ปกติผมเฉยๆกับทีมไทย แต่เมื่อ 3 หนุ่มได้เศ็นสัญญากับแมนซิตี้ ผมก็สนใจขึ้นมาทันที เพราะมีพิธีกรคนหนึ่ง (สื่อลิ่วล้อ) วิจารณ์ว่า เด็กสามคนนั่นฝีมือก็งั้นๆ แต่ที่ได้ไปอังกฤษเพราะเป็นเรื่องการเมือง นั่นแหละผมก็เลยถึงบางอ้อกับคำถามที่ว่า ทำไมประเทศไทยจึงไม่เจริญซะที ก็เพราะไอ้พวกมือไม่พายเอาทาราน้ำแบบนี้มันมีเยอะเกินไป มีปากสักแต่พูดๆ มันไม่คิดเลยว่า "ซิซู" ของญี่ปุ่นซึ่งเป็นคนจุดประกายให้บอลซามูไรเป้นทีมเกรดเอของเอเชีย เขาเป็นนกเตะแลกโฆษณาของสินค้าญี่ปุ่นยี่ห้อหนึ่งเสียด้วยซ้ำ คือเจ้าของสินค้าเขาชาตินิยม เขาบอกทีมต้นสังกัดถ้าจะให้เซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์ ต้องเอาเด็กของเขาไปเล่น คือไปเล่นจริงๆไม่ใช่ซ้อม จะลงกี่นาที แมทช์อะไรก็ช่าง ไม่เกี่ยง แล้วเซ็นสัญญาเป็นเรื่องเป็นกันไว้เลย
แล้วการที่แมนซิตี้เซ็นสัญญากับเด็กไทยรุ่นลูกรุ่นหลานสามคนนัน บางคนทำจะเป็นจะตาย ทั้งไอ้บัง อีแต๋ว ไอ้หื่น ฯลฯ (สนธิ เสรี กนก ฯลฯ) ก็ต้องถามว่า เป็นคนไทยหรือเปล่า หรือว่าไปเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนบ้าไปแล้ว แต่ถ้ามีใจเป็นธรรม ตัดเรื่องฝีเท้าของเด็กซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์กันเรื่อยๆ ออกไป การเซ็นสัญญาครั้งนี้เป็นเรื่องของชาตินิยม คือมีโอกาสเขาก็ทำ ถ้าไม่ทำตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าชาติไหนจะได้ทำ แต่เมื่อทำแล้ว มันมีแต่ผลดีต่อส่วนรวม ต่อความเป้นชาติอย่างเอนกอนันต์ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ช่วงนี้มาเลเซียเขาส่งนักบินอวกาศคนแรกของเขาไปโคจรรอบโลกกับยานรัสเซีย เขาประโคมข่าวไปทั่วโลกและก็สร้างความภาคภูมิใจให้กับมาเลย์ทุกคน ทั้งที่ถ้าจะวิเคราะห์จริงๆ นี่ก็คือการเมืองระดับภูมิภาค รัฐบาลมาเลเซียคุยทับเพื่อนอาเซียนเลยว่า คนมาเลเซียเป็นชาติอาเซียนรายแรกที่ได้ขึ้นไปท่องอวกาศในขณะที่หลายชาติยังต้องการความดูแลอย่างเร่งด่วน งานนี้หน้าม้านกันถ้วนหน้า
นั่นเองที่ทำให้ผมเข้าใจว่าทำไมสามนักเตะไทยก็ได้เซ็นสัญญากับแมนซิตี้ในช่วงนี้ มันไม่ใช่แค่เกมการเมืองในประเทศหรอก จะเซ็นไม่เซ็น พปช.ก็ชนะถล่มทลายอยู่ดี ดูนโยบาย ตัวผู้สมัคร และแรงตอบรับจากผู้คน บอกได้คำเดียวว่าเหลือเฟือ อย่างน้อยก็เท่าปี 48 นั่นแหละ เพราะ ปชป.