้ปิดทองหลังพระ เพราะนอกจากจะมีหน้าที่หลักคอยตัดเกมแล้วยังเชื่อมเกมให้เพื่อนร่วมทีมได้ อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งคาดกันว่ามูลค่าการย้ายทีมของเขาตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 33-38 ล้านปอนด์ (ราว 1,584-1,824 ล้านบาท)


        อันดับที่ 16 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)


        แม้ว่าอายุอานามกำลังจะย่างเข้า 30 ปีแล้ว แต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็ยังคงเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกด้วยความสามารถในการถล่มประตูของ เขา ช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุดไปครองได้สำเร็จ

         แม้ว่าดาวเตะเจ้าของฉายา ''อาร์วีพี'' จะย้ายจาก อาร์เซน่อล มาร่วมทัพ ''ปีศาจแดง'' ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์ (ราว 1,152 ล้านบาท) เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว แต่ตอนนี้มีการคาดการณ์กันว่า หากศูนย์หน้าชาวดัตช์ ต้องการย้ายทีมค่าตัวของเขาอาจพุ่งสูงถึง 34-39 ล้านปอนด์ (ราว 1,632-1,872 ล้านบาท) เลยทีเดียว



        อันดับที่ 15 เชส ฟาเบรกาส (บาร์เซโลน่า)


         อดีตสตาร์ดังของ อาร์เซน่อล รายนี้แม้จะไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นในถิ่น คัมป์ นู มากเท่าไรนัก แต่เมื่อใดก็ตามที่ถูกลงสนาม ฟาเบรกาส สามารถลงมาปรับเปลี่ยนเกมให้ บาร์เซโลน่า ได้เสมอและยังมีส่วนช่วยให้ทีม ''เจ้าบุญทุ่ม'' คว้าแชมป์ลา ลีกา สเปน ฤดูกาลที่ผ่านมาได้อีกด้วย

        ไม่เพียงแค่นั้นมิดฟิลด์วัย 26 ปีรายนี้ยังมีดีกรีเป็นนักเตะในทัพกระทิงดุ ชุดคว้าแชมป์โลก และคว้าแชมป์ยูโร 2 สมัยด้วย จากความสำเร็จอันมากมายนี้เองที่ทำให้มูลค่าของเขาในตอนนี้ตกอยู่ราว 35-40 ล้านปอนด์ (ราว 1,680-1,920 ล้านบาท)


        อันดับที่ 14 อันเดรส อิเนียสต้า (บาร์เซโลน่า)

        ดาวเตะร่างเล็กจอมเทคนิครายนี้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขาคือกองกลางที่ดีที่สุดของโลก เขาคือผู้ยิงประตูชัยพาทีมชาติ สเปน เฉือนเอาชนะ ฮอลแลนด์ พร้อมกับผงาดคว้าแชมป์เวิลด์ คัพ 2010

        บาร์เซโลน่า ถือว่าโชคดีอย่างมากที่มีเพชรเม็ดงามรายนี้อยู่ในกำมือหลังจาก อิเนียสต้า คือผลผลิตจาก ลา มาเซีย แหล่งเพราะพันธุ์นักเตะดาวรุ่งชื่อดังของบาร์ซ่า นั่นเอง อย่างไรก็ตามได้มีการตีราคาค่าหัวของ กองกลางเบอร์ 1ของโลกคนนี้ อยู่ที่ 35-41 ล้านปอนด์ (ราว 1,680-1,968 ล้านบาท)


        อันดับที่ 13 เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด)


        เซร์คิโอ รามอส เป็นอีกหนึ่งนักเตะชุดประวัติศาสตร์ของทีมชาติ สเปน ที่เป็นกำลังสำคัญพาทีมคว้าแชมป์โลก 1 สมัยและแชมป์ยูโรอีก 2 สมัยโดยย้ายจาก เซบีย่า มาร่วมทัพ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 23 ล้านปอนด์ (ราว 1,104 ล้านบาท) เมื่อปี 2005 พร้อมกับเป็นนักเตะดาวรุ่งสเปนที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ขณะนั้น

