แอดมินมีน(แห่งชมรมกองเชียร์ฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้แห่งประเทศไทย)... คนไทยหัวใจสีฟ้า...

จากการที่คนไทยได้เทคโอเวอร์สโมรสรฟุตบอลที่มีประวัติอันยาวนาน อย่างแมนเชสเตอร์  ซิตี้  ถึงแม้ว่า จะไม่ใช่ทีมที่มีแฟนบอลชาวไทยที่ล้นหลาม  แต่มันทำให้ผมรู้สึกภูมิใจและอยากติดตามทีมฟุตบอลทีมนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมเองยอมรับว่าเป็นแฟนของปืนใหญ่อาร์เซนอลก็ตาม   จำได้ว่าในสมัยนั้น อยู่ภายใต้การควบคุมทีมของ  สเวน โกรัน-อีริคส์สัน    สามารถนำทีมเรือใบสีฟ้าชนะแมนยู ได้ทั้งเหย้าและเยือน เป็นสิ่งที่วิเศษสำหรับผมมากๆ   และยังพานักเตะซิตี้มาเยือนไทย      เป็นผลให้  สุรี  สุขะ,  เกียรติประวุฒิ  สายแวว และธีรศิลป์  แดงดา  นักเตะสายเลือดไทย ได้มีโอกาสไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งยุโรป ยิ่งทำให้มีความสนใจ ติดตามความเป็นไปของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้     โดย เริ่มจากการสนใจที่จะหาข่าวต่างๆ     ข้อมูลนักเตะ  จากอินเตอร์เน็ต และนิตยสารต่างๆ มากยิ่งขึ้น  นักเตะในยุคนั้นที่ชื่นชอบ  ก็มี   สตีเฟน  ไอร์แลน  เอลาโน่  และมาร์ติน  เปตรอฟ   การที่ได้รับรู้ข้อมูลและติดตามข่าวสารของทีมแมนซิตี้  อย่างต่อเนื่องทำให้เกิดเป็นความรัก ความผูกพันในทีม  ผมจึงได้ลองหาดูว่าในประเทศไทยนั้นมีกลุ่มแฟนบอลแมนซิตี้หรือไม่  จะได้เชียร์ด้วยกัน    Mcfc.in.th  เป็นเวป แรกๆ และดีที่สุดในตอนนั้น มีการแชทพูดคุยตามประสาคนรักซิตี้    มีกระทู้ข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ  ของทีม  และที่สำคัญจะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลในเวปด้วย   ผมเองก็ลองหาลิงค์บอลมาใส่ในเวป เพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้ดูบอลกัน  จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเวปไปเลย  ทุกครั้งที่มีการแข่งขันฟุตบอล  คำพูดที่ติดหูเสมอ ก็คือ “พี่มีน ขอลิงค์หน่อย “  พี่ๆ เจ้าของเวปก็จึงมอบหมายให้ดูแลเวป ในฐานะ Admin  คงเพราะเห็นว่าผม เข้ามาออนในเวปเป็นประจำ ช่วยหาข่าวและหาลิงค์ ให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน และสิ่งที่ผมทำนั้นไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน แต่เป็นความภูมิใจที่ได้ทำในสิ่งที่ผมรัก  ก็คือ แมนเชสเตอร์ซิตี้    นั่นเอง

