Members

เรื่องสั้นจากเม็ดก้อนกรวด:แก้บนสิบรอบ

แก้บนสิบรอบ

ผมกำลังเดินไปที่ศาลพ่อปู่ประจำโรงเรียน ศาลแห่งนี้เป็นที่เคารพและศูนย์รวมจิตใจของผู้คนที่มีความผูกพันกับที่นี่ ผมสวมเสื้อยืดและกางเกงวอมและที่มือขวาของผมนั้นหิ้วรองเท้าผ้าใบคู่หนึ่งมาด้วย ผมกำลังจะไปทำตามคำมั่นสัญญาที่ผมเคยให้แก่ศาลแห่งนี้

เมื่อ1เดือนก่อน...

“สาธุ พ่อปู่ครับ ลูกกำลังจะไปแข่งขันตอบปัญหาชิงรางวัล ขอให้ลูกได้รางวัลด้วยครับ ถ้าลูกได้รางวัลลูกจะนำเงินมาเป็นทุนให้น้องๆทำกิจกรรมเพื่อโรงเรียนต่อไป หากลูกทำได้แล้วไซร้ ลูกจะวิ่งถวาย 10 รอบ ลูกก็ไม่ทราบเลยครับ ทำไมเขาถึงนิยมบนด้วยการวิ่ง ทำไมพวกเขาไม่บนว่าจะทำประโยชน์อย่างอื่นให้แก่โรงเรียนกัน ผมคิดว่ามันเห็นสมควรกว่าการวิ่ง แต่ที่วันนี้ลูกบนด้วยการวิ่งเพราะรุ่นพี่บอกต่อๆกันมาให้บนด้วยการวิ่ง เขาว่าวิธีนี้จะได้ผลมากที่สุด ขอให้พ่อปู่ช่วยอวยพรด้วยครับ สาธุ”

หลังจากวันนั้นผมก็เดินทางไปแข่งขันตอบปัญหา ผลปรากฏว่าผมทำได้ดั่งที่ผมตั้งใจไว้ มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ? วันนี้ผมจึงต้องมาที่นี่ ผมนั่งลงที่หน้าศาลผมเปลี่ยนรองเท้าที่นำมา จากนั้นผมก็ลุกขึ้นแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ นำเอาออกซิเจนเข้าปอดทั้งสองข้างและผมก็ค่อยๆปล่อยมันออกมาจากนั้นผมก็เริ่มออกตัววิ่ง

ผมกำลังวิ่งอยู่บนเส้นทางที่เป็นรูปวงกลม คนโรมันนิยมสร้างโบสถ์เป็นรูปวงกลมเพราะเขาคิดว่าวงกลมไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดเฉกเช่นเดียวกับพระเจ้าของพวกเขา แต่ผมถือว่าตรงจุดที่ผมวิ่งออกมาคือจุดเริ่มต้นและเมื่อผมวิ่งครบ10รอบมันก็คือจุดสิ้นสุด ผมค่อยๆวิ่งอย่างช้าๆเพราะว่าเส้นทางสายนี้มันยังอีกยาวไกลนัก

ผมมองเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งที่หน้าตึก 5 ผมจำพวกเขาได้พวกเขาคือเด็กม.5รุ่นน้องของผม พวกเขากำลังตั้งโต๊ะรับสมัครเด็กที่สนใจไปค่ายประจำชุมนุมของพวกเขา โรงเรียนของผมมีระบบกิจกรรมชุมนุม มีชุมนุมต่างๆเกือบสามสิบกว่าชุมนุม ชุมนุมเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วถูกดูแลโดยนักเรียนชั้นม.5 นักเรียนชั้นม.6จะไม่ค่อยทำกิจกรรมชุมนุมแล้ว เนื่องจากพวกเขาต้องใช้เวลาในการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวไปไล่ล่าความฝันของพวกเขา

ผมวิ่งผ่านตึก4ตึก3ตึก2 และกลับมาที่ตึก 1 ตามลำดับ ในระหว่างทางนั้น มีรุ่นน้องสองคนบังเอิญผ่านมา เขาพนมมือขึ้นแล้วกล่าวสวัสดี ผมก็ทำเช่นกัน ผมในตอนเข้ามาที่โรงเรียนแห่งนี้ใหม่ๆนั้น ผมเห็นเพื่อนของผมหลายคนพนมมือสวัสดีรุ่นพี่ที่แก่กว่าเพียงไม่กี่ปี ผมรู้สึกประหลาดใจเพราะผมไม่เคยทำและโรงเรียนเดิมของผมก็ไม่เคยสอนหรือมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
จนกระทั่งผมอยู่ชั้น ม.5 ผมเป็นประธานชุมนุมๆหนึ่ง ผมทำกิจกรรมมากขึ้นและรู้จักรุ่นน้องมากขึ้น มีรุ่นน้องมากมายที่เมื่อพบผมจะทำการกระทำดังกล่าว แรกๆนั้นผมก็ทำตัวไม่ถูกได้แต่รับเป็นคำพูดบ้าง บางครั้งผมถึงกับโบกมือตอบรับเสียด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าควรทำเช่นไรเมื่อพบรุ่นน้องและควรทำเช่นไรเมื่อพบรุ่นพี่ ผมคงถูกกลืนไปกับระบบรุ่นพี่รุ่นน้องของโรงเรียนนี้โดยที่ผมไม่รู้ตัว