        รามอส อยู่กับ เรอัล มาดริด มา 8 ฤดูกาลลงเล่นไปแล้วทั้งสิ้น 352 นัดซัดไป 41 ประตูโดยคาดกันว่ามูลค่าการย้ายทีมของปราการหลังทีมชาติสเปนรายนี้อยู่ที่ ประมาณ 35-41 ล้านปอนด์ (ราว 1,680-1,968 ล้านบาท) และถือเป็นกองหลังเพียงรายเดียวที่ติดทำเนียบจากการจัดอันดับ 20 นักเตะในครั้งนี้



        อันดับที่ 12 คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด)


        คาริม เบนเซม่า โด่งดังมาจากการเป็นดาวรุ่งของ โอลิมปิก ลียง ก่อนที่ฟอร์มการถล่มประตูจะไปเตะตา เรอัล มาดริด เข้าอย่างจังจนทีม ''ราชันชุดขาว'' ยอมทุ่มเงินถึง 30 ล้านปอนด์ (ราว 1,440 ล้านาท) คว้าตัวมาเสริมแนวรุก อย่างไรก็ตาม ''เบนซ์'' ก็ไม่ทำให้ผิดหวังในการย้ายมาเล่นที่สเปน ด้วยการยิงไปทั้งสิ้น 89 ประตูใน 4 ฤดูกาล โดยฤดูกาลที่โดดเด่นที่สุดของศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสนั้นก็คือในฤดูกาล 2011-2012 ที่เบนเซม่าถล่มตาข่ายทั้งสิ้น 32 ประตู และช่วยให้ ''เรอัล มาดริด'' คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน ได้สำเร็จ ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นทำให้ เบนเซม่า ได้รับความสนใจจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่พร้อมจะทุ่มเงิน 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,200 ล้านบาท) ให้ ''ราชันชุดขาว'' พิจารณาซึ่งดูจะเป็นข้อเสนอที่ถูกไปหน่อยหากเปรียบเทียบกับราคาประเมินที่ คาดกันว่าค่าตัวของศูนย์หน้ารายนี้อยู่ที่ 35-41 ล้านปอนด์ (ราว 1,680-1,968 ล้านบาท) เลยทีเดียว


        อันดับที่ 11 มาริโอ เกิทเซ่ (บาเยิร์น มิวนิค)


        หลังจากที่ มาริโอ เกิทเซ่ พุ่งพรวดขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทำให้คู่ปรับร่วมลีกอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ยอมทุ่มเงิน 33 ล้านปอนด์ (ราว 1,584 ล้านบาท) เป็นค่าฉีกสัญญาของดาวเตะเจ้าของฉายา ''เมสซี่แห่งเยอรมัน'' รายนี้ซึ่งในการฉีกสัญญาครั้งนี้ทำให้ เกิทเซ่ กลายเป็นนักเตะเยอรมันที่ค่าตัวแพงที่สุดอีกด้วย

        ว่ากันว่าถ้า ดอร์ทมุนด์ สามารถเจรจาต่อสัญญากับ เกิทเซ่ ได้ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจย้ายไปเข้ารัง ''เสือใต้'' นั้น ค่าตัวของเขาจะพุ่งสูงขึ้นเป็น 42 (ราว 2,016 ล้านบาท) เลยทีเดียว



        อันดับที่ 10 ดาบิด ซิลบา (แมนฯ ซิตี้)


        ซิลบา โด่งดังมาจากการลงเล่นให้กับ บาเลนเซีย แต่มาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจนกลายเป็นมิดฟิลด์ระดับโลกหลังจากย้ายมาร่วมทีม แมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2010


         กองกลางเชิงสูงรายนี้มีสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกับ อันเดรส อิเนียสต้า อย่างมากทั้งการวางบอลที่แม่นยำและการยืนตำแหน่งที่ชาญฉลาดทำให้ ซิลบา กลายเป็นกำลังหลักของทั้งในทีมชาติและสโมสร
 นอกจากนี้ ซิลบา เป็นผู้ยิงประตูเบิกร่องในเกมนัดชิงชนะเลิศยูโร 2012 ก่อนที่ทีมชาติ สเปน จะถล่มเอาชนะ อิตาลี ไปขาดลอย 4-0 และยังเป็นส่วนสำคัญที่พา แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีนั้นด้วย ซึ่งด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นนี้เองทำให้มูลค่าการย้ายทีมของ ซิลบา อยู่ที่ประมาณ 37-43 ล้านปอนด์ (ราว 1,776-2,064 ล้านบาท)