            สิ่งที่ประทับใจใน ทีม แมนเชสเตอร์ซิตี้  ก็คือการที่เคยมีคนไทยเป็นเจ้าของ      ถึงแม้ว่าต่อมา กลุ่มอบูดาบี   (Abu Dhabi United investment group) โดยท่าน  ชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน ได้เข้ามาเทคโอเวอร์  ต่อก็ตาม ผมก็ยังรักและผูกพันกับแมนซิตี้ ไม่เปลี่ยนแปลง ตอนนี้ ใครจะเป็นเจ้าของก็ไม่สำคัญ เพราะรักไปแล้ว   และการเข้ามาเทคโอเวอร์ของกลุ่มอบูดาบี  ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของซิตี้(ต้องขอบคุณท่านชีค มากๆครับ) . ด้วยศักยภาพทางการเงินทำให้ซิตี้ซื้อนักเตะระดับซุเปอร์สตาร์เข้ามาเสริมทีม กลายเป็นมหาอำนาจลูกหนังระดับต้นๆ ของโลก     มีผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องทั้งในลีก และเวทียุโรป       และอีกประการหนึ่งคือการที่ได้ร่วมกันเชียร์และพูดคุยกับเพื่อนๆ  พี่ๆ น้องๆ  ในเวป Mcfc.in.th  กลายมาเป็นความผูกพัน  เชียร์ไปคุยไป ทีมชนะ เราก็มีความสุขด้วยกัน  ทีมแพ้ก็เศร้าด้วยกัน   แต่ทุกคนก็บอกว่า ไม่เป็นไร  ยังไงก็จะเชียร์และให้กำลังใจกันต่อไป  อีกภารกิจหนึ่งของผม คือการหาฟูลแมทซ์  หลังจากจบการแข่งขันมาเพื่อให้เพื่อนๆ สมาชิกที่พลาดชม ได้มีโอกาสได้ดูทีมรักแข่งขัน เรียกได้วาไม่ให้พลาดชมการแข่งขันของทีมรักอย่างแน่นอน

            สำหรับ แมนซิตี้ในชุดนี้  ผมชอบทุกคน   แต่ที่พิเศษหน่อยก็เป็นดาวิด  ซิลบา ,กุน อเกวโร่, ยาย่า ตูเร่, อัลบาโร่ เนเกรโด้,ก็องปานี และ ซาบาเลตต้า  ซึ่งทุกครั้งที่ผมเห็น นักเตะเหล่านี้ลงสนาม  แน่นอนว่า โอกาสเก็บสามแต้ม เป็นของแมนซิตี้มีสูงทีเดียว    พูดถึงการทำทีมของมานูเอล  เปรเยกรินี่  กุนซือ คนนี้ ทำให้ผมดูฟุตบอลที่สนุก บุกแหลก  เอนเตอร์เทน คงเป็นเพราะว่าผมชอบสไตล์บอลที่บุกแหลก ไม่รอรับ และนักเตะของเราก็เล่นได้สุดยอดมากๆ ประทับใจกับนักเตะทุกคนครับ  ทุกคนปรับตัวได้ดี  ตัวจริงและสำรองสามารถเปลี่ยนแทนกันได้ตลอด  ผมมีความสุขกับการได้แชมป์ของซิตี้   ซึ่งไม่คาดฝันว่าจะได้มาอย่างรวดเร็ว จากตอนนั้นเป็นทีมท้ายๆ ตาราง ขึ้นมาเป็น ท็อปเทน  ท็อปไฟว์   ท็อปทรี   จนก้าวสู่แชมป์ พรีเมียร์ลีก  ในรอบ  44 ปี   ผมเชื่อว่าแฟนซิตี้ คงจะจำเกมการแข่งขันกับ ควีนปาร์คเรนเจอร์ ได้ดี  วินาที ที่พระเอกของผม กุน อเกวโร่ ยิงประตูแห่งประวัติศาสตร์ ในช่วงทดเวลาเจ็บ  ทำให้ถ้วยแชมป์อยู่ในมือของแมนซิตี้  เป็นการสิ้นสุดการรอคอยแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ยาวนานกว่า 44 ปี ได้สำเร็จ  