ร่างกายของผมเริ่มชโลมไปด้วยหยาดเหงื่อ ผมวิ่งได้ราวๆ3รอบแล้ว บรรยากาศของโรงเรียนในขณะนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินพลุกพล่าน บางคนเป็นเด็กนักเรียน บางคนเป็นศิษย์เก่า บางคนก็เป็นผู้ปกครองที่มารอรับบุตรของตนและบางคนก็คือครูของผม

ที่โต๊ะตัวหนึ่งมีน้องๆกลุ่มหนึ่งท่าทางน่าจะประชุมกันอยู่ เพราะน้องๆกลุ่มนั้นกำลังนั่งฟังชายคนหนึ่งที่ไว้ผมยาวและใส่ชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยผู้ซึ่งกำลังพูดอยู่ ผมจำพี่เขาได้เป็นอย่างดี เขาพึ่งจบจากโรงเรียนไปเมื่อ ปีสองปีนี้เอง ภาพเหล่านี้ทำให้ผมหวนคิดถึงเมื่อปีที่แล้ว บ่อยครั้งที่ผมทำกิจกรรมชุมนุมจะมีรุ่นพี่ที่จบไปแล้วมักจะแวะเวียนมาหาอยู่เสมอ บางครั้งผมก็ขอคำแนะนำจากเขา ผมคิดว่ารุ่นพี่เหล่านี้คงไม่มีทางกลับมา หากรุ่นพี่และรุ่นน้องไม่เคยทำกิจกรรมด้วยกันมาก่อนเลย สิ่งเหล่านี้มันจึงทำให้เกิดระบบเกื้อกูลกันระหว่างศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของโรงเรียนผม

ผมเริ่มรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมก็ยังกัดฟันวิ่งต่อไปเรื่อยๆ บรรยากาศของโรงเรียนขณะนี้เริ่มเงียบลง เด็กนักเรียนส่วนใหญ่กลับบ้านกันหมดแล้วเหลือแต่เด็กๆที่ทำกิจกรรม ผมวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ผมเห็นคุณครูท่านหนึ่งกำลังเดินสวนมา เขาคือคุณครูที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี ผมพนมมือขึ้นสวัสดีท่าน ท่านก็ยกมือรับสวัสดีเช่นกัน

คุณครูท่านนี้มีพระคุณต่อผมมาก ท่านคือผู้ที่ชี้ทางสว่างให้แก่ผม เมื่อก่อนนั้นผมเป็นเด็กที่เกเรและไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ จนบางครั้งมีบางคนถึงกับเรียกผมว่า ขยะของโรงเรียน ผมโชคดีที่ได้พบกับครูท่าน ท่านมักเรียกผมไปอบรมอยู่เสมอ ท่านชอบพูดอยู่เสมอว่าผมเปลี่ยนได้ หลังเลิกเรียนท่านมักจะนัดเด็กที่เรียนไม่เก่งมาสอนเพิ่มเติมให้อยู่เสมอ หากผมไม่ได้พบกับท่านก็คงไม่มีผมในวันนี้

เวลาพบค่ำแล้ว ขาทั้งสองข้างของผมเริ่มหมดแรง เส้นทางวงกลมสายนี้มันใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ผมมองตึกต่างๆของโรงเรียน ที่อยู่รายล้อมข้างทาง ตึก6,ตึก5,ตึก4,ตึก3,ตึก2,และตึก1 เสี้ยววินาทีนั้น ผมก็ค้นพบเส้นทางวงกลมอีกสายหนึ่ง มันเป็นเส้นทางที่ร่างกายของผมไม่สามารถจะไปวิ่งได้ แต่ชีวิตการเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ของผมกำลังวิ่งอยู่บนเส้นทางสายนี้ควบคู่กันไป

