Members

ประวัติของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ประวัติศาสตร์ของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ย้อนหลังกลับไปถึงปี ค.ศ. 1880 (พ.ศ. 2423) โดยเริ่มจากการเป็นสโมสรฟุตบอลที่ตั้งขึ้นโดยโบสถ์เซนต์มาร์ค ในเขตเวสต์กอร์ตัน ของเมืองแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ 7 ปีต่อมาทีมก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น อาร์ดวิค เอ.เอฟ.ซี ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่ออย่างถาวรมาเป็นทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างที่เรารู้จักในปัจจุบัน
สโมสรฯ เคยได้เป็นแชมป์ในระดับลีกแชมป์เปี้ยนชิพสองครั้ง แชมป์เอฟเอคัพ 4 ครั้ง ชนะบอลลีกคัพสองครั้ง และเคยชนะได้ถ้วยยูโรเปี้ยนคัพวินเนอร์สคัพมาครองหนึ่งสมัย ยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือที่รู้จักกันดีในนามของ “ซิตี้” หรือ “เดอะบลูส์” อยู่ในยุคปลายทศวรรษ 60 และต้นทศวรรษที่ 70 โดยในช่วงเวลาดังกล่าวภายใต้การนำของโจ เมอร์เซอร์ และมัลคอม อัลลิสัน ผู้ช่วย สโมสรคว้าถ้วยรางวัลมาครองหลายครั้ง บรรดาแฟน ๆ มักจะเรียกช่วงเวลาดังกล่าวว่าเป็นยุคของ “เบล-ลี-ซัมเมอร์บี” สโมสรมีนักเตะฝีเท้าเยี่ยมอยู่ในสังกัดหลายคน เช่น นีล ยัง ไมค์ ดอยส์ และโทนี่บุค
เกียรติยศล่าสุดที่ชาว “ซิตี้” ได้รับคือ ในปี 1976 เมื่อพวกเขาชนะถ้วยลีกคัพและได้มีโอกาสเข้าชิงแชมป์ลีก แชมเปี้ยนชิพในปีถัดมา และทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ ประกอบด้วย โจ รอยล์ โจ คอริแกน เดฟ วัทสัน และเดนนิส ทิวอาร์ท
นาทีแห่งความทรงจำที่สำคัญครั้งหนึ่งของทีม “ซิตี้” เกิดขึ้นที่สนามเวมบลีย์ในปี 1999 เมื่อพอล ดิคคอฟ สามารถยิงประตูตีเสมอได้สำเร็จ และทีมก็เอาชนะคู่แข่งในการดวลจุดโทษชี้ชะตาจนทำให้สามารถเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ
“ซิตี้” ย้ายจากสนามไฮด์โร้ดกราวน์ ในถิ่นอาร์ดวิค ซึ่งอยู่ด้านขวาของเมืองมาสู่สนามที่สร้างเพื่อสโมสรโดยเฉพาะที่เมนโร้ด ในปี 1923 และสโมสรก็ปักหลักอยู่ที่สนามนี้นานถึง 80 ปี ก่อนที่จะย้ายเข้ามาครอบครองสนามกีฬา ซิตี้ ออฟแมนเชสเตอร์ ซึ่งเป็นสนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพอังกฤษ ในปี 2002 แม้ว่าจะมีการย้ายสนามแต่สโมสรก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของเมืองแมนเชสเตอร์ สนามเดิมที่เมนโร้ดได้รับการขนานนามว่าเป็น “เวมบลีย์แห่งภาคเหนือ” และที่สนามเมนโร้ดแห่งนี้เองก็เคยรองรับผู้ชมได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังของอังกฤษโดยในนัดที่มีการแข่งตัดเชือกกับสโตค ซิตี้ โดยมีแฟนบอลเข้าชมถึง 83,569 คน เราได้ใช้สนามแห่งนี้ในการแข่งขันเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศหลายครั้ง และในระยะหลังตั้งแต่ย้ายมายังสนามใหม่นี้ สโมสรก็ได้ใช้สนามในการจัดคอนเสิร์ตและการแสดงต่าง ๆ