กับประตูที่ 100....สถิติใหม่ในพรีเมียร์ลีก

          จากสถิติเดิมเซลซีเป็นทีมที่ยิงประตูที่ 100  ได้  ในนัดที่  42  ตั้งแต่ปี 2009 – 2010   เกมนี้จึงเป็นเกมที่แฟนบอลรอคอยกับการสร้างสถิติใหม่ และแล้วมันได้ถูกทำลายลง โดย เอดิน เซโก้  กองหน้าตัวเก่งของ ซิตี้ ในเกมที่เจอกับคาร์ดิฟ ซิตี้  ที่สนามเอดิฮัท สเตเดียม ในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา  ซึ่งเป็นสถิติใหม่ในพรีเมียร์ลีกที่สวยสดงดงาม  โดยสามารถยิง 100 ประตูได้ก่อนทีมอื่นถึง 8  นัด คือสามารถยิงประตูที่ 100  ได้ ใน 34  เกม  และคาดว่าคงจะเป็นสถิติที่อีกนานกว่าจะมีทีมไหนมาทำลายได้  ตอนแรกผมเองมองว่า  กุน อเกวโร่  น่าจะได้ลงเป็นตัวจริง และเป็นคนยิงประตูที่ 100   ให้กับ ซิตี้  แต่กุนกลับมีชื่อสำรอง  ดังนั้น  จึงมาลุ้นสองกองหน้าเทพบุตรลูกหนังระหว่าง เอดิน  เซโก้  กับ อัลบาโร่  เนเกรโด้ ว่าใครจะเป็นคนทำประตูที่ 100 กันหนอ และแล้วประตูสำคัญที่ตั้งตารอคอยก็เกิดขึ้นในนาทีที่ 14 โดยฝีเท้าของ เอดิน เชโก้ ซึ่งประตูนี้ยังเป็นการใช้ระบบ โกล์-ไลน์เป็นครั้งแรกเข้ามาช่วยในการตัดสินด้วย และปรากฎว่าเข้าไปเต็มๆใบไร้ข้อกังขา สุดยอด!!! เล่นเอาแฟนบอลอย่างพวกเรา อดส่งเสียง เฮๆๆๆ ออกมาไม่ได้ และหน้าแชทเวปบอลก็พิม เย้ๆๆ เฮๆๆ เชโก้สุดยอดๆๆ กันไม่ขาดสาย ดีใจกับประตูที่ 100 กันอย่างเต็มที่ และหวังว่ามันจะเป็นความทรงจำที่ดี ขอให้ประวัติศาสตร์ที่สร้างนี้จะถูกบันทึกไปอีกนานแสนนาน โดยยากที่ทีมไหนจะมาทำลายได้ นอกจากทีมซิตี้จะมาทำลายเอง 555 ^^

ผลงานทีมโดยรวม

              จากฟอร์มการเล่นของทีม แมนเชสเตอร์ซีตี้ ภายใต้การคุมทีมของ มานูเอล เปเญกรินี่    ตอนนี้ โอเคแล้วครับกับการทำทีมของกุนซือเปเญ่   ในต้นฤดูกาล นัดเปิดสนามเจอนิวคาสเซิล  ซิตี้ได้ถล่มนิวคาสเซิลในบ้านไป 4-0  ด้วยฟอร์มเปิดตัวต้นฤดูกาลอันร้อนแรงทำให้ถูกมองและยกให้เป็นเต็งหนึ่งในการ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2013-2014 แน่นอน     แต่ต่อมาผลงานเกมเยือนนั้นกลับทำได้ ไม่ดี  โดยบุกไปแพ้ ถึง  4 เกม  และเสมอ 2 เกม ทำให้การคาดหวังที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกนั้น ดูเหมือนจะริบหรี่ลง ผมและแฟนบอลหลายๆคนได้แต่หวังว่า ทีมของเราจะทำผลงานเกมเยือนให้ดีขึ้น และหวังเพียงการคว้าตั๋วเข้าไปแข่งใน รายการยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกเท่านั้น   เพราะมองว่า  มานูเอล เปรเญกรินี่  ยังใหม่มากกับพรีเมียร์ลีก คงต้องให้โอกาสทำทีมสักระยะในฤดูกาลนี้ ในการปรับทีมให้พร้อมสำหรับการล่าแชมป์ในฤดูกาลถัดไป แต่ไม่น่าเชื่อว่า       เปเญกรินี่ ใช้เวลาเพียงไม่นาน   หลังจาก ซิตี้ บุกไปแพ้ ซันเดอร์แลนด์    1- 0  ในเกมที่ 11 ถือว่าเป็นเกมสุดท้ายที่แพ้นอกบ้าน     หลังจากนั้น ซิตี้ ก็ไม่เคยแพ้ทีมไหนอีกเลย   ยิ่งเป็นเกมในบ้านแล้ว  ซิตี้ยิงประตูได้ถล่มทลาย  มีเกมรุกที่น่ากลัว   สามารถเอาชนะทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกได้   ชนะแมนยู  4 – 1 , ชนะสเปอร์ 6 – 0 ,  ชนะ อาร์เซนอล (ซึ่งเป็นจ่าฝูง)  6 – 3  และชนะลิเวอร์พูล(ในช่วงฟอร์มร้อนแรง)  2- 1, แถมชนะเอฟเวอร์ตัน ซึ่งซิตี้มักแพ้ทางมาตลอด 3 -  1     เรียกได้ว่าทีมไหนมาเยือนถิ่น เอดิฮัท แล้วต้องมีหนาวๆร้อนๆทุกทีม จนพวกเราแฟนคลับซิตี้ชาวไทยให้ฉายา สนามเอทิฮัดว่า นรกของทีมเยือน(ฉายาดูโหดไปไหม แต่ก็ดูจะเหมาะสมที่สุด อิอิ )   ทำให้ในความคิดของผมตอนนี้มั่นใจว่า ซิตี้ มีโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสูงมาก  และยังมองไปถึงการทำลายสถิติ ด้วยการคว้า  4 แชมป์ใน 1 ฤดูกาล นั้นมีโอกาส และความเป็นไปได้ ไม่ใช่เพียงแค่ฝัน อีกต่อไป