        อันดับที่ 9 แกเร็ธ เบล (สเปอร์ส) 

        ถึงแม้ว่าจะมีข่าวลืออย่างหนาหูว่า ''เรอัล มาดริด'' และ ''ปารีส- แซงต์ แชร์กแมง'' 2 ทีมมหาเศรษฐี พร้อมที่จะทุ่มเงินเป็นสถิติโลกถึง 85 ล้านปอนด์ (หรือราว 4,080 ล้านบาท) เพื่อคว้าตัว แกเร็ธ เบล
 ปีกคนเก่งมาจากทีมไก่เดือยทอง 


         แต่ค่าตัวของ เบล ตามการประเมินจริงๆ แล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 37 - 43 ล้านปอนด์ (หรือราว 1,776 - 2,064 ล้านบาท) เท่านั้น คงไม่มีใครกล้าเถียงว่าฤดูกาลที่ผ่านมา ปีกตัวจี๊ดรายนี้โชว์ผลงานสุดยอดขนาดไหนกับสเปอร์ส ทว่าที่ราคาประเมินนั้นอยู่ในระดับนี้ ก็เนื่องด้วย ตัวนักเตะเองยังไม่มีถ้วยแชมป์ประดับบารมีให้กับต้นสังกัดและก็ไม่สามารถนำ ทีมคว้าโควตาไปลุยถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้นั่นเอง


        อันดับที่ 8 เวย์น รูนี่ย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)  

        ''เวย์น รูนี่ย์'' กองหน้าร่างอวบ มีโอกาสที่จะย้ายออกจากทีม ''ปีศาจแดง'' ในฤดูร้อนนี้ หลังจากมี 9 ปีที่ยอดเยี่ยมกับ ''แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด'' ซึ่งอดีตเด็กเก่าของ ''เอฟเวอร์ตัน''รายนี้ เคยเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งค่าตัวแพงหลังจากย้ายออกจากถิ่น ''กูดิสัน พาร์ค'' มาสู่รั้ว ''โอด์ แทร็ฟฟอร์ด'' ด้วยค่าตัว 28 ล้านปอนด์
ในปี 2004 แต่ตอนนี้เขาดูไม่มีความสุขนัก หลังจากถูกจับไปเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัดในฤดูกาลที่ผ่านมา
 
        โดย รูนี่ย์ ก็พร้อมจะพิจารณาข้อเสนอจากทีมยักษ์ใหญ่ที่ให้ความสนใจ และยังเชื่อในความสามารถของเขาอย่างเช่น เรอัล มาดริด, เชลซี, อาร์เซน่อล และบาร์เซโลน่า ส่วนค่าตัวของ ''เวย์น รูนี่ย์'' นั้นอยู่ที่ 38 - 44 ล้านปอนด์ (หรือราว 1,824 - 2,112 ล้านบาท) เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น แมนฯยูไนเต็ด สมควรจะรอข้อเสนอที่เหมาะสม ก่อนที่จะตกลงขายนักเตะที่ไม่มีความสุขกับสโมสรรายนี้ออกไปจากทีม


        อันดับที่  7 มาริโอ บาโลเตลลี่ (เอซี มิลาน)


        ''มาริโอ บาโลเตลลี่'' อาจจะไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดีนักในการลงเล่นให้กับ ''แมนเชสเตอร์ ซิตี้'' ที่อังกฤษ แต่เขาก็สามารถกลับมาโชว์ฟอร์มเทพได้อีกครั้ง หลังย้ายกลับมาอิตาลี ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ (ประมาณ 816 ล้านบาท) สามารถซัดไป 12 ประตู จากการลงเล่น 13 เกม ช่วยให้ ''เอซี มิลาน'' คว้าโควตาไปลุย ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ และกองหน้าจอมกวนรายนี้ยังโชว์ฟอร์มเทพอย่างต่อเนื่องกับทีมชาติอิตาลี อีกด้วย นั่นทำให้มูลค่าทางตลาดของ บาโลเตลลี่ ในตอนนี้ สูงถึง 38 - 45 ล้านปอนด์ (หรือราว 1,824 - 2,160 ล้านบาท) มากกว่าที่มิลานจ่ายให้กับทีมเรือใบสีฟ้า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลายเท่าตัวเลยก็ว่าได้