สีเสื้อประจำทีมของ “ซิตี้” คือสีฟ้าอ่อน (sky blue)
เหตุการณ์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของทีม
1899 : “ซิตี้” เป็นแชมป์ดิวิชั่น 2 ทำให้ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาแข่งขันในดิวิชั่น 1 โดยอัตโนมัติ
1923 : มีการเปิดสนาม “เมนโร้ด” โดยสามารถจุผู้ชมได้ถึง 90,000 ที่นั่ง และในปีฤดูกาลแรกที่เปิดใช้งานก็มีเกมที่มีผู้ชมมากถึง 76,166 คน ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่สูงที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยุคนั้น
1926 : เป็นยุคที่ “ซิตี้” ไม่มีผู้จัดการทีม แต่ทีมก็สามารถเป็นทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ทีมแรกที่ได้เข้าไปเล่นที่สนามเวมบลีย์ ในนัดชิงฟุตบอลเอฟเอคัพ (แม้จะพ่ายแพ้ก็ตาม) นอกจากนี้ยังบุกไปชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในศึกดาร์บี้แมตช์ถึงถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดได้ถึง 6-1 ซึ่งเป็นสถิติการทำประตูในศึกแมนเชสเตอร์เดอร์บี้ แมตช์สูงสุดตลอดกาล แม้ว่าจะต้องตกชั้นในฤดูกาลเดียวกันนั้นเอง
1934 : มีการทำสถิติผู้เข้าชมสูงสุดถึง 84,569 คน ในสนาม “เมนโร้ด” ในนัดที่ซิตี้เจอกับสโตคซิตี้ และปีนั้นเองซิตี้ก็มีชัยเหนือปอร์ทสมัธ และคว้าถ้วยเอฟเอคัพมาครองได้สำเร็จ
1937 : “เดอะบลูส์” มีชัยชนะเป็นแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรก
1956 : ซิตี้ คว้าถ้วยเอฟเอคัพมาครองได้อีกครั้ง โดยมีชัยเหนือทีมเบอร์มิงแฮมซิตี้ การแข่งขันในรอบชิงเอฟเอคัพปีนี้เป็นแมตช์ที่อยู่ในความทรงจำของชาว “เดอะบลูส์” ทุกคนด้วยผลงานซุปเปอร์เซฟสุดยอดของเบิร์ท เทราท์แมน ที่ลงเฝ้าเสาทั้ง ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บที่หลังจากการสกัดลูกของทีมฝั่งตรงข้าม
1968 : ทีมสามารถมีชัยเหนือ “นิวคาสเซิล” ได้ในการดวลแข้งวันสุดท้ายของฤดูกาล และผลจากชัยชนะวันนั้นเองทำให้สามารถนำถ้วยลีกแชมเปี้ยนชิพกลับคืนสู่ถิ่น “เมนโร้ด” ได้อีกครั้งหนึ่ง
1969 : “ซิตี้” สวมเสื้อลายแดงดำซึ่งออกแบบโดย มัลคอม อัลลิสัน ชนะเอฟเอคัพ โดยมีชัยเหนือเลสเตอร์ไป 1-0 ที่สนามเวมบลีย์
1970 : ชัยชนะยังคงหลั่งไหลเข้ามาสู่ทีม “ซิตี้” เมื่อคว้าชัยเหนือถ้วยยูโรเปี้ยนวินเนอร์คัพ และเข้าชิงถ้วยลีกคัพได้ในฤดูกาลเดียวกัน
1976 : ชัยชนะในรอบชิงถ้วยลีกคัพ พร้อมประตูแห่งความทรงจำโดยการสร้างสรรค์ของ ปีเตอร์ บาร์นส์ และ เดนนิส ทิวอาร์ท
1999 : ชัยชนะในนัดตัดเชือกรอบสุดท้ายทำให้ “ซิตี้” สามารถข้ามชั้นจากดิวิชั่น 2 ขึ้นมาเล่นในดิวิชั่น 1 ได้
2003 : มีการแข่งขันนัดอำลาสนามที่ “เมนโร้ด” ก่อนที่สโมสรจะย้ายไปอยู่ที่สนามกีฬา”ซิตี้ออฟแมนเชสเตอร์” โดยนัดเปิดสนามเป็นศึกยูฟ่าคัพ
2007 : พตท. ทักษิณ ชินวัตร เข้าซื้อกิจการและเป็นเจ้าของคนใหม่ของสโมสร โดยได้ตั้งสเวน-โกสัน อีริคสัน เป็นผู้จัดการทีม ปีนี้เป็นปีที่ผลงานในช่วงต้นฤดูกาลของสโมสรดีที่สุดในรอบ 105 ปี โดยชนะเกมเหย้าถึง 8 เกมติดต่อกัน
ซิตี้ประสพความสำเร็จในการเสนอตัวเป็นผู้จัดการแข่งขัน “ยูฟ่าคัพ” รอบชิงชนะเลิศ ในปี 2008

(ข้อมูลจากซีดีที่ได้รับจากงานเซ็นสัญญา 3 นักเตะ)

Views: 4505

Comment

You need to be a member of Manchester City Fan Club in Thailand Website to add comments!

Join Manchester City Fan Club in Thailand Website

Comment by I'm love Man city From''เพชรบุรี on September 14, 2011 at 3:42pm
เรารัก เเมนซิ !!!!
Comment by จิภาพัฒน์ อารีย์อัญชุลีกร on January 12, 2011 at 4:35pm
ทีมนี้เจ๋ง
Comment by J-JuNe >FighTo FighTo on October 16, 2010 at 6:24am
ขอบคุณค๊า
Comment by นัย นครศรี on February 20, 2010 at 11:18pm
การที่จะประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง

มันต้องมีอุปสัก แชกเช่น แมนซิตี้
Comment by โจ๊ย Mc on December 25, 2009 at 1:40pm
สุด ยอด เลย

สมแล้ว ที่ เป็น เรือใบฟ้า
Comment by nine on August 15, 2009 at 6:19pm
สุดยอด สุดจนยอด ต่อไม่ได้ เพราะมันสุดยอด
ของต้นไม้ใหญ่อย่างทีมนี้
Comment by ดุเดือด on December 2, 2007 at 11:31am
สุดยอด
Comment by ดุเดือด on December 2, 2007 at 11:31am
สุดยอด
Comment by ดุเดือด on December 2, 2007 at 11:31am
สุดยอด

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.