ในแต่ละปีที่มีการเลื่อนชั้นเรียน นักเรียนแต่ละระดับชั้นจะเลื่อนชั้นเปลี่ยนห้องเรียนประจำในลักษณะวนตึกเป็นรูปวงกลม กล่าวคือ ม.1อยู่ตึก 1 เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายนี้ ม.2และม.3อยู่ตึก 5 ม.4อยู่ตึก 4 ม.5อยู่ตึก2 และม.6 ก็กลับสู่ตึก 1 อีกครั้ง มันถูกจัดให้เลื่อนชั้นแบบถอยหลังตามตัวเลขตึก เพราะมันต้องการเตือนเด็กนักเรียนของที่นี่ว่า เวลาของคุณในที่แห่งนี้ค่อยๆหมดลงในแต่ละปี 1 5 4 2 1 ... มันจึงเป็นเส้นทางวงกลม เส้นทางวงกลมของชีวิตการเป็นนักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้

และแล้วผมก็วิ่งครบ 10 รอบแล้ว ขาทั้งสองข้างหยุดวิ่งแล้ว มีเพียงเสียงหอบหายใจที่ยังคงดังอยู่เป็นระยะๆ ตอนนี้เส้นทางวงกลมของผมสิ้นสุดลงแล้ว แต่มันไม่ใช่การสิ้นสุดลงอย่างแท้จริง เพราะเมื่อใดที่ผมต้องการที่จะวิ่งผมก็กลับมาเริ่มต้นเส้นทางนี้เมื่อใดก็ได้ เพียงแค่ผมไม่ลืมสถานที่แห่งนี้ มีเพียงเส้นทางอีกเส้นหนึ่งที่มันกำลังใกล้จะสิ้นสุดลงในไม่ช้านี้เท่านั้นแหละที่ไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีก มันจึงเป็นวงกลมวงเดียวที่มีจุดสิ้นสุดที่คนโรมันไม่มีวันรู้

ผมหยุดนั่งพักที่ม้านั่งหน้าศาลพ่อปู่ ผมนั่งคิดทบทวนคำพูดที่ผมบนไว้แก่ท่านอีกครั้งและมันก็ทำให้ผมชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่า ที่ผมคว้ารางวัลมาได้นั้นเพราะผมบนว่าจะทำประโยชน์ให้แก่โรงเรียนหรือบนว่าวิ่งถวาย10รอบ

แฮ่กๆ ... เสียงหายใจของใครบางคนดังแทรกมา

ผม: เฮ้ย! พวกเอ็งสองคนยังไม่กลับบ้านอีกรึ

เพื่อน2คน: วิ่งแก้บน 126 รอบอยู่

แต่งโดย เม็ดก้อนกรวด รุ่น 126
แต่งเมื่อ ขณะศึกษาอยู่ชั้น ม 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2551

ปล.รุ่นน้องผมแต่งครับ อ่านแล้วประทับใจเลยเอามาแปะไว้บน blog ครับ

Views: 297

Comment

You need to be a member of Manchester City Fan Club in Thailand Website to add comments!

Join Manchester City Fan Club in Thailand Website

Comment by ลุงเล็ก on February 18, 2009 at 8:38pm
ทำใจ ให้ง่ายแล้วก็หายงงไม่ยาก เทพไม่เคยหลอกลวง ไม่เคยตกเบ็ด ไม่มีเอาเปรียบ
บนแล้วไม่ได้ก็ไม่ต้องแก้ ถ้าบนแล้วได้แค่แก้บนแล้วก็ถือว่าหายกัน
แค่นี้ก็ไม่มีก้อนกรวดในรองเท้าหุ้มส้นแล้ว
(ลุงเล็ก แต่งตอนอายุ 47 อีกไม่กี่วันก็ 48)
อืม...อนาคตไกลมากนะสำนวน ถ้อยคำแวดล้อมดีเยี่ยม
อ่านแล้ว ร่างกายขนาดลุงวิ่งมาขนาดนั้น(ตั้งแต่รอบแรกแล้ว)
ยังอุตสาห์คิดโน้นคิดนี้ได้อีก เอาเป็นว่าเรื่องหน้าเดินชมนกชมไม้ก็พอ
เรื่องนี้ลุงก็ขอชมนะ แล้วก็ชอบปนเหนื่อยมากๆด้วย.....เยี่ยมๆๆๆๆ
Comment by B on February 17, 2009 at 12:56am
บางครั้งไร้สาระ ก็ดูเป็นสาระให้ครุ่นคิด

ดูเหมือนความว่างเปล่าแต่ดูแล้วก็มีปีติอยู่ในใจ

ความผูกพัน บทเรียน คำสอน ประเภณี สามารถเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน

สิ่งที่ดีงามทั้งหลายส่งต่อๆกันมา ล้วนสร้างกำลังใจ ก่อความหวัง

ไม่มีบทสรุป เหมือน The wind undermy wing

จาก
Sea gull

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.