        อันดับที่ 6 ราดาเมล ฟัลเกา (โมนาโก)


         แม้ว่า ''ราดาเมล ฟัลเกา'' จะโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดกับทีม ''ตราหมี'' แอต.มาดริด และถือว่าเป็นสุดยอดกองหน้าอันดับต้นๆ ของโลกในตอนนี้ แต่ทาง CIES ก็คิดว่าค่าตัว 51 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,448 ล้านบาท) ที่ โมนาโกจ่ายเป็นค่าตัวของ ฟัลเกา นั้นแพงเกินไป CIES ได้เผยว่ามูลค่าทางตลาดจริงๆ ของดาวยิงทีมชาติโคลอมเบียรายนี้อยู่ที่ราว 39 - 45  ล้านปอนด์เท่านั้น (หรือประมาณ 1,872 - 2,160 ล้านบาท) แต่ โมนาโก ก็คงไม่ต้องกังวลในฝีเท้าของดาวยิงรายนี้มากนัก เนื่องจากเคยมีทีมยักษ์ใหญ่รุมจีบมากมายทั้ง แมนฯ ซิตี้, เชลซี, เรอัล มาดริด แค่นี้ก็คงการันตีฝีมือการพังประตูของ ''ราดาเมล ฟัลเกา'' ได้อย่างดีแล้ว



        อันดับที่ 5 เซร์คิโอ ''กุน'' อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)


        ค่าตัว 19 ล้านปอนด์ (หรือราว 912 ล้านบาท) เป็นเงินที่ ตราหมี ''แอตเลติโก มาดริด'' ทุ่มเงินซื้อตัว ''เซร์คิโอ อเกวโร่'' มาก่อนที่จะขายต่อให้กับเรือใบสีฟ้า ''แมนเชสเตอร์ ซิตี้'' ในราคา 35 ล้านปอนด์
(ประมาณ 1,680 ล้านบาท) ด้วยวัยเพียง 25 ปี แต่หัวหอกร่างเล็กผู้นี้ก็พังประตูให้กับสโมสรรวมทั้งสิ้น 171 ประตูเข้าไปแล้ว บวกกับ 18 ประตู ในนามทีมชาติ ''อาร์เจนตินา'' อีกด้วย นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ ''กุน'' ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 ด้วยราคาค่าตัวที่ถูกประเมินเอาไว้ราวๆ 41-47 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,968 - 2,256 ล้านบาท)




        อันดับที่ 4  เอแดน อาซาร์ (เชลซี)

        เอแดน อาซาร์ อดีตดาวรุ่งเนื้อหอมของ ''ลีลล์'' เคยเป็นที่สนใจของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ ทั้ง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ก่อนที่จะเป็นสิงโตน้ำเงินคราม ''เชลซี'' ที่สามารถปิดดีล คว้าตัว ดาวรุ่งดีกรีทีมชาติเบลเยียม ผู้นี้ไปร่วมทีม ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,296 ล้านบาท) เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว 
 ทั้งนี้ อาซาร์ โชว์ผลงานได้ดีตั้งแต่ฤดูกาลแรกกับต้นสังกัดใหม่ทันที ด้วยการทำ 13 ประตู และจ่ายบอลให้เพื่อนพังประตูอีก 14 ลูก ในทุกรายการทำให้มูลค่าของดาวเตะรายนี้ ตอนนี้ตกอยู่ที่ 47.2 - 54.8  ล้านปอนด์ (หรือราว 2,265 - 2,630 ล้านบาท)




        อันดับที่ 3 เอดิสัน คาวานี่ (นาโปลี)
 