ขอขอบคุณภาพ Nut Siriphuthorn

            แน่นอนแล้วสำหรับการเข้าไปรอชิงชนะเลิศในศึก แคปปิตอล วันคัพ ซึ่งในเกมแรกซิตี้สามารถเอาชนะ เวสแฮมป์ 6 – 0   และจะไปเยือนนัดที่ 2 ในวันอังคารนี้  ซึ่งโอกาสเข้าชิงนั้นน่าจะ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยจะเข้าไปชิงชนะเลิศ กับผู้ชนะ  ระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมเมือง หรือ ซันเดอร์แลนด์  ก็ต้องลุ้นกันต่อไป(และล่าสุด ซันเดอร์แลนด์เอาชนะจุดโทษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าไปชิงกับ เรือใบสีฟ้า)

            สำหรับในถ้วย เอฟเอ คัพ   จากนัดรีเพลย์กับ แบล็คเบิร์น  ในคืนพุธที่ผ่านมา ซิตี้ เอาชนะไปได้ 5-0 (เกมแรกบุกเสมอ 1-1)สามารถผ่านเข้ารอบต่อไป และเป็นทีมเต็งในการคว้าแชมป์(ล่าสุด เปิดบ้านเอาชนะ แตนอาละวาด วัตฟอร์ด 4-2(โดยครึ่งแรกซิตี้พลาดโดนนำไปก่อน  0-2 แต่ก็พลิกยิงแซงกลับมาเอาชนะได้) )

            สิ่งที่น่ายินดีและทำให้แฟนๆ  แมนซิตี้  มีความสุขคือการผ่านเข้ารอบ  16  ทีมสุดท้าย  ในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนลีก หรือ UCL ได้เป็นครั้งแรก   โดยเฉพาะเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ซิตี้สามารถบุกพลิกแซงเอาชนะ   ทีมยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปและเป็นแชมป์เก่าด้วย อย่าง  บาร์เยิร์น มิวนิค  ด้วยสกอร์ 2-3(โดนนำไปก่อน 2-0)  ซึ่งในเกมนี้เหมือนกับเป็นเกมที่เรียกความมั่นใจให้กับนักเตะของทีม  เพราะหลังจากเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ก็ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อทีมไหนอีกเลย    แต่ จากการจับฉลากในรอบ  16 ทีม  นั้น ต้องเจอทีมยักษ์ใหญ่อย่างบาเซโลน่า   ซึ่งใครก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ในระดับต้นๆของโลก(ไม่เบอร์1 ก็เบอร์2)  เป็นแชมป์  UCL  แล้ว 4  สมัย  ในขณะที่ซิตี้เองยังใหม่ สำหรับถ้วยนี้(ในชื่อยูฟ่่าแชมเปี้ยนลีก)     แต่ไม่เป็นไรครับ บอลลูก กลมๆ และด้วยฟอร์มทีมตอนนี้ ใครกันแน่ที่จะกลัวใคร บาร์ซ่าก็อาจจะต้องกลัวที่จับสลากมาเจอกับซิตี้ชั่วโมงนี้ก็ได้  ผมเชื่อว่าทีมของเรามีโอกาสพอๆกับบาร์ซ่าที่จะผ่านรอบนี้ไปได้ อยู่ที่ความพร้อมของตัวผู้เล่นหลักและทีม  เริ่มด้วยการแข่งในบ้าน ซึ่งจะแข่งกันในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ หาก ซิตี้เล่นด้วยฟอร์มที่ดีกับเกมในบ้านเหมือนที่ผ่านๆมา สามารถยิงประตูบาร์ซ่า ตุนเอาไว้ ให้ชนะเยอะๆ เหมือนกับที่ยิงทีมอื่นที่มาเยือนได้  โอกาสที่จะเข้ารอบก็จะยิ่งสูงขึ้นไปด้วย  หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ  ก็ถือว่าเซอร์ไพรส์  แฟนบอล เป็นที่สุด   ผมเองเชื่อว่า แฟนๆ ของเรือใบสีฟ้า คงจะรอลุ้นไปกับผมด้วยเช่นกัน   ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทีมรัก เรือใบสีฟ้านะครับ  ขอให้ทำประวัติศาสตร์หน้าใหม่ๆให้สำเร็จ ทำให้เต็มที่นะครับเรือใบสีฟ้าของพวกเรา แมนซิตี้สู้ ๆ