ไม่ทำการบ้านเอง จะรอส้มหล่นท่าเดียว ตอนนี้คนปลูกส้มไปปลีกวิเวกกันเกือบหมด ก็ต้องรอต่อไป ประเด็นก็คือ สามนักเตะไทยที่ได้ไปอังกฤษมันก็มีค่าพอที่จะเทียบกับนักบินอวกาศเมเลเซีย แม้จะคนสาขาอาชีพ แต่ภาพพจน์ต่อสายตาชาวโลกก็จะคล้ายคลึงกัน นั่นคืออาเซียนหน้าดำต้องการถีบตัวเองให้พ้นป่าเขาและท้องนาเพื่อให้ฝรั่งหน้าขาวยอมรับบ้าง...แน่นอน อาจต้องใช้ทางลัดที่แยบยล เพราะฝรั่งมันไม่ให้เราผุดเราเกิดง่ายๆ หากจะรอการพัฒนาแบบงูๆปลาๆ เกิดแล้วตายอีกสิบครั้งก็เป็นไปไม่ได้
ใครจะว่ายังไงก็ตาม แต่ผมภูมิใจที่ลูกหลานเราจะได้ไปโลดแล่นในสนามพรีเมียร์ที่แต่ละนัดมีคนดูทั่วโลกนับร้อยล้านคน เอาแค่คำวาชาตินิยมที่เราแทบจะไม่มีเหลือแล้วนั้นก็คุ้มเกินคุ้ม...มาเลย์อาจจคุยทับเรา คนไทยยังไม่มีนักบินอวกาศ เราก็จะบอกว่ามาเลย์ก็ยังไม่มีนักบอลพรีเมียร์เหมือนกัน ก็ว่ากันไป
ทั้งนี้ ผมก็ยังเป็นห่วงว่า สามคนที่ได้เซ็นสัญญาจะพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่เด็กเส้นในเกมทีมชาติเมื่อวานนี้ได้ดีแต่ไหน นั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมต้องสนใจทีมชาติและดูเกมกับเยเมนตั้งแต่ต้นจนจบ และก็โล่งใจที่สามคนเล่นได้สมราคา ช่วยทีมชาติได้เยอะ โดยเฉพาะสุรีย์ที่ใช้เกมโยนยาวไปริมเส้นให้กองหน้าวิ่งแข่งกับกองหลัง รู้เลยว่าได้มาจากแมนซิตี้ ซึ่งก็ทำได้บ่อยครั้ง...ในภาพรวมทีมไทยเล่นได้ดีขึ้น ไม่หวือหวาแต่ว่า "แน่น" และ "นิ่ง" แม้ตอนท้ายๆจะโดนยำจนเป๋ไปเป๋มาแต่ก็เอาตัวรอดไปได้...ต้องแก้ที่แรงปลายให้ได้ คือ ช่วงท้ายมักจะหมดไม่มีก๊อกเสริม บางคนถึงกับเดินเล่นเลยทีเดียว
ก็เป็นเรื่องที่ดี บอลไทยมีการพัฒนาขึ้น หลังจากไปโคกับแมนซิตี้มาก โค้ชหรั่งได้อะไรจากสเวนมาพอสมควรที่ไปร่วมฝึกมาเดือนกว่า
ในยุคที่เราจะต้องอยู่ให้ได้ในโลกที่มีแต่การแข่งขัน อะไรที่เราพอจะแข่งกับเขาได้ก็ต้องลุยทันที อย่างอมืองอเท้า อย่าแค่ขอแค่ข้าวมื้อละจานก็อยู่ได้ เพราะเรายังมีลูกมีหลานที่จะต้องส่งเสียและส่งเสริมอีกมากมาย...ขอฝากไว้ด้วยว่า คุณรักลูกหลานตัวเองแค่ไหน คนไทยคนอื่นๆ ก็รักเหมือนกัน และก็ไม่มีใครหรอกที่อยากจะให้ลูกหลานตัวเองจูงควายไปไถนาหรือถือไต้ไปกรีดยางจนแก่ตายเหมือนพ่อแม่ปู่ย่าตายายของมัน
|
You need to be a member of Manchester City Fan Club in Thailand Website to add comments!
Join Manchester City Fan Club in Thailand Website