        ศูนย์หน้าของนาโปลีรายนี้ มีสิทธิ์ที่จะย้ายทีมด้วยค่าตัวมหาศาลในเร็ววันนี้ เพราะมีทั้ง เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เรอัล มาดริด ที่กำลังให้ความสนใจในตัวของ ''เอดิสัน คาวานี่'' สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 53 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,544 ล้านบาท) โดยราคานี้จะทำให้คาวานี่กลายเป็น 1 ในการซื้อขายที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล อย่างไรก็ตาม จากการประเมิน มูลค่า โดย CIES นั้น คิดว่าด้วยฟอร์มการเล่นในปัจจุบัน บวกกับ ศักยภาพในการพัฒนาฝีเท้าในอนาคต ทำให้ CIES คาดว่ามูลค่าที่แท้จริงของ ''เอดิสัน คาวานี่'' จะอยู่ที่ 57 ล้านปอนด์ (หรือราว 2,736 ล้านบาท) เลยทีเดียว




        อันดับที่ 2 ''คริสเตียโน่ โรนัลโด้'' (เรอัล มาดริด)

        ''คริสเตียโน่ โรนัลโด้'' กลายเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก หลังย้ายออกจากทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด'' มาร่วมทัพราชันชุดขาว ''เรอัล มาดริด'' ในปี 2009 ด้วยค่าตัวสูงถึง 80 ล้านปอนด์ (หรือราว 3,840 ล้านบาท) นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังโชว์ผลงานได้อย่างสุดยอดให้กับราชันชุดขาว หลังจากซัดไปทั้งสิ้น 201 ประตู จากการลงเล่น 199 นัด ซึ่งโรนัลโด้ มีสิทธิ์ที่จะทำลายสถิตินักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกของตัวเองลง

        หลังจากมีข่าวว่า ''ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง'' และ ''โมนาโก'' 2 ทีมมหาเศรษฐี แห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส กำลังให้ความสนใจในตัว ปีกจอมพลิ้วรายนี้ และพร้อมทุ่มเงินสูงถึง 100 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าตัวของ ''คริสเตียโน่ โรนัลโด้'' เพราะฉะนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้า CIES จะประเมินราคาของอดีตดาวรุ่งของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน รายนี้อยู่ที่ 100 ล้านปอนด์  (หรือราว 4,800 ล้านบาท)



        อันดับที่ 1 ''ลิโอเนล เมสซี่'' (บาร์เซโลน่า)


         แน่นอนว่า อันดับที่ 1 คงเป็นของใครไม่ได้ นอกจากผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกในขณะนี้อย่าง ''ลิโอเนล เมสซี่'' โดยศูนย์หน้าตัวเก่งรายนี้ ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ''บาร์เซโลน่า'' และช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์


        ทั้ง แชมป์ ลา ลีกา ลีก, แชมป์ โกปา เดล เรย์ และ แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาได้หมดแล้ว ถึงแม้จะรู้ดีว่า บาร์ซ่า คงไม่มีทางปล่อยตัวศูนย์หน้าร่างเล็กรายนี้ ออกจากถิ่น ''คัมป์ นู'' อย่างแน่นอนไม่ว่าจะได้ราคาเท่าไหร่ก็ตาม แต่ CIES ก็ประเมินมูลค่าทางการตลาดของนักเตะคนนี้ไว้ที่ราว 184 - 214  ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,832 - 10,272 ล้านบาท) 


        ทั้งนี้ เมสซี่ ได้กลายเป็นคีย์แมนของยอดทีมอย่าง ''บาร์เซโลน่า'' และมีบทบาทสำคัญต่อทีมอย่างมาก เช่นเดียวกับ อันเดรส อิเนียสต้า และ ชาบี เอร์นานเดซ 


        สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือ ทั้ง 3 คนที่กล่าวมานั้น บาร์ซ่า ไม่เคยต้องทุ่มเงินซื้อนักเตะทั้ง 3 รายนี้เลย เนื่องจากทั้ง 3 คนเติบโตมาจากอะคาเดมี่ฝึกสอนเยาวชนของสโมสรนั่นเอง และนี่ก็คงเป็นบทพิสูจน์ว่า อะคาเดมี่ของ บาร์ซ่า เป็นหนึ่งในศูนย์ฝึกสอนเยาวชนที่ดีที่สุดในโลก


        -ทีมข่าวฝ่ายต่างประเทศ-