       สิ่งหนึ่งที่ผมอยากฝาก....ก็คือการที่ซิตี้ได้ดันดาวรุ่ง ขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่เหมือนที่เคยดัน ไมร์ก้า ริชาร์ด,สตีเฟ่น ไอแลนด์,ไมเคิ่ล จอนสัน,แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล,แดเนี่ยล สเตอริด ที่ปัจจุบันมีชื่อเสียงเปนที่รู้จักของแฟนบอล เรามี Acadamy ที่มีชื่อเสียงในการปั้นนักเตะไม่แพ้ใครในเกาะอังกฤษ และยิ่งตอนนี้ทางสโมสรของเราได้ลงทุนสร้าง Acadamy  ให้ยิ่งใหญ่ครบวงจรไม่แพ้ทีมบาร์เซโลน่า มีผู้บริหาร และ ผู้จัดการทีมชั้นยอด จึงหวังอย่างยิ่งว่า จะได้เห็นนักเตะเยาวชนของทีม ได้เกิดและมีชื่อเสียงในสีเสื้อเรือใบสีฟ้าชุดใหญ่ เหมือนที่เคยผ่านมาครับผม

            ขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ  ชาว แมนซิตี้ที่น่ารักทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์รุ่นเก่ารุ่นใหม่    ที่เข้ามาร่วมเชียร์ด้วยกัน ใน  ชมรมกองเชียร์ฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้แห่งประเทศไทย   ทำให้การเชียร์ทีมรักมีสีสัน มาพูดมาคุยให้บ้านเรือใบแห่งนี้รู้สึกอบอุ่น  ร่วมทำกิจกรรมที่จัดขึ้น ทั้งการเล่นเกมทายผลประจำฤดูกาล และนัดพิเศษ  กิจกรรมการกุศล และกิจกรรมมีทติ้ง  ซึ่งจัดขึ้นสำหรับคนที่มีหัวใจเดียวกัน  ขอบคุณสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้  ที่ได้สร้างทีมฟุตบอลที่เป็นศูนย์รวมดวงใจของพวกเราชาวแมนซิตี้ เป็นบึกแผ่นขึ้น    ผมในฐานะผู้รับผิดชอบในหน้าที่แอดมิน ของเวป Mcfc.in.th  สัญญาว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อทีมรักของพวกเราชาวเรือใบสีฟ้า หากสมาชิกท่านใด มีสิ่งใดแนะนำผมยินดีรับฟัง  และต้อนรับทุกท่านด้วยความยินดี  ผมบอกได้เลยว่าถึงแม้ซิตี้จะแพ้หรือชนะในเกมการแข่งขัน    จะอยู่ในลำดับเท่าใดในลีก ก็ตาม ผมก็ยืนยันคำเดิมว่า ผมมีหัวใจสีฟ้า  คือ แมนเชสเตอร์ซิตี้ เท่านั้นที่อยู่ในใจของผม และจะเชียร์แมนซิตี้ไปด้วยกันตลอดไป...

เชื่อเหลือเกินว่าแมนซิตี้ในประเทศไทยต้องเติบโตขึ้นมากกว่านี้หลายเท่าใน 1-2ปีนี้อย่างแน่นอน... ..ขอบคุณครับ...แมนซิตี้จงเจริญ